"Rina Ikoma" กับคอนเสิร์ตจบการศึกษา และประตูสู่อนาคตนอกรั้ว Nogizaka46

19 พ.ค. 61 (11:07 น.) พิมพ์

แชร์เรื่องนี้

แชร์เรื่องนี้Line Twitter Facebook

สำหรับแฟนๆ ของ Nogizaka46 คงจดจำ รินะ อิโคมะ (Rina Ikoma) ได้ในฐานะเซ็นเตอร์ของวง นับตั้งแต่เดบิวต์มาจนถึงซิงเกิลที่ 5 ตอนนี้เธอจบการศึกษาแล้ว โดยมีคอนเสิร์ตอำลากันไปเมื่อวันที่ 22 เมษายนที่ผ่านมา ณ นิปปอน บุโดกัง

รินะ อิโคมะ หรือที่ทุกคนมักเรียกด้วยความเอ็นดูว่า อิโคมะจัง ถือว่าเป็นสมาชิกที่เป็นหน้าตาของวง Nogizaka46 ก็ว่าได้ โดยความนิยมในตัวเธอนั้นเห็นได้ชัดจากอัตราชิงตั๋วสุ่มเลือกเพื่อเข้างาน ซึ่งว่ากันว่า โอกาสครอบครองมีแค่ 1 ใน 30 หรือประมาณ 3% เท่านั้น นอกจากนี้ในเธียเตอร์ต่างๆ ทั้ง 128 แห่ง ที่มีการฉายภาพคอนเสิร์ตครั้งนี้แบบสดๆ ก็ขายตั๋วเต็มหมดทุกที่นั่ง ซึ่งหมายความว่า มีแฟนๆ 60,000 คนจากทั่วประเทศ ที่ดูไลฟ์คอนเสิร์ตครั้งนี้พร้อมๆ กัน

แฟนๆ หลายคนต่างยกให้เพลง "Seifuku no Mannequin" เป็นเพลงประจำตัวของ รินะ อิโคมะ ในฐานะเซ็นเตอร์ของวง การแสดงออกและท่าทางสุดเท่ของเธอในเพลงนี้ ไม่เพียงได้รับการพิมพ์อยู่บนเสื้อยืด แต่ยังคงประทับแน่นอยู่ในใจของแฟนๆ ทุกคนด้วย เนื้อเพลงท่อนที่ว่า “แม้ประตูสู่อนาคตจะอยู่ที่นั่น แต่คนที่เปลี่ยนมันก็คือคุณ” ช่างเป็นตัวแทนหัวใจที่เข้มแข็งของสมาชิกรุ่นแรกของวงจริงๆ ดังนั้น หากจะเปรียบแล้ว คอนเสิร์ตจบการศึกษาครั้งนี้ ก็คือการมองย้อนกลับไปยังโลกที่ อิโคมะ ได้เปิด “ประตูสู่อนาคต” ไว้นั่นเอง

คอนเสิร์ตครั้งนี้เริ่มต้นขึ้นด้วยเพลงชาติประจำวง "Nogizaka no Uta" ซึ่งปกติมักเอาไว้ร้องเป็นเพลงปิดท้าย ครั้งนี้สมาชิกในวงทุกคนยืนตั้งแถวและร้องท่อนแรกในแบบปากเปล่าหรืออะแคปเปล่าร่วมกัน จากนั้น อิโคมะ ก็ขึ้นมากลางเวที มือทั้งคู่ถือแท่งไฟโบกไปมาอย่างแข็งแรง ก่อนจะยกแขนขึ้นสู่ท้องฟ้า และราวกับจะให้เกียรติแก่เธอ แฟนๆ ทุกคนต่างก็ลุกขึ้นยืนพร้อมกับชูแท่งไฟสีม่วงและสีฟ้า ซึ่งเป็นสีประจำตัวของ อิโคมะ พร้อมกับตะโกนเสียงดัง ปฐมบทแห่งเวทีที่จัดเพื่อ รินะ อิโคมะ ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว

“Nippon Budokan! Let’s go!” อิโคมะส่งเสียงแผดก้อง ส่งสัญญาณเปิดคอนเสิร์ตอย่างเป็นทางการ ไม่ให้รอช้า การแสดงเริ่มต้นด้วยสองเพลงดังทันที ทั้ง "Oide Shampoo" และ "Taiyou Knock" ก่อนจะเปลี่ยนบรรยากาศมาเป็นเพลงโซโลเดี่ยว "Mizutama Moyou" ที่ อิโคมะ เคยร้องไว้ครั้งแรกตอนอายุ 16 เพลงที่ประกอบด้วยท่วงทำนองซับซ้อนและการใช้เสียงสูงมากมายนี้เอง อิโคมะได้แสดงให้ทุกคนได้เห็นถึงความสามารถด้านการร้อง และตัวตนที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลงมายาวนานตลอด 6 ปี หลังร้องเพลงจบ ก็มาถึงช่วง MC ที่อิโคมะเล่าให้แฟนๆ ฟังพร้อมกับขำตัวเองไปด้วยว่า “ฉันซ้อมมาตั้งหลายครั้งตอนอยู่หลังเวที ซ้อมจนถึงนาทีสุดท้ายเลยนะ แต่พอถึงเวลาจริง ก็ยังทำตัวไม่ถูกเหมือนเดิม” อาจจะดูเก้อเขินไปบ้าง แต่ด้านเด๋อๆ ด๋าๆ แบบนี้แหละ ที่ทำให้อิโคมะจังเป็นที่รักของแฟนๆ ความมุ่งมั่นแรงกล้าของเธอ ทำให้ฝ่าอุปสรรคทุกอย่างมาได้จนถึงวันนี้

