เย้ายวนชวนฝัน! Mari Kurea สาวลูกครึ่งที่อยากจะคอสเพลย์ด้วยความกระตือรือร้น
Mari Kurea สาวคอสเพลย์เยอร์ที่มานั่งคุยกับเราวันนี้เป็นสาวลูกครึ่ง มาพร้อมสัญชาติฟิลิปปินส์และญี่ปุ่น จึงไม่แปลกที่เธอจะพกพาหน้าตาสไตล์คมเข้ม แปลกตาไปจากสาวสัญชาติญี่ปุ่นทั่วไป เราได้พูดคุยกับเธอตั้งแต่เรื่องราววัยเด็กที่เธออาศัยในประเทศฟิลิปปินส์ ก่อนจะย้ายมาอยู่ที่ญี่ปุ่น กลายเป็นโอตาคุ เริ่มคอสเพลย์ และเข้าสู่วงการนางแบบ ซึ่งช่วยให้ มาริ ได้แสดงออกถึงความคลั่งไคล้ของเธอ ที่มีต่อการคอสเพลย์ลงไปในงานด้วย ลองมาดูกันว่าชีวิตของสาวคนนี้เป็นอย่างไรกัน
คอสเพลย์ครั้งแรกตอนทำงานที่ร้านเกมอาร์เคด!
"ฉันใช้ชีวิตอยู่ที่ประเทศฟิลิปปินส์ตั้งแต่ชั้นประถมจนถึงช่วงมหาวิทยาลัย จากนั้นก็เดินทางมาที่ญี่ปุ่น ตอนนั้นฉันทำงานพิเศษที่ร้านเกมตู้ (อาร์เคด) แล้วก็ถูกมอบหมายให้ใส่ชุดคอสเพลย์ค่ะ ตอนนั้นได้แต่งเป็น Boa Hancock จากเรื่อง One Piece ซึ่งถือเป็นการคอสเพลย์ครั้งแรกในชีวิตเลยนะ หลังจากนั้นก็มีโอกาสได้แต่เป็น มิกุ ฮัตสึเนะ (Miku Hatsune) ที่เป็นโวคาลอยด์ด้วย แต่ตอนนั้นก็ยังไม่ได้ชอบการคอสเพลย์เป็นพิเศษนะ กว่าจะชอบก็หลังจากนั้นอีกนานเลย"
เห็นว่าคุณเคยเป็นโอตาคุตัวจริงเลยใช่ไหม?
"ใช่ๆ ตั้งแต่เด็กแล้วล่ะ ตอนนั้นฉันกับพี่สาวชอบดูการ์ตูนด้วยกันที่บ้าน จริงๆ ตอนนั้นฉันยังไม่รู้เลยว่านั่นเรียกว่า โอตาคุ ฉันชอบดูเรื่องเซเลอร์มูน, ซากุระ มือปราบไพ่ทาโรต์ (Card Captor Sakura), Prince of Tennis อะไรแบบนี้ แล้วก็อ่านซีรีส์การ์ตูน ราชันย์แห่งภูต (Shaman King) ที่ลงในนิตยสารการ์ตูนรายสัปดาห์ Shōnen Jump ด้วย ตอนนั้นฉันไปโรงเรียนญี่ปุ่นในกรุงมะมิลา แล้วก็ไปยืมการ์ตูนเพื่อนอ่านประจำเลยค่ะ
ตอนเรียนเกรด 5 ที่โรงเรียน ฉันได้เรียนทำเว็บไซต์ ก็เลยลงเรื่องนิยายในฝันที่อิงจากการ์ตูนหลายๆ เรื่องเอาไว้เพียบเลยค่ะ (หัวเราะ) ตอนนั้นคุณย่าของฉันที่อยู่ญี่ปุ่น ท่านก็ชอบส่งหนังสือประเภทไลท์โนเวลมาให้อ่าน ซึ่งฉันชอบมาก โดยเฉพาะเรื่อง การเดินทางของคิโนะ (Kino’s Journey) อ่อ ฉันยังชอบเรื่องแนว BL (Boy’s Love) ด้วยนะ"
กลายเป็นพวกหมกมุ่นกับของสะสม และเดินทางเข้าสู่มิติแห่ง Love Live!
