พารู้จัก "JILL" สาวคอสเพลย์นักธุรกิจ กับเรือนร่างสุดสะบึม

อย่าให้ความน่ารักหลอกตาคุณได้เป็นอันขาด! เพราะสาวคอสเพลย์เยอร์อย่าง JILL เธอเป็นนักธุรกิจสาวที่ออกแบบเครื่องประดับเป็นงานประจำ ไปพร้อมๆ กับการทำงานอดิเรกที่เธอรักอย่างคอสเพลย์ด้วย วันนี้เราได้มีโอกาสมาจับเข่าคุยกับเธอ เกี่ยวกับชีวิตที่เรียกได้ว่า "มี 2 ด้าน" ว่าเป็นเช่นไร และอะไรคือปรัชญาของการดำเนินชีวิตในแต่ละด้านของเธอกันแน่

---

Otaku → Bangya → Riaju!?

(หมายเหตุ: Bangya คือสาวที่เป็นแฟนวงดนตรีแนววิชวลเคย์ ส่วน เรียจู (Riaju) คือคนที่ใช้ชีวิตในโลกความจริงได้อย่างมีความสุข)

"ฉันคอสเพลย์ครั้งแรกตอนเรียนอยู่ชั้นมัธยมต้น หลังจากตามเพื่อนไปงาน Tokyo Game Show ได้เห็นคอสเพลย์เยอร์มากมายแล้วฉันประทับใจมาก ก็เลยเปิดตัวคอสเพลย์อย่างเป็นทางการกับเพื่อนในงาน Tokyo Game Show ปีถัดมาเลย ตอนนั้นฉันยังทำเสื้อผ้าไม่เป็น ก็เลยไปซื้อผ้ามาจากห้าง Aeon แล้วก็อ้อนแม่ให้ซื้อจักรเย็บผ้าให้ จากนั้นก็เอาเสื้อผ้าที่มีอยู่แล้วที่บ้านนั่นแหละ มาเย็บรวมๆ กับผ้าที่ซื้อมา ตอนนั้นยังไม่รู้จักการคอสเพลย์แบบเป็นคู่เลยนะ ฉันกับเพื่อนก็เลยคอสเพลย์เป็นตัวละครจากคนละเรื่องกัน

ตอนช่วงที่อยู่มัธยมต้น ฉันบ้านิตยสารการ์ตูน JUMP มาก วันๆ คิดแต่ว่าจะไปออกเดตกับตัวละครตัวไหนดี เรียกว่าเป็นยูเมะโยชิน่ะ (ยูเมะโยชิ คือชื่อเรียกสาวโอตาคุ ที่ชอบจินตนาการว่าได้เป็นแฟนจริงๆ กับตัวละครในการ์ตูนหรือเกม) (หัวเราะ)

ฉันจะวาดการ์ตูนแล้วก็เขียนข้อความกับเพื่อนๆ ที่วาดการ์ตูนเก่งๆ ฉันไม่ได้ชอบแค่การ์ตูนนะ ยังชอบเกมแบบ Square Enix ด้วย

หลังจากนั้นพอเข้าสู่ช่วงมัธยมปลาย ฉันลงทะเบียนเข้าเรียนในด้าน นฤมิตศิลป์ (Creative Arts) ซึ่งเป็นการออกแบบศิลปะเพื่อการค้า ตอนนั้นฉันห่างๆ จากการ์ตูนไปแล้ว กลายเป็น Bangya ที่ชอบวิชวลเคย์แทน วงโปรดฉันคือ Dir en grey ตอนนั้นฉันใส่ชุดแบบโกธิกโลลิต้าไปเรียนเลยนะ คือขึ้นรถไฟที่คนแน่นๆ ไปด้วยชุดพองๆ แบบโลลิต้านี่แหละ ตอนนั้นน่ะ ฉันคิดว่าจะเป็นโลลิต้าไปชั่วชีวิตเลย

พอหลังจบการศึกษาจากชั้นมัธยมปลาย ระดับความเป็น Bangya ของฉันก็ลดลง เริ่มกลายเป็นวัยรุ่นธรรมดาๆ แทน แต่ฉันก็ยังไปพวกงานเทศกาลดนตรีอยู่นะ ตอนนั้นฉันชอบเพลงแนวดั๊บ (Dub) กับฮาร์ดคอร์ อ่อ แล้วฉันก็ชอบ Denki Groove วงแนวอิเล็กทรอนิกส์มาตั้งแต่เด็กๆ แล้ว ฉันชอบ ยาสุยูกิ โอคามุระ (Yasuyuki Okamura) ด้วยล่ะ ตอนนั้นเพื่อนเก่าก็ยังชวนฉันไปคอสเพลย์อยู่นะ ซึ่งฉันก็ไปหลายครั้งอยู่"

---

กลับสู่วงการคอสเพลย์ ลดน้ำหนัก 4 กิโลฯ เพื่อการถ่ายภาพ

"ช่วงทำงาน ฉันคอสเพลย์แค่ปีละครั้ง เพราะบริษัทมอบหมายงานให้ทำค่อนข้างมาก แต่ตอนนั้นเองมีช่างภาพที่รู้จักกัน เอารูปในงานชื่อ Wonder Festival มาให้ดู แล้วฉันก็ต้องประหลาดใจมาก ที่ได้เห็นรูปผู้หญิงน่ารักๆ คือน่ารักกว่าที่เคยเห็นที่ไหนๆ เลยนะ มางานนี้กันเพียบ ตอนนั้นเองที่ฉันรู้ว่า มีเลเยอร์ที่ใส่ชุดสวยๆ มากมายมาถ่ายรูปกันในงานนี้

ตอนนั้นฉันเกิดความอิจฉาขึ้นมาเลยล่ะ แล้วช่างภาพคนนั้นก็เอ่ยปากเชิญฉันไปถ่ายรูปที่สตูดิโอ ฉันตื่นเต้นสุดๆ ที่จะได้ไปสตูดิโอกลับไปถ่ายรูปอีกครั้งหลังจากห่างหายมานาน ปัญหาคือตอนนั้นฉันหนักขึ้นตั้ง 8 กิโลฯ แน่ะ (หัวเราะ)

แต่ฉันก็ตกลงรับปาก แชร์สตูดิโอกับ โมเอะ อิโอริ (Moe Iori) เลเยอร์อีกคน

หลังจากนั้นฉันก็รู้สึกเลยว่า ต้องลดน้ำหนักให้ได้ ยิ่งต้องแชร์สตูดิโอกับคนน่ารักๆ แบบ โมเอะ อิโอริ ยิ่งอ้วนไม่ได้ใหญ่ ฉันเลยรีบไปสมัครเข้ายิมเลยค่ะ แล้วก็ลดไปได้ 4 กิโลฯ ก่อนวันถ่ายภาพ (หัวเราะ)"

"การถ่ายรูปวันนั้นสนุกมาก แล้วยิ่งได้เห็นรูปออกมาสวย ฉันก็ยิ่งดีใจค่ะ

หลังจากนั้นฉันก็ไปร่วมงานคอสเพลย์ ทั้ง AnimeJapan และ Wonder Festival รวมถึงเริ่มไปอีเวนต์อื่นๆ ที่มีจัดคอสเพลย์ด้วย ช่วงนั้นเพื่อนๆ ของฉันหลายคนที่เล่นเกมเป็นโปรดิวเซอร์ให้โวคาลอยด์ (Vocaloid) ซึ่งฉันอิจฉามากที่เพื่อนๆ ทำอะไรแบบนี้ออกมาได้ แต่ว่าฉันก็อยากพยายามทำอะไรด้วยตัวเองบ้าง ฉันเลยคิดว่า จะทำด้วยการคอสเพลย์ที่แหละ

