5 เครื่องปรุงที่คนญี่ปุ่นต้องมีติดบ้านกัน

สวัสดีทุกท่าน รอบนี้มาเม้าท์มอยเรื่องของกินกันบ้างดีกว่า เนื่องจากทางเรานั้นเกิดมาทั้งยากทั้งจน ไม่มีตังค์ไปนั่งกินข้าวนอกบ้าน ดังนั้นเราจึงต้องทำกับข้าวกินเองในครัวเงียบๆ คนเดียวว ทำไมชีวิตมันช่างเศร้าเช่นนี้! วันนี้เลยจะมาเล่าเรื่องเครื่องปรุงญี่ปุ่นให้ท่านอ่านกันเพลินๆ ดีกว่า ว่าชาวแจแปนนิสพีเพิ่ลเขามีเครื่องปรุงอะไรติดบ้านกันบ้าง 

---

โชยุ

เริ่มต้นกันที่ โชยุ อันนี้บอกเลย ไม่มีไม่ได้ รสชาติชีวิตท่านจะหายไปเกินครึ่งเลยนะ เพราะนี่คือสุดยอดเครื่องปรุงอันดับหนึ่งของญี่ปุ่น ไม่ว่าจะทำอะไรกินก็ตาม คิดไรไม่ออกก็ใส่โชยุ รสชาติมันจะออกเค็มๆ หน่อย แต่อร่อยมาก เปรียบได้ดั่งน้ำปลาบ้านเรานั่นเอง

ทีนี้โชยุเนี่ย มันก็คือซอสถั่วเหลืองแหละ ทำมาจากถั่วเหลืองเอาไปหมักกับข้าวสาลี แล้วก็ระเบิดออกมาเป็นซอสโชยุ สีที่ได้จะออกน้ำตาลๆ จะเข้มๆ หรืออ่อนๆ ก็แล้วแต่ประเภทของโชยุด้วยนะ เอามาทำอาหารได้เกือบทุกประเภท จะนึ่ง จะย่าง ได้หมด ทำน้ำซุปยังได้เลยนะ ประโยชน์เต็มไปหมด

นอกจากจะเอามาทำอาหารแล้ว จะไม่ทำก็ได้นะ เวลาขี้เกียจทำกับข้าว ก็ซื้อข้าวกล่องหรือซูชิลดราคาจากซูเปอร์มาร์เก็ตมา บางทีโชยุซองๆ ที่แถมฟรีมันไม่พอ หรือไม่อร่อย ก็ใช้โชยุตัวเองนี่แหละ เพราะอย่างนั้นสำคัญมากๆ ซื้อโชยุหอมๆ อร่อยๆ ที่ตัวเองชอบติดไว้สักขวดจะดีมาก

สาเก

สาเกก็คือเหล้านี่แหละพี่น้องเอ๋ย แต่เป็นเหล้าที่ทำจากข้าวและเอาไว้ใช้ทำกับข้าว แอลกอฮอล์ต่ำๆ ประมาณไม่เกิน 13-14 ดีกรีเองนะ

สาเกนี่เขาไม่ได้กะใส่ลงอาหารแล้วจะได้เมาๆ กรึ่มๆ นะ แต่ใส่เพื่อให้รสมันกลมกล่อมขึ้น เวลาผัดๆ ไปแอลกอฮอล์มันก็ระเหยหายไปเยอะนะ กินแล้วก็ไม่ต้องกลัวเมา ที่สำคัญสาเกมีดีในเรื่องช่วยดับความคาว แถมถ้าใช้ในการหมักเนื้อ เนื้อจะนุ่มขึ้นด้วยนะ

คำถามที่ถามบ่อยๆ กันก็คือ แล้วเอาเหล้าธรรมดาที่คุณท่านไว้ซดๆ กันมาทำอาหารได้ไหม จริงๆ มันก็เอามาทำอาหารได้นะ แต่มันแพงและเปลืองเงิน ดังนั้น ญี่ปุ่นเขาเลยผลิตสาเกสำหรับทำอาหารโดยเฉพาะ มีออกมาเยอะแยะหลายแบรนด์ ถูกๆ ทั้งนั้น วางขายในซุเปอร์มาร์เก็ตขวดละสองสามร้อยเยน เลือกกันได้ตามใจชอบ แต่หากท่านจะเอามากรึ๊บก็ได้นะ ประเทศญี่ปุ่นไม่ได้ห้าม แต่อร่อยไหมไม่รู้เหมือนกัน

มิริน

มิริน ก็คือเหล้าอีกนั่นแหละ แต่ต่างจากสาเกนิดหนึ่งตรงที่ มิรินเป็นเหล้าหวาน แล้วท่านๆ รู้กันหรือไม่ว่า มิรินแท้ๆ เนี่ยเขาเอาไว้ซดกันเพลินๆ เหมือนเหล้าธรรมดาได้ด้วยนะ (เฉพาะมิรินแท้ที่เรียกว่า ฮงมิริน) ทั้งใส่น้ำแข็งออนเดอะร็อก หรือจะผสมโซดา หรือใส่ส้มยูซุกับน้ำร้อนกินก็ได้ อร่อยเลิศ นี่ไม่ได้ล้อเล่นนะ แต่มันเป็นเรื่องในอดีตนานมาแล้ว เดี๋ยวนี้ไม่ฮิตกันสักเท่าไหร่ ในเว็บญี่ปุ่นบอกไว้เลยว่าขนาดคนญี่ปุ่นยังไม่ค่อยรู้กัน 

