ร้านอาหารต่างๆ ในญี่ปุ่นจ่อปรับขึ้นราคาอย่างต่อเนื่องในปี 2018

ร้านอาหารต่างๆ ในญี่ปุ่นจ่อปรับขึ้นราคาอย่างต่อเนื่องในปี 2018

ร้านอาหารต่างๆ ในญี่ปุ่นจ่อปรับขึ้นราคาอย่างต่อเนื่องในปี 2018
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เข้าสู่ปีใหม่ 2018 กันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เริ่มต้นปีใหม่ทั้งที ใครๆ ก็อยากให้มีแต่สิ่งดีๆ เกิดขึ้นในการเริ่มต้นใหม่นี้ใช่ไหมล่ะ แต่ในปีใหม่นี้มันก็ดูจะเศร้าหน่อยๆ สำหรับคนญี่ปุ่น เพราะตั้งแต่ต้นปีก็มีข่าวที่ไม่น่ายินดีสักเท่าไหร่ เนื่องจากวงการร้านอาหารของญี่ปุ่นทยอยขึ้นราคาอาหารกันอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสาเหตุก็ไม่ได้มาจากการที่ราคาวัตถุดิบแพงขึ้นแต่เพียงอย่างเดียว แต่ค่าแรงของพนักงานก็เพิ่มสูงขึ้นด้วยเช่นกัน ทำให้ผู้ประกอบการธุรกิจร้านอาหารต้องเผชิญกับภาวะยากลำบากมากขึ้นเรื่อยๆ


ทยอยขึ้นราคากันอย่างต่อเนื่อง

การปรับขึ้นราคาอาหารในแวดวงร้านอาหารนั้นได้เริ่มมาตั้งแต่เมื่อปลายปี 2017 แล้ว อย่างแฟรนไชส์ร้านเหล้า “Torikizoku” ซึ่งมีราคาเมนูอาหารทุกเมนูอยู่ที่ 280 เยน หรือประมาณ 80 บาท (ไม่รวมภาษี) ก็ได้ปรับราคาอาหารขึ้นเป็นเมนูละ 298 เยน หรือประมาณ 85 บาท (ไม่รวมภาษี) ไปเมื่อเดือนตุลาคม 2017 ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในรอบ 28 ปีที่มีการปรับขึ้นราคา และเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2017 ร้านข้าวหน้าเนื้ออย่าง “Sukiya” ก็ได้มีการปรับขึ้นราคาข้าวหน้าเนื้อไซส์กลาง และไซส์ใหญ่จาก 470 เยน (ประมาณ 134 บาท) เป็น 480 เยน (ประมาณ 137 บาท) และในเดือนธันวาคม ร้านเทมปุระชื่อดังอย่าง “Tendon Tenya” ก็ได้ปรับขึ้นราคาเมนูหลักของร้านอย่าง Tendon หรือข้าวหน้าเทมปุระจากราคา 500 เยน (ประมาณ 142 บาท) เป็น 540 เยน (ประมาณ 154 บาท) อีกด้วย
หนึ่งในเหตุผลที่ทำให้วงการธุรกิจร้านอาหารต้องทำการปรับขึ้นราคาก็คือ ราคาของวัตถุดิบที่เพิ่มสูงขึ้น ทั้งราคาข้าว และราคาผักต่างๆ ที่สูงขึ้นอย่างน่าตกใจ เนื่องจากสภาพอากาศที่แปรปรวนอย่างหนัก ประกอบกับราคาของเนื้อวัวที่ใช้ทำข้าวหน้าเนื้อและเนื้อย่างที่นำเข้าจากประเทศอเมริกานั้นเพิ่มสูงขึ้น อันเป็นผลมาจากการที่จีนเริ่มนำเข้าเนื้อสัตว์จากอเมริกา ทำให้เกิดอุปสงค์เพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก ด้วยราคาของวัตถุดิบที่เพิ่มขึ้นจึงทำให้บริษัทผู้ประกอบการร้านอาหารจำเป็นต้องทำการปรับขึ้นราคาเมนูอย่างเลี่ยงไม่ได้