จากนั้นสมาชิกรุ่น 3 ก็ได้มีโอกาสขึ้นมาขับร้องเพลงใหม่ ที่เทียบได้กับการดำเนินรอยตามสมาชิกรุ่น 2 ตามด้วยสมาชิกรุ่นแรกขึ้นมาบนเวทีเพื่อร้องเพลง "Against" โดยให้ อิโคมะ อยู่ในตำแหน่งเซ็นเตอร์เป็นครั้งแรก ช่วงโซโล่ของเพลงนี้แหละ ที่เธอทำให้แฟนๆ ต้องทึ่ง ด้วยลีลาการเต้นที่เปี่ยมด้วยพละกำลังและความแข็งแกร่ง นี่แหละสิ่งที่ทำให้ความสวยแบบเท่ๆ ของ อิโคมะ ยิ่งเปล่งประกาย

ต่อเนื่องกันด้วยเพลงจากซิงเกิลจบการศึกษาของอิโคมะ นั่นคือ "Synchronicity" ที่มี ไม ชิราอิชิ (Mai Shiraishi), เอริกะ อิคุตะ (Erika Ikuta) และ นานาเสะ นิชิโนะ (Nanase Nishino) เป็นเซ็นเตอร์ เบื้องหลังของ 3 สาวที่ยืนด้านหน้านั้น มีอิโคมะคอยเติมเต็มอยู่แถวที่สอง ดูโดดเด่นไม่ต่างจากเซ็นเตอร์ เนื้อหาของเพลงชวนให้เราเห็นภาพสะท้อนถึงพัฒนาการของ Nogizaka46 นับตั้งแต่วันที่อิโคมะดำรงตำแหน่งเซ็นเตอร์ ร่วมต่อสู้ทำงานเคียงบ่าเคียงไหล่กับทุกคน มาจนถึงวันนี้มีสมาชิกถึงรุ่น 3 แล้ว นั่นคือ มิสุกิ ยามาชิตะ (Mizuki Yamashita) และ ชิโรอิ คุโบะ (Shiori Kubo) ทุกคนได้มาร้องเพลงร่วมกับสมาชิกวงที่จบการศึกษาไป เพื่อส่งเสียงร้องอันแสนพิเศษของ Nogizaka46 ให้ดังก้องกังวาน

เริ่มต้นกันในช่วงถัดมา ด้วยข้อความพิเศษจาก มายุ วาตานาเบะ (Mayu Watanabe) สมาชิกวง AKB48 ที่สาวอิโคมะเคยไปร่วมวงด้วย โดยอิโคมะถือเป็นสมาชิกวง Nogizaka46 เพียงคนเดียว ที่เคยไปควบรวมเป็นสมาชิกกับวง AKB48 อันโด่งดัง ในตอนนั้นเซ็นเตอร์จากวงที่ไม่ค่อยมีใครรู้จัก ตั้งสัตย์กับตัวเองว่า จะต้องเอาชนะเสียงวิจารณ์ ลบคำปรามาสให้จงได้ และด้วยความพยายามนั้น อิโคมะก็สามารถคว้าตำแหน่งที่ 14 จากการเลือกตั้งประจำปี 2014 มาครองได้ และแถมยังส่งผลดี ทำให้คนอื่นๆ ได้รู้จักชื่อวง Nogizaka46 มากขึ้นด้วย

ซึ่งสิ่งที่ทำหน้าที่เชื่อมต่อสัมพันธ์ระหว่าง AKB48 และ Nogizaka46 นั้นก็คือบทเพลงนั่นเอง ไม่ว่าจะเป็น "Shonichi" (เพลงเดียวกับที่ BNK48 จากทางฝั่งประเทศไทยปล่อยออกมาเมื่อไม่นานมานี้นั่นแหละ) ที่ขับร้องโดยสมาชิกรุ่น 3 สะท้อนถึงการต้องแบกรับทั้งความสำเร็จจากอดีต และความคาดหวังในอนาคตไว้บนบ่า เพลง "Temo Demo no Namida" ที่ มายุ วาตานาเบะ ได้ขับร้องร่วมกับสมาชิกวง Nogizaka46 อย่าง อายาเนะ ซูสุกิ (Ayane Suzuki) ตามต่อด้วยเพลง "Kokoro no Placard" ร้องโดยอิโคมะกับสมาชิกรุ่น 2 โดยมีสาว ฮินาโนะ คิตาโน่ (Hinako Kitano) ที่กำลังอยู่ในช่วงพักงานเนื่องจากปัญหาสุขภาพมาร่วมร้องด้วย ช่วงที่ร้องเพลง "Temo Demo no Namida" นั้น อิโคมะก็ขึ้นมาแทนตำแหน่งของ มายุ วาตานาเบะ ตามข่าวเล่าว่า สาววาตานาเบะรีบมาที่นิปปอน บุโดกังแห่งนี้ทันทีหลังจากซ้อมคอนเสิร์ตของวงตัวเองเสร็จในวันเดียวกัน เพราะแน่นอนว่า คอนเสิร์ตจบการศึกษาครั้งนี้ คือการทบทวนเรื่องราวของสาวอิโคมะตลอดหลายปีที่ผ่านมา บนเส้นทางแห่งความเป็นไอดอล