จากจุดนั้นฉันก็ตัดสินใจเข้าวงการเต็มตัว ทำเสื้อผ้า ไปงานคอสเพลย์ ทำ ROM (ซีดีรอมรูปภาพ) แล้วก็เตรียมไปงานใหม่ วนๆ ไปค่ะ เอาเข้าจริงๆ แล้ว ฉันไม่เคยมีจุดที่ดังเปรี้ยงปร้างนะ แต่อาศัยว่าเสมอต้นเสมอปลาย ทำให้ Follower ค่อยเพิ่มขึ้น จนในที่สุดก็มาถึงจุดนี้แหละค่ะ"

---

JILL กับสามอันดับสุดยอดการคอสเพลย์

1. Saber (จากเรื่อง Fate)

"เซเบอร์เป็นตัวละครที่ฉันรักค่ะ แต่ขณะเดียวกันเซเบอร์ก็เป็นตัวละครที่ทุกคนจะมีภาพในใจไม่เหมือนกัน ดังนั้นเมื่อฉันคอสเพลย์เป็นเซเบอร์ จะมีหลายคนที่ไม่ใช่ช่างภาพด้วยซ้ำ เข้ามาคุยกับฉันราวกับว่าฉันเป็นเซเบอร์จริงๆ ไม่ใช่คอสเพลย์เยอร์ อย่าง “เซเบอร์ มาทางนี้” เป็นต้น ตอนฉันคอสเพลย์เป็นเซเบอร์ฉันจะโพสท่าต่างๆ เยอะมาก จริงๆ ฉันทำท่าพวกนี้แม้แต่ตอนที่ใส่ชุดธรรมดาอยู่ที่บ้านด้วยซ้ำ"

---

2. Utaha Kasumigaoka (จากเรื่อง Saenai Kanojo no Sodatekata)

"จากบรรดาทั้งหมดที่เอาคอสเพลย์มาทำ ROM ตอนที่ฉันคอสเพลย์เป็น Utaha ขายดีที่สุด ฉันเคยไปคอสเพลย์เป็น Utaha ที่ไต้หวัน แล้วคนที่นั่นให้ชื่อฉันว่าเป็น Utaha เลย ตอนนั้นมีความสุขมากค่ะ"

---

3. Female trainer (จากเรื่อง Pokémon GO)

"ฉันไปเมืองนาโงย่าครั้งแรก เพื่อไปคอสเพลย์ในงาน WORLD COSPLAY SUMMIT แล้วพอดีช่วงนั้นเกมนี้เพิ่งเปิดตัว เลยมีคนรีทวีตลุคนี้กันเพียบเลย จริงๆ ตอนนั้นฉันยังไม่เคยไปคอสฯ ที่งาน Comiket มาก่อนเลยนะ แต่ลุคนี้ก็ทำให้ฟอลโลเวอร์ของฉันเพิ่มขึ้น ก็เลยมีความสุขมาก คือชุดนี้มันทั้งร้อนแล้วก็ยากมากเลยนะ (ยิ้มแบบขมขื่นนิดๆ)

โดยปกติ ฉันมักจะชอบแต่งเป็นคาแรกเตอร์ที่ฉันชอบในขณะนั้น อย่างล่าสุดฉันชอบเรื่อง DEVILMAN crybaby ซึ่งด้วยลักษณะของตัวละครแล้ว มันแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะคอสเพลย์ออกมา แม้ว่าฉันจะไม่เคยอ่าน DEVILMAN เวอร์ชั่นเก่ามาก่อน แต่เรื่องนี้ก็ดึงดูดฉันเข้าไปในเนื้อเรื่องสุดตื่นตะลึงแล้ว ทั้งภาพก็สวย แถมเพลงธีมยังเป็นของ Denki Groove อีก มีฉากสุดบ้าคลั่งตั้งแต่ต้นเรื่อง ซึ่งมันเจ๋งมาก ฉันอยากให้ทุกคนได้ดูสุดๆ เลยค่ะ"

---

รายละเอียดคือทุกสิ่ง (god is in the details)  

อะไรคือรายละเอียดที่คุณมุ่งเน้น นอกเหนือจากการคอสเพลย์เองแล้ว?