ราคาเบียร์เตรียมปรับขึ้น

นอกจากนี้ราคาเบียร์ตามร้านอาหารยังจะปรับตัวขึ้นด้วยเช่นกัน ตั้งแต่ปี 2017 ก็เริ่มมีร้านอาหารบางส่วนที่ปรับขึ้นราคาไปบ้าง แต่ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2018 เป็นต้นไป ทางผู้ผลิตเบียร์รายใหญ่ของญี่ปุ่นจะเริ่มปรับขึ้นราคาขายส่งเบียร์แล้ว โดยคาดว่าราคาเครื่องดื่มประเภทเบียร์ขวดและเบียร์ถัง เป็นต้น จะปรับขึ้นราว 10% โดยสาเหตุดังกล่าวเกิดจากราคาต้นทุนในการเก็บคืนเบียร์ขวดและเบียร์ถังที่เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งน่าจะส่งผลกระทบต่อราคาขายหน้าร้านด้วย

ปัญหาบุคลากรที่ไม่เพียงพอ

อีกสิ่งหนึ่งที่เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ผู้ประกอบการร้านอาหารต้องปรับขึ้นราคาก็คือ ปัญหาบุคลากรที่ขาดแคลนอย่างหนัก ในแวดวงธุรกิจร้านอาหารที่เน้นให้ความสำคัญเรื่องการต้อนรับลูกค้าจำเป็นจะต้องมีพนักงานร้าน แต่ด้วยค่าแรงพนักงานที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นปัจจัยที่บีบคั้นผู้ประกอบการร้านอาหาร ร้านไหนที่ต้องการจะรักษาพนักงานเอาไว้ให้ได้ก็จำเป็นที่จะต้องปรับปรุงสวัสดิการต่างๆ เช่น ค่าแรง เป็นต้น ซึ่งส่งผลต่อการปรับขึ้นราคาโดยตรง ไม่เพียงแต่การปรับปรุงด้านค่าแรงเท่านั้น แต่บริษัทแฟรนไชส์ร้านอาหารใหญ่ๆ ยังพากันปรับปรุงสวัสดิการด้านอื่นๆ อีกด้วย เช่น ร้านโอโตยะได้ตัดสินใจกำหนดให้วันส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่เป็นวันหยุดของร้าน ถือเป็นการปรับปรุงสวัสดิการด้านวันหยุด เพื่อเป็นการปรับปรุงสภาพแวดล้อมการทำงานของพนักงานให้ดีขึ้นนั่นเอง บริษัทต่างๆ ในแวดวงร้านอาหารตั้งเป้าที่จะนำเอาเทคโนโลยี IoT และ AI มาใช้กับการปรุงอาหาร, สั่งอาหาร และคิดเงิน เป็นต้น เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้ดีขึ้น ถึงแม้จะมีทรัพยากรบุคคลไม่เพียงพอก็ตาม

รู้ถึงสาเหตุที่ทำให้ร้านอาหารต่างๆ ในญี่ปุ่นต้องทำการปรับขึ้นราคากันไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ถึงแม้ทางผู้ประกอบการจะพยายามหลีกเลี่ยงอย่างไร แต่สถานการณ์ปัจจุบันก็ทำให้ไม่สามารถคงราคาเช่นเดิมไว้ได้อยู่ดี แต่ท่ามกลางภาวะที่ผู้บริโภคต่างก็พยายามรัดเข็มขัดไม่ใช้จ่ายฟุ่มเฟือย ผู้ประกอบการก็ต้องแก้โจทย์หาบริการที่สามารถตอบสอดคล้องต่อราคาที่เพิ่มสูงขึ้น เพื่อสร้างความประทับใจให้กับผู้บริโภคให้ได้

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook