เมืองไหนค่าเช่าบ้านถูกที่สุดในญี่ปุ่น?
ค่าเช่าบ้าน เรียกได้ว่าเป็นกำแพงที่สูงที่สุดของคนที่อยากมาเรียนต่อยาวๆ ที่ญี่ปุ่น แต่รู้หรือไม่ว่า จังหวัดไหนที่ค่าเช่าบ้านแพงหรือถูกสุด วันนี้มาชมกันว่าเมืองไหนในญี่ปุ่นบ้างที่น่าไปเรียนต่อหรืออยู่ยาวๆ กัน (เรียงจากแพงที่สุดไปถูกสุดนะ)
อันดับ 1 : โตเกียว (76,600 เยน)
เดาได้ไม่ยากใช่ไหม กับศูนย์กลางความเจริญและเมืองหลวงอันดับหนึ่งของประเทศญี่ปุ่น ที่บางปีก็ติดอันดับโลกในเรื่องค่าครองชีพแพงให้คนที่อยากมาเรียนต่อว้าวุ่นใจเล่น ที่โตเกียวแพงนั้นก็เพราะว่าเป็นแหล่งรวมโอกาสทุกประเภทที่มีอยู่มากมาย ทั้งมหาวิทยาลัยดีๆ งานที่เงินเดือนสูงๆ การเดินทางที่สะดวกสบาย ศูนย์รวมความบันเทิงทุกประเภท และเป็นเหมือนประตูสู่ญี่ปุ่นของชาวต่างชาติมากมายทั้งนักท่องเที่ยวและคนที่อยากจะมาอยู่ยาวๆ จึงไม่แปลกใจว่าทำไมค่าครองชีพโตเกียวจึงแพงที่สุด
เมื่อค่าครองชีพแพง ค่าแรงก็แพง ที่ดินก็แพง ทุกอย่างก็แพงตาม องค์กรสถิติแห่งชาติของญี่ปุ่นได้ทำรายงานเอาไว้ว่าค่าเช่าเฉลี่ยของโตเกียวอยู่ที่ 76,600 เยน (ราวๆ 22,000 บาทเลยทีเดียว) แต่ก็อย่าเพิ่งตกใจไป เพราะนี่เป็นเพียงค่าเฉลี่ย หากใครที่เป็นคนง่ายๆ เช่น ยอมนั่งรถไฟไกลหน่อย ยอมอยู่ห้องเก่าหน่อย เดินไกลจากสถานีหน่อย ก็สามารถหาห้องที่ถูกกว่านี้ได้ไม่ยาก
อันดับ 2 : คานากาว่า (68,000 เยน)
ชื่อของจังหวัดนี้ส่วนใหญ่คนไม่ค่อยคุ้นหู แต่เป็นจังหวัดสำคัญทางใต้ของโตเกียว และเป็นที่ตั้งของเมืองใหญ่อย่างโยโกฮาม่านั่นเอง นอกจากนี้ใกล้ๆ กันก็ยังมีทั้งที่เที่ยวดังอย่างคามาคุระ ภูเขาฟูจิ และฮาโกเนะ รวมดาวมากมายมาไว้ในจังหวัดเดียว แถมตัวเมืองเองก็น่าอยู่และเจริญมากๆ ไม่แพ้โตเกียวเลย โดยเฉพาะที่ใจกลางโยโกฮาม่า ที่มีมหา'ลัยดีๆ บริษัทดีๆ งานเงินเดือนสูงๆ มารวมกันเยอะรองจากโตเกียว จึงไม่ต้องแปลกใจว่าทำไมคนถึงต้องมาแย่งกันอยู่ และดันให้ค่าเช่าบ้านแพงถึงขนาดนี้
สำนักงานสถิติกล่าวว่าค่าเช่าห้องโดยเฉลี่ยของจังหวัดนี้อยู่ที่ 68,000 เยน หรือประมาณสองหมื่นบาทถ้วนๆ ถูกกว่าโตเกียวเล็กน้อย และเช่นเดียวกัน แม้คุณจะเลือกเรียนหรือทำงานใจกลางโยโกฮาม่า แต่ถ้ายอมนั่งรถไฟไกลนิดนึงก็สามารถหาบ้านที่ถูกกว่านี้ได้ไม่ยากเช่นกัน
อันดับ 3 : ไซตามะ (59,000 เยน)