"ฉันพยายามไม่เน้นเอฟเฟกต์มากเกินไปค่ะ ฉันอยากให้รูปภาพที่ออกมาเป็นสิ่งที่คนดูแล้วจะคิดว่า ตัวละครตัวนี้จะเป็นแบบนี้แหละ ถ้าหากว่าพวกเขามีตัวตนจริงๆ เนื่องจากว่าฉันวาดรูปหรือเขียนการ์ตูนไม่เป็น ดังนั้นฉันจึงคอสเพลย์ให้เหมือนกับว่า กำลังทำหนังสือโดจินชิ (การ์ตูนทำมือจากแฟนผู้อ่าน) อยู่ค่ะ และหากฉันทำ ROM ฉันก็จะพยายามหาสตูดิโอที่ให้ความรู้สึกเหมือนผลงานต้นฉบับมากที่สุด รวมถึงเตรียมพร็อพไป อย่างดีด้วย"

"อีกอย่าง ฉันพยายามเข้าไปใกล้ๆ กล้องเวลาถ่ายภาพด้วย เพราะฉันอยากให้คนดูรูปภาพได้รู้สึกราวกับว่า ตัวละครอยู่ใกล้เขามากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ และชอบตัวละครตัวนั้นขึ้นมาค่ะ

นอกจากนี้ ฉันยังพยายามเต็มที่ที่จะไม่ทำลายภาพลักษณ์ของตัวละครหรืองานทั้งหมด ฉันจึงต้องประณีตมากๆ ทุกอย่าง อย่างเรื่องการแต่งหน้าก็สำคัญ แต่เรื่องอื่นๆ อย่างการรักษาความสะอาดของวิกหรือรองเท้า การระวังไม่ให้สายเสื้อในหรือบราไร้สายโผล่ออกมา หรือรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ก็สำคัญไม่แพ้กัน

ฉันเป็นคนชอบเสื้อผ้า ดังนั้นจึงอยากให้ทุกคนได้เห็นงานเนี้ยบๆ ถ้าคุณลองดูดีๆ สีของวิกหรือตำแหน่งของผมหน้าม้าที่ต่างกัน ทำให้ภาพที่ออกมาต่างกันเป็นคนละเรื่องได้เลยนะ"

---

การคอสเพลย์กับการยอมรับในที่ทำงาน

"โดยปกติงานของฉันเกี่ยวข้องกับการออกแบบอุปกรณ์ Accessories ซึ่งทั้งที่ทำงานและที่บ้านก็รู้ค่ะ ว่าฉันเป็นคอสเพลย์เยอร์ ตอนนี้ทุกคนที่ทำงานก็ถามฉันเป็นปกติแล้วล่ะว่า หน้าร้อนนี้จะไปงาน Comiket ไหม อะไรแบบนี้ (หัวเราะ)

แม้ว่าบางครั้งฉันจะทำชุดคอสเพลย์เอง สลับกับซื้อเอาบ้าง แต่เนื่องจากฉันทำงานด้านอุปกรณ์ Accessories ดังนั้นอุปกรณ์ตกแต่งผมหรืออื่นๆ ที่ฉันใช้ในการคอสเพลย์เลยดีเป็นพิเศษ นอกจากนี้ยังอาจจะจู้จี้นิดหน่อยเรื่องวัสดุที่เลือกใช้ด้วย (หัวเราะ)"

---

คอสเพลย์คือการเก็บรวบรวมความสำเร็จ

"การคอสเพลย์คืองานอดิเรกอย่างหนึ่ง ที่ฉันอยากทำต่อไปอีกนานๆ หากไม่คอสเพลย์ ฉันคิดว่าตัวเองคงไม่คิดจะไดเอท ไม่สนใจว่าหน้าตัวเองบวมหรือเปล่า ไม่สนใจรูปร่างอะไร เพราะการคอสเพลย์นี่แหละ ทำให้ฉันต้องใส่ใจอะไรหลายๆ อย่าง จริงๆ ฉันเองก็ยังขาดความมั่นใจในหลายเรื่อง ดังนั้นฉันจึงอยากพยายามและแก้ไขทุกสิ่งเท่าที่ฉันจะทำได้