"พอเข้าเรียนชั้นมัธยมปลาย ความเป็นโอตาคุก็เริ่มสงบลงบ้าง จนพอกลับมาที่ญี่ปุ่นก็มาทำงานที่ร้านเกมอาร์เคดนี่แหละ ทีนี้ความเป็นโอตาคุก็กลับมาใหม่ชนิดเต็มขั้นเลย แล้วจากนั้นฉันก็สวมหัวใจเป็นโอตาคุมาตลอด
อย่างที่เคยเล่าตอนแรก ว่าได้คอสเพลย์เพราะทำงานที่ร้านเกมอาร์เคด แต่ยังไม่อินอะไรมาก แล้วตอนนั้นก็กำลังบ้าสะสมพวกฟิกเกอร์และสินค้าจากการ์ตูนและเกมด้วย ถ้านับแล้วตอนนั้นฉันมีฟิกเกอร์มากกว่าร้อยตัวอีกนะ แถมยังมีพวกของสะสมที่พยายามเก็บให้ครบชุดอีก โดยเฉพาะสินค้าของเซเลอร์มูน กับ ซากุระ มือปราบไพ่ทาโรต์ ที่มาทำขายตอนฉันโตแล้วอีกเนี่ย (หัวเราะ) เรียกว่าเก็บจริงจังเลย
นอกจากสองเรื่องนี้ ก็มีอีกเรื่องที่ฉันเกิดชอบขึ้นมากๆ เลยนั่นก็คือ Love Live! ส่วนหนึ่งก็เพราะฉันต้องรับหน้าที่ดูแล Love Live! ที่ร้านเกมอาร์เคดด้วย ก็เลยต้องดูอนิเมะเพื่อเอามาใช้ในการตกแต่ง และทำป้ายต่างๆ พูดจริงๆ นะ ฉันไม่เคยเป็นไอดอลหรืออะไรมาก่อนเลย แต่ได้ติดตามตัวละครใน Love Live! ไปเรื่อยๆ มันก็ติดหนึบไปโดยไม่รู้เลย แล้วพอหลังจากนั้น ทั้งซีดีเอย ดาวน์โหลดเพลงเอย ก็มากันเพียบ ฉันสั่งซื้อของให้มาส่งที่บ้านด้วยนะ (หัวเราะ) แล้วพอเริ่มมีแอปฯ เกี่ยวกับของสะสมพวกนี้ในมือถือ ฉันก็เริ่มตั้งหน้าเก็บ URs คือพวกการ์ดสะสมที่หายากมากๆ อีกด้วยล่ะ อ้อ ตัวละครในเรื่องนี้ที่ฉันชอบมากที่สุดก็คือ มากิ นิชิคิโนะ (Maki Nishikino) ล่ะ
พอได้มาเป็นนางแบบ ฉันก็เริ่มได้เห็นรูปคนที่แต่งคอสเพลย์เป็น Love Live! จากช่างภาพคนสนิท ที่รีทวีตรูปพวกนี้ในทวิตเตอร์ ก็เลยเริ่มสนใจบรรดาคอสเพลย์เยอร์ขึ้นมา อย่างคนที่ฉันชอบเป็นพิเศษก็คือ Yaya หลังจากที่ฉันติดตามทวิตเตอร์และไปงานอีเวนต์ของเธอบ่อยๆ เข้า ก็เริ่มเกิดความคิดอยากแต่งคอสเพลย์ขึ้นมา"
เปิดตัวในงานคอสเพลย์เป็นครั้งแรก ทั้งๆ ที่ยังไม่รู้วิธีจัดคิวเลย