จังหวัดไซตามะอยู่ติดชายแดนทางเหนือของโตเกียว เนื่องจากไม่ได้ไกลจากโตเกียวเลย แถมญี่ปุ่นยังมีระบบรถไฟที่มีประสิทธิภาพ ทำให้คนจำนวนไม่น้อยเลือกที่จะเช่าบ้านในไซตามะ และนั่งรถไฟเข้าไปทำงานกลางโตเกียว นอกจากนี้ ที่ใจกลางของความเจริญของจังหวัดไซตามะก็ยังเป็นที่ตั้งของย่าน Omiya ซึ่งเป็นเมืองขนาดกลางที่มีบริษัทห้างร้านและตำแหน่งงานมากมายที่เงินเดือนสูสีกับโตเกียวและไม่ได้ไกลจากโตเกียวเลย คนที่เลืิอกทำงานที่นี่แทนที่จะเป็นใจกลางโตเกียวก็มีไม่น้อยเลยล่ะ
แม้จะขึ้นชื่อว่าเป็นอันดับ 3 ของประเทศ แต่ก็ยังถูกกว่าใจกลางโตเกียวเยอะอยู่ และยิ่งเรายอมนั่งรถไฟไกลขึ้นเท่าไหร่ค่าเช่าก็ยิ่งถูกลงเท่านั้น เป็นจังหวัดที่เหมาะมากๆ กับคนที่ทำงานกลางโตเกียวแต่อยากประหยัดค่าเช่า ค่าเช่าที่บันทึกมาในสถิติเฉลี่ยอยู่ที่ 59,000 เยน หรือประมาณ 17,000 บาท ถูกกว่าค่าเฉลี่ย 76,000 เยนของโตเกียวอยู่ไม่น้อยเลย
อันดับ 5 : โอซาก้า (53,800 เยน)
ถูกลงมาอีกนิด สำหรับเมืองใหญ่อันดับสองรองจากโตเกียว ซึ่งถูกกว่าจังหวัดใหญ่อย่างไซตามะ และคานากาว่าที่อยู่ติดโตเกียวเสียอีก เป็นทางเลือกที่ไม่เลวสำหรับคนอยากเรียนต่อหรือหางานทำ เพราะเป็นแหล่งความเจริญที่มีที่เรียนและที่ทำงานให้เลือกไม่แพ้โตเกียวเลย
53,800 เยน นั้นคิดเป็นเงินไทยประมาณ 16,000 บาท ถ้าสามารถหางานที่เงินเดือนเท่าๆ กับโตเกียวได้ล่ะก็ ถือว่าเป็นเมืองที่ค่าครองชีพถูกเกินคาดเมืองหนึ่งเลยทีเดียว
ดูอันดับต้นๆ ไปแล้ว แพงไหมครับ ถึงจะแพงแต่ก็เป็นตัวเลือกลำดับต้นๆ เพราะมีอะไรให้ทำมากมายครับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งวัยทำงานที่มักจะต้องอยู่ใกล้กับเมืองใหญ่ เพราะถ้าไปอยู่ที่ถูกๆ แต่ถ้าไม่มีงานให้ทำก็ไม่มีประโยชน์ (แถมงานที่จะใช้ความสามารถของคนต่างชาติแบบเราอย่างเต็มที่ เช่น ภาษา มักจะอยู่ในเมืองใหญ่เสียด้วย)
แต่หากคุณมีเป้าหมายที่ชัดเจน ต่อไปลองมาดูเมืองที่ค่าเช่าถูกๆ กันบ้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งใครที่เน้นมาเรียนต่อ อยากให้รู้ไว้ว่าญี่ปุ่นเป็นประเทศที่มีความเหลื่อมล้ำน้อยกว่าไทยในหลายๆ ด้าน และมหาวิทยาลัยก็เช่นกัน แม้จะไม่ถ่อไปเรียนถึงโตเกียวแต่ก็สามารถหามหา'ลัยต่างจังหวัดมาตรฐานดีๆ ไม่แพ้มหา'ลัยดังๆ ในเมืองได้ (จะต่างจากไทยที่ใครๆ ก็ขวนขวายอยากไปกรุงเทพมหานครนะ) ถ้าคุณหาคณะที่อยากเรียนและอาจารย์ที่ปรึกษาดีๆ ได้ จะไปอยู่ต่างจังหวัดก็ไม่มีปัญหา
อันดับ 14 : ฟุกุโอกะ (45,400 เยน)
ฟุกุโอกะเรียกได้ว่าเป็นเมืองหลวงของคิวชู เกาะแดนใต้ของญี่ปุ่นที่ประกอบด้วย 6 จังหวัด ตัวเมืองของฟุกุโอกะนั้นมีศูนย์กลางอยู่ที่ฮากาตะ ซึ่งนักท่องเที่ยวจะรู้จักในฐานะจุดเริ่มต้นของการเดินทางในคิวชู เป็นเมืองใหญ่ที่มีทั้งสถานีชินกังเซ็นและสนามบินฟุกุโอกะ