ช่วงหลังๆ นี้มีคนถ่ายวิดีโอกันเยอะขึ้น ฉันเลยต้องหันมาสนใจเรื่องวิธียืน และยังเริ่มเข้าคลาสสอนการเดินด้วย (หัวเราะ) ฉันทำอะไรอยู่เนี่ย (หัวเราะ)

อย่างที่กล่าวมา ฉันเลยอาจจะบอกได้ว่า  คอสเพลย์คือการเก็บรวบรวมบทเรียนต่างๆ นั่นเองค่ะ"

---

"ฉันคิดว่ามันเป็นเรื่องสนุกดีนะ ที่ได้แต่งตัวน่ารักๆ จากคาแรคเตอร์ที่คุณชอบผ่านการคอสเพลย์ แน่นอนว่า มันต้องมีครั้งที่แต่งออกมาแล้วดูดี กับครั้งที่แต่งออกมาแล้วมันไม่ได้ ซึ่งมันก็มีโอกาสทั้งสองแบบนะ บางครั้งที่ฉันรู้สึกว่า วันนี้ออกมาไม่ดีเอาเลย แล้วก็รู้สึกแย่ จริงๆ เวลาพวกนั้นมันก็ถือเป็นโอกาสดีนะ ที่จะได้ทบทวนตัวเองใหม่อีกรอบ

หลังจากคอสเพลย์มานานหลายปี แม้จะมีครั้งที่แต่งเป็นคาแรคเตอร์ตัวเดิม แต่บางทีเห็นหน้าตัวเองแล้วก็คิดเหมือนกันนะว่า หน้าของเราปีที่แล้วกับปีนี้ต่างกันจังเลย ซึ่งมันก็เป็นการเปลี่ยนแปลงไปสู่สิ่งที่ฉันอยากเป็นนะ แต่ฉันก็รู้ว่าสิ่งที่เคยมองว่าดี หากมองย้อนกลับไป อาจรู้สึกแตกต่างจากนั้นก็ได้ มันเหมือนกับบทบันทึกการเติบโตของฉันน่ะ

ตั้งแต่เริ่มคอสเพลย์ก็ได้มีเพื่อนมากมาย ปกติพอคนโตเป็นผู้ใหญ่ก็มักไม่ค่อยได้ออกไปพบคนใหม่ๆ แล้ว แต่ฉันกลับได้พบคนมากขึ้น ทั้งคนต่างวัย ต่างอาชีพ มันดีมากเลยนะ"

---

การใช้ประโยชน์จากงานและงานอดิเรก

"ส่วนตัวฉันนะ ฉันอยากทำงานเป็นนางแบบถ่ายภาพต่อไป งานด้านอุปกรณ์ Accessories ของฉันเกี่ยวข้องกับแฟชั่น ดังนั้นฉันเลยอยากรวบรวมความรู้และประสบการณ์ที่ฉันมี มาวางแผนเพื่อช่วยเหลือคอสเพลย์เยอร์มือใหม่น่ะค่ะ ฉันอาจจะไม่ได้มีความถนัดหรือโดดเด่นเป็นพิเศษอะไรนัก แต่ก็อยากทำสิ่งที่กำลังทำอยู่ต่อไปเรื่อยๆ ค่ะ

ฉันจะทำงานปัจจุบันที่ทำอยู่ พร้อมไปกับการคอสเพลย์ต่อไปเรื่อยๆ แค่ทำต่อไป หากก้าวไปอย่างแน่วแน่ ฉันเชื่อว่า เส้นทางข้างหน้าจะต้องเปิดออกอย่างแน่นอนค่ะ"

---

ทำความรู้จักสาว JILL เพิ่มขึ้นได้ที่

JILL Official Twitter：https://twitter.com/JILL_mw
JILL Official Blog：https://ameblo.jp/jill-mw
JILL Official mail order site：https://girlfriendend.booth.pm