"อันที่จริงฉันเป็นคนชอบแนวการ์ตูนและคาแรกเตอร์ที่เป็นผู้ชายนะ แต่พอดีว่าช่วงนั้นกำลังชอบเรื่อง สึซึมิยะ ฮารุฮิ อยู่พอดี ก็เลยคิดว่า ฮารุฮินี่แหละน่าจะเป็นตัวเลือกที่ดี ก็เลยเปิดตัวคอสเพลย์ครั้งแรกด้วยการเป็นตัวละครนี้ซะเลย ตอนนั้นอีเวนต์คอสเพลย์เดียวที่ฉันรู้จักก็คือ Comiket ก็เลยใช้งานนี้แหละเป็นเดบิวต์เปิดตัวให้ตัวเอง (หัวเราะ)
ตอนที่ไปงาน หลังจากด้อมๆ มองๆ มาพักหนึ่ง ฉันก็ได้รู้ว่า คอสเพลย์เยอร์จะได้เข้างานก่อนผู้ร่วมงานทั่วไป ฉันก็เลยได้เข้าไปก่อนค่ะ แล้วหลังจากแปลงกายเป็นชุดฮารุฮิ ฉันก็ไปซื้อโดจินชิ Love Live! ของโนอิซิ อิโต้ (Noizi Ito) ผู้วาดภาพประกอบการ์ตูนชุดสึซึมิยะ ฮารุฮิ มาล่ะ เรียกว่าเป็นฝันที่เป็นจริงเลย
จากนั้นพอฉันเดินออกไปด้านนอก ก็มีคนเข้ามาขอถ่ายภาพ ซึ่งหลังจากที่ตอบโอเคไปแล้ว ก็เริ่มมีคนอื่นๆ มาต่อคิวเพื่อถ่ายภาพอีก แต่เนื่องจากนี่เป็นงานแรกของฉัน ก็เลยไม่รู้จักการจัดระเบียบคิวอะไรทั้งนั้นเลย ก็ถ่ายภาพกันไปจนมีสตาฟฟ์เข้ามาขอให้หยุด เพราะเวลาอีเวนต์หมดแล้ว (หัวเราะ)
งานนั้นจำอะไรแทบไม่ได้ นอกจากเหนื่อยมากค่ะ (หัวเราะ)"
มือสั่นตอนที่ถอนขนคิ้วอย่างนั้นเหรอ?!
"แม้ว่าจะเหนื่อยจนหมดแรงจากการไปคอสเพลย์ครั้งแรกที่งาน Comiket แต่ก็ถือว่า ฉันได้ผ่านอุปสรรคด่านแรกมาแล้ว
หลังจากนั้นฉันก็บังเอิญได้เสื้อผ้าจากการ์ตูนเรื่องซากุระ มือปราบไพ่ทาโรต์มา ชุดหนึ่งเพื่อนของฉันทำขึ้นมา ส่วนอีกชุดฉันซื้อเอง จริงๆ ตอนนั้นยังไม่มีแผนจะใส่ไปงานไหนเลยนะ แต่พอดีได้รับเชิญให้ไปถ่ายภาพที่สตูดิโอ ก็เลยได้ใช้ชุดเหล่านี้เลย จริงๆ งานนี้ถือยังว่าเป็นการถ่ายรูปเดี่ยวในสตูดิโอครั้งแรกของฉันด้วยนะ
พอจบงานนี้แหละ ที่ฉันเริ่มรู้สึกว่า ชักอยากแต่งตัวเป็นตัวละครตัวนั้นตัวนี้ แล้วก็เริ่มซื้อชุดของ มากิ นิชิคิโนะ ตัวละครโปรดจากเรื่อง Love Live! มาด้วย
จากนั้นฉันก็คอสเพลย์ไปในงานซึ่งจัดที่ตึก TFT (Tokyo Fashion Town) ซึ่งฉันก็เตรียมตัว ใส่เสื้อผ้าไปอย่างดีนะ แต่พอได้เห็นรูปของฉันที่ถ่ายจากงาน กลับรู้สึกว่าคุณภาพของการแต่งตัวมันดูต่ำมากเลย