สำหรับใครที่คิดจะเลือกมาเรียนต่อหรือทำงานที่นี่ ในฐานะเมืองอันดับหนึ่งของเกาะคิวชูแล้ว ทั้งโรงเรียนและตำแหน่งงานนั้นถือว่ามีให้เลือกเยอะที่สุดในเกาะแน่นอน ที่สำคัญคืออากาศไม่หนาวมาก สะอาด อยู่สบาย การเดินทางสะดวก วันหยุดก็มีที่เที่ยวมากมาย เหมือนเป็นกรุงเทพฯ ที่เจริญแล้ว คิดว่าคนไทยจะอยู่ได้สนุกและไม่มีปัญหาแน่นอน
ด้วยความสะดวก อากาศ ความเข้ากันได้กับไลฟ์สไตล์คนไทย และค่าครองชีพรวมค่าเช่าที่ถูกกว่าโตเกียวเยอะอยู่ ทำให้ฟุกุโอกะเป็นเมืองที่น่าสนอีกเมืองหนึ่งนั่นเอง
อันดับ 39 : นางาซากิ (38,700 เยน)
จังหวัดนางาซากิ เป็นจังหวัดที่คนต่างชาติไม่น้อยรู้จัก ก็เพราะเป็นหนึ่งในเป้าหมายการโจมตีด้วยปรมาณูในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยตัวจังหวัดเองเป็นที่ตั้งของที่เที่ยวดังพอสมควร เช่น สวนสันติภาพ (ดังรูปด้านบน) และสวนสนุกเฮ้าส์เทนบอช สวนที่จำลองบรรยากาศแบบประเทศเนเธอร์แลนด์มาไว้ในญี่ปุ่น
เป็นอีกหนึ่งในจังหวัดที่มีคนไทยมาเรียนไม่น้อยเลย นางาซากิเป็นจังหวัดที่อาจจะขึ้นชื่อเรื่องเที่ยวมากกว่าเรื่องการมาทำงาน เพราะไม่ใช่เมืองใหญ่ ไม่ได้มีออฟฟิศที่ต้องการพนักงานต่างชาติเยอะๆ ส่วนใหญ่บริษัทข้ามชาติในเกาะคิวชูที่ต้องการคนต่างชาติ จะไปกระจุกอยู่ในฟุกุโอกะ เพราะฉะนั้น ถึงแม้ราคาจะถูก แต่คนที่จะมา ก็ควรมีเป้าหมายที่ชัดเจนพอสมควรเลยทีเดียว
แต่ถ้าหากมีแผนการแน่นอน มีเรื่องที่อยากเรียน มีมหาวิทยาลัยเป้าหมายอยู่ที่นางาซากิ ก็ยินดีด้วย เพราะค่าเช่าถูกกว่าค่าเฉลี่ย 76,000 เยนของโตเกียวกว่าครึ่งเลย
ถูกที่สุดในญี่ปุ่น‼! อันดับ 47 : วากายามะ (36,500 เยน)
ในบรรดา 47 จังหวัดของประเทศญี่ปุ่น จากสถิติบอกว่าที่จังหวัดนี้ค่าเช่าถูกที่สุด! จังหวัดวากายามะเป็นจังหวัดที่อยู่ทางใต้ของโอซาก้า แต่แม้จะมีพรมแดนติดกัน แต่ค่าเช่านั้นห่างกันมากมายเลย ค่าเช่ารายเดือนเฉลี่ยอยู่ที่ 36,500 เยน (ประมาณ 10,700 บาท) ซึ่งแม้จะถูกที่สุดในญี่ปุ่น แต่ก็ต้องถามตัวเองก่อนนะว่าไปอยู่แล้ว จะทำงานอะไร เรียนที่ไหน แต่ถ้าสามารถหาได้ล่ะก็ มีโอกาสได้ค่าเช่าถูกกว่าโตเกียวแบบครึ่งๆ เลยนะ
จังหวัดวากายามะ เป็นที่ตั้งของมรดกโลกอย่าง แหล่งศักดิ์สิทธิ์และเส้นทางจาริกแสวงบุญในทิวเขาคิอิ ซึ่งเป็นชื่อเรียกรวมๆ ของวัดและศาลเจ้าประมาณ 20 แห่ง ที่ขึ้นชื่อในฐานะแหล่งแสวงบุญของนักบวชและนักเดินทางสมัยโบราณนั่นเอง