โอซาก้า ดินแดนเสรีของชาวสีรุ้ง
ในปัจจุบันเราจะเห็นได้ว่าประเทศญี่ปุ่นนั้นมีการเปิดรับเทคโนโลยีใหม่ๆ อยู่เสมอ แต่โดยภาพรวมก็ยังคงอยู่ในระเบียบที่เข้มงวดและเชื่อในจารีตอย่างเคร่งครัด เช่น การสร้างครอบครัวที่สมบูรณ์แบบ มันจึงเป็นโจทย์ที่ยากมากสำหรับคู่รักที่มีสถานะเป็นเพศทางเลือก แต่หากได้อยู่ที่โอซาก้าแล้วล่ะก็ ทุกอย่างก็จะเปลี่ยนไป
โอซาก้า
upload.wikimedia.org
โอซาก้านั้นเป็นได้ทั้งชื่อเมืองและจังหวัดหนึ่งของญี่ปุ่น "เมืองหลัก" ของจังหวัดโอซาก้าซึ่งเป็นศูนย์รวมที่เที่ยวของชาวต่างชาตินั้น เป็นพื้นที่เล็กๆ ขนาดประมาณ 200 ตารางกิโลเมตร เล็กประมาณเขตหนองจอกของกรุงเทพฯ แค่เขตเดียวเท่านั้นเอง แต่ก็มีประชากรอยู่มากกว่าสองล้านคน! ส่วนตัว "จังหวัด" โอซาก้านั้นมีประชากรมากเกินกว่า 8 ล้านคน เป็นเมืองหลักแถบคันไซที่ทุกคนให้เกียรติว่ามีความเป็นเมืองหลวงไม่แพ้โตเกียว
แน่นอนว่าจากมุมมองของคนไทย ที่นี่คือเมืองที่มีผู้คนหลั่งไหลมาเพื่อท่องเที่ยวและเสาะหาความสนุกสนานตามแบบฉบับของนักผจญภัย ด้วยอาหารที่หลากหลาย สถานที่อันน่าสนใจไม่ว่าจะเป็นสวนสนุกหรือสถานเริงรมย์ เรียกได้ว่าเป็นจังหวัดที่เปิดรับผู้คนจากภายนอกประเทศเป็นอันดับต้นๆ ของประเทศญีปุ่นเลยก็ว่าได้
การยอมรับผู้มีรสนิยมทางเลือก
upload.wikimedia.org
การยอมรับว่าผู้มีรสนิยมทางเลือกมีอยู่จริง ไม่ใช่เรื่องใหม่แต่อย่างใด
อย่างในภาพ โทโยโทมิ ฮิเดโยชิ และ อิชิดะ มิตสึนาริ ภาพนี้มีอายุมากกว่าสองร้อยปี โดยผู้วาดมีเจตนาชัดเจนที่จะสื่อว่า ทั้งสองมีความสัมพันธ์แบบรักร่วมเพศ
นอกจากนี้ ในปัจจุบัน สื่อสมัยใหม่อย่าง มังงะ อนิเมะ ละคร ก็ล้วนนำความรักของคนเพศเดียวกันสองคน มาทำเป็นเรื่องราวมากมายอย่างเปิดเผย โดยไม่ได้มีการต่อต้านแต่ประการใด
แต่การที่มีกฏหมายออกมารองรับให้กลุ่มคนเพศทางเลือกมีเสรีภาพและสิทธิเท่าเที่ยมบุคคลอื่นๆ นั้น เป็นเรื่องที่ใหม่พอควร เพราะหลายๆ ประเทศหรือเมือง คนออกกฏหมายก็อาจจะยังมีการกีดกันจากกลุ่มศาสนาหัวรุนแรง กลุ่มคนอนุรักษ์นิยม หรืออาจจะแค่ยังนึกไม่ถึงก็ได้
ทั้งนี้ ด้วยความหลากหลายทางวัฒนธรรมและผู้คนที่ผลัดเปลี่ยนเข้ามาแลกความเห็นและปรับมุมมอง ในที่สุดเรื่องที่น่ายินดีที่สุดเรื่องหนึ่งเลยก็ว่าได้ของกลุ่มคน LGBTQ ที่อาศัยอยู่ในโอซาก้าก็เกิดขึ้น เมื่อโอซาก้าเป็นจังหวัดแรกที่อนุญาตให้กลุ่มคนที่รักในเพศเดียวกันสามารถอุปถัมภ์บุตรได้ถูกต้องตามกฏหมายทุกอย่าง โดยไม่แบ่งแยกเพศที่จะต้องดูแลเด็ก ไม่แบ่งว่าจะต้องมีเพียงพ่อหรือแม่ในการดูแลลูก จะเป็นคุณพ่อกับคุณพ่อ หรือคุณแม่กับคุณแม่ก็ได้ ขอเพียงมีคุณสมบัติเพียบพร้อมที่จะดูแลชีวิตหนึ่งชีวิตให้กลายเป็นคนดีของสังคมได้ก็เพียงพอ