ฉันก็เลยเริ่มกลับไปศึกษา โดยดูจากรูปคอสเพลย์ของคนอื่นๆ ไม่ใช่แค่การแต่งตัวนะ แต่รวมถึงการแต่งหน้าและกันคิ้วด้วย คือฉันรู้สึกว่า ถ้าฉันจะจมเงินกับเวลาไปกับการคอสเพลย์ขนาดนี้แล้ว ก็ต้องทำออกมาให้ดีที่สุด ให้รูปถ่ายออกมาดูดีมากกว่านี้ให้ได้ ฉันก็เลยตัดสินใจกันคิ้ว ทีนี้ฉันเคยอยู่ที่ฟิลิปปินส์ใช่ไหมล่ะ ที่นั่นจะเน้นอะไรที่ดูเป็นธรรมชาติ อย่างคิ้วก็เหมือนกัน ดังนั้นนี่จึงถือว่าเป็นครั้งแรกอีกเหมือนกัน ที่ฉันกันคิ้วตัวเอง ตอนนั้นมือสั่นไปหมดเลยค่ะ
จากนั้นฉันก็เริ่มผูกมิตรกับบรรดาคอสเพลย์เยอร์คนอื่นๆ ทำให้ผู้ติดตาม (Follower) ในทวิตเตอร์เริ่มมากขึ้นเรื่อยๆ แล้วรูปภาพแต่ละรูปก็ดูไต่ระดับความเป็นคอสเพลย์เยอร์มากขึ้นเรื่อยๆ ด้วย ส่วนหนึ่งเพราะฉันได้มีโอกาสพบช่างภาพเก่งๆ เยอะ ตอนที่ทำงานเป็นนางแบบ คุณภาพของภาพถ่ายฉันก็เลยดีไปโดยอัติโนมัติ
ฉันเคยได้รับการแนะนำให้กับช่างภาพด้วย ดังนั้นถึงแม้จะยังไม่เป็นที่รู้จักมากนัก แต่ฉันก็มีโอกาสได้ออกหนังสือภาพเป็นมากิ นิชิคิโนะ ด้วยล่ะ"
ด้วยแรงบันดาลใจจากตำนาน สู่การเริ่มต้นออกแบบเสื้อผ้าด้วยตัวเอง
"มีอยู่ช่วงหนึ่งที่ฉันชอบเกมในมือถือ อย่าง เฟท/แกรนด์ ออเดอร์ (Fate/Grande Order (FGO))มาก แล้วตอนนั้นมีตัวละครอย่าง สกาฮะ (Scathach) ยอดนักรบหญิงในตำนานขึ้นมาพอดี ซึ่งฉันอยากได้สุดๆ ก็เลยทุ่มเงินไปเยอะมากกับการสุ่ม Gacha (กิจกรรมที่ผู้เล่นต้องจ่ายเงิน เพื่อนำไปแลกกับสิทธิ์กดสุ่มหาตัวละคร การ์ด หรือไอเท็มต่างๆ ในเกม) แต่ก็ยังไม่ได้ตัวสกาฮะซักที คือจ่ายเงินจนแทบอ้วกเลยแหละตอนนั้น (หัวเราะ)
แล้วพอดีฉันเกิดได้ยินตำนานจากที่ไหนไม่รู้บอกว่า หากอยากสุ่ม Gacha ได้คาแรกเตอร์ตัวไหน ให้คอสเพลย์เป็นตัวละครตัวนั้น ฉันก็เลยคิดอยากคอสเพลย์เป็นสกาฮะขึ้นมา
ถ้าพูดถึงการคอสเพลย์เป็นคาแรกเตอร์จาก FGO ตอนนี้ถือว่าตัวสกาฮะดังมาก แต่ในตอนนั้นยังไม่ค่อยมีใครสนใจตัวละครนี้เท่าไหร่ เสื้อผ้าก็ไม่มีขาย ดังนั้นเมื่อคิดจะคอสเพลย์ ฉันเลยต้องตัดสินใจทำเสื้อผ้าเอง