ทีนี้ไม่รู้อย่างไร พอลองเอามาใส่อาหารกลับอร่อยเสียอย่างนั้น โดยมิรินจะนำมาใช้เวลาอยากใส่ให้รสหวานๆ กลิ่นหอมเหล้านิดๆ อาหารก็จะออกมาหวานหอม หมักเนื้อ เนื้อก็จะนุ่มด้วย กินกันเพลินเลยทีนี้ 

อาหารที่มีส่วนผสมของเหล้ามิริน ก็อย่างเช่น ข้าวโอยาโกะด้ง ยากิโทริ ข้าวซูชิ หรืออาหารประเภทซุปๆ ต้มๆ เป็นต้น เวลาใส่แล้วรสจะออกมาหวานๆ หอมเหล้านิดๆ กลมกล่อม กินแล้วอร่อยสุดๆ ขอบอก

แต่จริงๆ ถ้าไม่มีมิรินก็ใส่สาเก แล้วเพิ่มน้ำตาลแทน อาจจะไม่อร่อยเท่าแต่ก็แก้ขัดได้นะ นอกจากนี้ ก็ยังมีมิรินปรุงรสสำหรับทำอาหารโดยเฉพาะด้วย

สุ

สุ ที่ว่านี้ มิใช่สุชาติ สุดา หรือสุกัญญาแต่อย่างใด แต่แปลว่าน้ำส้มสายชูนั่นเอง

ที่ญี่ปุ่นน้ำส้มสายชูจะมีร้อยพ่อพันแม่ ทั้งทำมาจากข้าว ข้าวสาลี หรือผักผลไม้ อย่างข้าวโพด ส้ม หรือแอปเปิ้ลก็มี ตอนทำส่วนใหญ่จะกลั่นกันหลายรอบ รอบแรกจะกลั่นออกมาให้เป็นเหล้าก่อน แล้วค่อยมากลั่นให้กลายเป็นน้ำส้มสายชูอีกที

รสชาติจะออกเปรี้ยวๆ หน่อย แต่เป็นเปรี้ยวอร่อยนะ ใช้ทำผักดอง และปรุงอาหารได้หลายอย่าง อย่างข้าวซูชิที่ท่านๆ รับประทานกันนั้นก็ใช้น้ำส้มสายชูเฉพาะสำหรับการทำข้าวซูชิด้วยนะ ไม่อย่างนั้นข้าวจะไม่อร่อย

มิโซะ

มิโซะเป็นเต้าเจี้ยวญี่ปุ่น ทำมาจากถั่วเหลือง ข้าว หรือข้าวบาเล่ย์ เอามาเพิ่มเกลือ ใส่ยีสต์ญี่ปุ่นที่เรียกว่าโคจิ แล้วหมักจนออกมาเป็นมิโซะนี่แหละ มีหลายแบบด้วย สีและรสชาติจะแตกต่างกันไปตามส่วนผสม แต่จะยืนพื้นอยู่ที่เค็มๆ เป็นหลัก

เอาไปทำอาหารก็ได้หลายอย่าง เอาไปหมักก็ได้ นึ่งก็ได้ ย่างก็ยังได้ และเมนูยอดฮิตที่ทุกท่านต้องรู้จัก นั่นคือซุปมิโซะนั่นเอง

แต่ขอบอกว่ามิโซะเขาไม่ได้เกิดขึ้นมาบนโลกนี้เล่นๆ ให้ท่านกลืนลงท้องแล้วจากโลกนี้ไปเงียบๆ นะ เราเคยดูทีวีมา คุณปู่คุณย่าชาวญี่ปุ่นที่อายุยืนเป็นร้อยปี เขาก็กินมิโซะกับทุกวัน เพราะมีโปรตีนเยอะ วิตามินก็แยะ ทั้ง B1, B2, B6, B12, E, K แถมมีแร่ธาตุอีกเพียบเลย

เท่านั้นไม่พอ พี่เขาช่วยเรื่องการย่อยอาหารและยังช่วยให้ผิวท่านสวยด้วย แต่อย่ากินเยอะไปนะ เดี๋ยวโซเดียมพุ่ง

 

เป็นอย่างไรกันบ้าง นี่แค่พื้นๆ นะ จริงๆ แล้วยังมีอีกเพียบ แต่เกรงว่าท่านจะตาลายกันเสียก่อน ท่านใดชอบกินอาหารญี่ปุ่น หรืออยากทำอาหารญี่ปุ่น ก็ลองดู เพราะอาหารญี่ปุ่นน่ะทำง่ายมาก