www.city.osaka.lg.jp
ในวันที่ 1 มีนาคม 2015 กฏหมายในประเทศญี่ปุ่นเกี่ยวกับสิทธิในการเลี้ยงดูบุตรได้เปลี่ยนไป คู่รักที่มีเพศเดียวกันสามารถรับเด็กไปอุปถัมภ์ได้หากมีความพร้อมทั้งทรัพย์สินและคุณสมบัติที่ดีพร้อมพอ ซึ่งเกิดได้จาก เมงุมิ ฟูจิ หัวหน้าของกลุ่ม Rainbow Foster Care ได้ออกตัวนำเสนอและผลักดันอย่างเต็มที่เพื่อให้กลุ่มคนเพศทางเลือกได้มีโอกาสและสิทธิเท่าเทียมกับบุคคลเพศชายและหญิง
ด้วยเหตุนี้รัฐบาลจึงได้จัดตั้งโครงการขึ้นเพื่อสรรหาสภาพแวดล้อมและพื้นที่ๆ เหมาะสมกับโครงการ และที่ๆ พวกเขาเลือกก็คือที่โอซาก้า เพราะเป็นพื้นที่ๆ โดยรวมแล้ว ประชากรเปิดรับทุกวัฒนธรรมและความเห็นต่างอย่างไม่คิดมาก
ซึ่งคู่รักคู่แรกที่ได้รับสิทธิ์นั้น คือคู่รักชายวัย 30 และ 40 ปี ที่ไม่ต้องการเปิดเผยว่าเป็นใครหรือมีอาชีพและฐานะทางสังคมอย่างไร แต่ทั้งคู่ได้ให้สัมภาษณ์กับทางสื่อว่ารู้สึกยินดีเป็นอย่างมากที่ได้มีสิทธิ์ดูแลและรักเด็กสักคนในฐานะผู้ปกครอง
"ผมมีความสุขมากที่เราได้เลี้ยงดูเขาในฐานะครอบครัว ไม่ใช่เป็นเพียงแค่ผู้อุปถัมภ์"
"สิ่งที่สำคัญสำหรับเขาคือการได้รับความรักจากคนที่โตกว่า หรือการยืนยันว่าเขายังมีตัวตนในชีวิตของใครสักคน"
แม้จะเป็นคำพูดที่ดูเรียบง่าย และสามารถได้ยินทั่วไปจากปากคนเป็นพ่อแม่ที่มีลูกทั่วๆ ไป แต่สำหรับคู่รัก LGBTQ มันมีค่ามากกว่านั้น เพราะไม่ใช่เพียงได้รับโอกาสที่ยิ่งใหญ่ในชีวิต แต่มันคือการเปิดทางให้กับโอกาสของคู่รัก LGBTQ อีกหลายต่อหลายคู่มีโอกาสที่จะได้ใช้ชีวิตที่สมบูรณ์แบบ เป็นครอบครัวที่ดีพร้อมในความหมายที่ "คนธรรมดา" บัญญัติเอาไว้
www.city.osaka.lg.jp
การสร้างครอบครัวที่สมบูรณ์แบบอาจไม่ใช่การที่ต้องมี พ่อ แม่ และลูกอยู่พร้อมหน้า แต่ครอบครัวที่สมบูรณ์แบบจริงๆ คือ ครอบครัวที่สามารถฟูมฟักและเลี้ยงดูชีวิตหนึ่งชีวิตด้วยความรัก ความเอาใจใส่ให้ไปได้ตลอดรอดฝั่งจนถึงวันที่ชีวิตนั้นจะออกไปมีชีวิตใหม่เป็นของตนเอง นั่นต่างหากถึงจะเป็นครอบครัวที่สมบูรณ์แบบจริงๆ
สถานะ อายุ การศึกษา เพศ ไม่ควรถูกนำมาใช้เป็นกฏในการสร้างครอบครัว
โอซาก้าดูเหมือนจะเข้าใจสิ่งนี้