เชื่อไหมว่า ตอนนั้นฉันไม่รู้เรื่องการตัดเย็บแม้แต่นิดเดียวเลยนะ อย่าว่าแต่ไม่มีอุปกรณ์เลย จะเริ่มต้นอย่างไรก็ยังไม่รู้ด้วยซ้ำ
ฉันก็เลยไปคุยกับเพื่อนที่ทำชุดซากุระ มือปราบไพ่ทาโรต์ที่ฉันเคยใส่ แล้วก็ลองมาทดลองทำดู จริงๆ ต้องเรียกว่า มาลองผิดลองถูกมากกว่า เพราะทำของเสียไปไม่รู้ตั้งเท่าไหร่ จนในที่สุดก็ได้เพื่อนคนนี้แหละมาช่วยฉันไว้ ต้องบอกว่าชุดทำเองตัวแรกของฉัน กว่า 80% ก็เป็นฝีมือของเธอนั่นแหละ
ตอนใส่ชุดนี้ถ่ายภาพฉันตื่นเต้นมาก เพราะเราต้องไปถ่ายในสถานที่พิเศษ จะได้เอาภาพมาใส่สเปเชียลเอฟเฟกต์เพิ่มทีหลังให้ดูเหมือนฉากต่อสู้จริงๆ ช่วงที่ไปถ่ายเป็นกลางฤดูหนาวพอดี แล้วคิดดูว่าชุดนี้เป็นผ้าแบบถุงน่องทั้งตัว คือมันโพสลำบากมากค่ะ (หัวเราะ)"
Mari Kurea กับ 3 อันดับสุดยอดการคอสเพลย์
สกาฮะ (Scáthach) (จากเรื่อง Fate/Grand Order)
"การคอสเพลย์ที่ฉันชอบที่สุด ก็คือการแต่งเป็นสกาฮะนี่แหละ ด้วยปัจจัยทั้งการต้องทำเสื้อผ้าขึ้นมาเอง การถ่ายภาพที่สุดโหด เลยกลายเป็นความทรงจำที่แสนประทับใจของฉันไปเลย"
สึซึมิยะ ฮารุฮิ (จากเรื่อง สึซึมิยะ ฮารุฮิ)
"คาแรกเตอร์ที่ฉันเลือกคอสเพลย์เป็นตัวแรก ตอนนั้นคุณภาพโดยรวมจะยังดูไม่ดีนัก ฉันก็เลยนำคาแรกเตอร์นี้กลับมาคอสเพลย์ใหม่ซะเลยในงาน Comiket เมื่อปลายฤดูหนาวที่ผ่านมา"
มากิ นิชิคิโนะ (Maki Nishikino) (จากเรื่อง Love Live!)
"ฉันมีเสื้อผ้าเธอสะสมไว้เยอะมากเลยล่ะ ดังนั้นถึงเป็นตอนที่คอสเพลย์อยู่ ฉันก็ยังอยากอยู่ลึกๆ ที่จะใส่ให้ครบ (หัวเราะ)"
นอกจากตัวละครเหล่านี้แล้ว ฉันยังเคยคอสเพลย์เป็นคาแรกเตอร์ในซีรีส์การ์ตูน Monogatari ด้วยนะ ไม่ว่าจะเป็น Bakemonogatari หรือ Nisemonogatari รวมถึงตัวการ์ตูนใน Kantai Collection ด้วย
ฉันอยากคอสเพลย์ด้วยความกระตือรือร้น
มีอะไรที่คุณให้ความสำคัญเป็นพิเศษตอนคอสเพลย์ไหม?
"ก็คือ ฉันรักตัวละครนั้น อย่างสุดหัวใจค่ะ
ฉันไม่ใช่แค่หาเงินเลี้ยงชีพจากการคอสเพลย์ แต่ฉันมีชีวิตส่วนตัวที่ทุ่มเททั้งเงินและเวลาให้กับการคอสเพลย์ด้วย ดังนั้นฉันจึงต้องลงทุนกับตัวละครที่ฉันรักจริงๆ เท่านั้น
ฉันรู้ว่าคาแรกเตอร์หลายตัวที่เลือกมาคอสเพลย์ไม่ใช่ตัวที่คนนิยมกันแล้ว จึงทำให้คอสเพลย์แบบกลุ่มกับคนอื่นๆ ได้ยาก ดังนั้นฉันเลยชอบคอสเพลย์แบบคนเดียวมากกว่า ฉันไม่ได้อยากดัง ฉันแค่อยากได้เป็นตัวละครที่ฉันชอบ
ฉันชอบคอสเพลย์เป็นคาแรกเตอร์ตัวเดิมแต่เปลี่ยนเสื้อผ้าใหม่ ถึงกระนั้นฉันก็ถือว่ามีผลงานน้อยเมื่อเทียบกับเลเยอร์คนอื่นๆ ดังนั้นฉันจึงมองว่าตัวเองยังคงเป็นเด็กใหม่ ตอนนี้ฉันไม่มีเทคนิคพิเศษอะไร แต่ก็อยากคอสเพลย์ด้วยความกระตือรือร้นค่ะ"
ความสนุกของการคอสเพลย์คืออะไร?
"ฉันคิดว่าความสนุกของมันคือ การได้คิดว่าจะแต่งตัว ถ่ายภาพ หรือเป็นคาแรกเตอร์อะไรต่อไป มากพอๆ กับการได้เห็นตัวเองกลายเป็นคาแรกเตอร์ตัวโปรด
พูดตรงๆ ว่า การทำเสื้อผ้าเป็นงานยาก และการคอสเพลย์จริงๆ ก็เหนื่อยนะ แต่หลังจากทำแล้ว มันสนุกที่ได้เห็นรูปภาพสวยๆ กลับมา โดยเฉพาะรูปที่ทำให้ฉันดูเหมือนกลายเป็นคาแรกเตอร์ตัวนั้นจริงๆ
อีกอย่างคือ ฉันดีใจที่มีเพื่อน และได้สานต่อความสัมพันธ์ดีๆ กับคนอื่นผ่านการคอสเพลย์ค่ะ"
ฉันอยากไปคอสเพลย์ที่ฟิลิปปินส์
"ฉันว่างานของฉันแบ่งออกเป็นสองส่วน 70% เป็นนางแบบ อีก 30% เป็นคอสเพลย์ เลเยอร์บางคนให้ความสำคัญกับชีวิตคอสเพลย์มากกว่าชีวิตจริง แต่ฉันอยากรักษาความสำคัญของส่วนที่เป็นชีวิตจริงไว้ด้วยค่ะ
ช่วงนี้ฉันกำลังเป็นแฟนของวง Keyakizaka46 อยู่ คนที่ฉันชอบที่สุดก็คือ นานาโกะ นากาซาว่า (Nanako Nagasawa) จริงๆ ฉันตั้งใจอยากสะสมผลงานของวงนี้ทั้งหมด ไม่ว่าจะซีดี สินค้า หรือรูปภาพ คือฉันเป็นเด็กเนิร์ดทั้งแวดวงสองมิติ และสามมิติเลยนะ (หัวเราะ)
ฉันใช้ชีวิตวัยรุ่นอยู่ที่ฟิลิปปินส์ เพื่อนๆ ส่วนใหญ่ของฉันก็อยู่ที่นั่น ดังนั้น หากมีโอกาส ฉันก็อยากไปคอสเพลย์ที่ฟิลิปปินส์ค่ะ"
ติดตามผลงานของ Mira Kurea ได้ที่
Mari Kurea Official Twitter:https://twitter.com/maririnstar
Mari Kurea Official Instagram:https://www.instagram.com/maririnstar.86/
Online shopping site:https://maririnstar.booth.pm
อัลบั้มภาพ 71 ภาพ