และอย่างที่บอก ว่าแฟนๆ ต่างยกให้เพลง "Seifuku no Mannequin" เป็นเพลงประจำตัวของอิโคมะ ซึ่งจริงๆ แล้วเพลงนี้มีเซ็นเตอร์ทั้งหมด 3 คน นั่นคือ เอริกะ อิคุตะ (Erika Ikuta), รินะ อิโคมะ (Rina Ikoma) และ มินามิ โฮชิโนะ (Minami Hoshino) โดยมีฉายาที่แฟนๆ ตั้งให้ก็คือ “Ikuihoshi” ในตอนที่ออกซิงเกิลเพลงนี้ ทั้งสามยังอายุเพียง 14, 16 และ 13 ปี เท่านั้นเอง แต่มาถึงตอนนี้ พวกเธออายุ 21, 22 และ 20 กันแล้ว วันนี้ Ikuihoshi ได้ออกมาแสดงให้ทุกคนชมอีกครั้ง ในเพลง "Koko Janai Dokoka" และ "Mangetsu ga Kieta" ทั้ง 3 สาวผู้มีน้ำเสียงเปี่ยมพลังอาจจะไม่ได้แสดงร่วมกันแบบนี้นานแล้ว แต่ในเมื่อเวทีนี้ จะเป็นครั้งสุดท้ายของหนึ่งในสมาชิก ยังไงทุกคนก็ต้องรวมพลังทำให้เกิดขึ้นจนได้

อิโคมะถือเป็นส่วนสำคัญในเพลงของ Nogizaka46 หลายเพลง ไม่ว่าจะเป็น "Arakajime Katarareru Romance" และ "Mukuchi na Lion" ส่วนกลุ่ม 3 สาว Ikuihoshi ก็เป็นเสียงหลักไม่แพ้กัน เพราะในเพลง "Against" นั้น Ikuihoshi ก็มาเป็นคอรัสให้ด้วย ความผูกพันถึง 6 ปีครึ่งนั้น ช่างเป็นสายใยที่ลึกซึ้งจริงๆ

จากนั้นก็เป็นช่วงวิดีโอข้อความจาก BANANAMAN ซึ่งเคยทำงานร่วมกับ Nogizaka46 มาก่อน หลังจากจบแล้ว ก็เป็นช่วงของอิโคมะอีกครั้ง ผู้ชมจะได้ย้อนนึกถึงและรู้จักเธอมากขึ้นจากผลงานอย่างเพลง "Tsuki no Ookisa" เพลงธีมจากอนิเมะชื่อดัง นารูโตะชิปปุเดง (NARUTO Shippuden) ที่ในมิวสิควิดีโอนี้ ทุกคนต้องแต่งตัวแนวละครย้อนยุค อิโคมะได้แสดงเป็นตัวเอก โชว์ให้เห็นทั้งความเท่ ความสามารถด้านการแสดง และการเคารพต่อวิถีต้นฉบับของเธอ ผลงานในครั้งนี้โดดเด่นขนาดที่ทำให้อิโคมะได้ของขวัญพิเศษ เป็นภาพวาดพร้อมข้อความจาก มาซาชิ คิชิโมโต้ (Masashi Kishimoto) ผู้วาดการ์ตูนเรื่องนี้เองเลยทีเดียว

“ฉันจะยังคงทุ่มเททำงานหนักแบบนี้ตลอดไป ฉันดีใจที่ยังมีชีวิตอยู่” อิโคมะซึ่งยังไม่ได้หลั่งน้ำตามาตั้งแต่ต้นคอนเสิร์ต พอกล่าวประโยคนี้ก็ถึงกับร้องไห้ออกมา นี่แหละคือช่วงที่เวลาที่เธอได้เปิดเผยความรู้สึกที่แท้จริง ราวกับว่าเป็นคอนเสิร์ตที่จัดขึ้นโดยเฉพาะสำหรับเธอเพียงผู้เดียว

อิโคมะยังคงไม่หยุดร้องไห้ จากนั้นก็เป็นช่วงข้อความจากครอบครัว ที่อวยพรให้เธอสุขภาพดี ก่อนจะต่อกันด้วยเพลง "Kimi no Na wa Kibou" ที่เคยนำไปขึ้นร้องบนเวทีมหกรรมขาว-แดงหรือ Kohaku Uta Gassen มาแล้ว ก่อนจะต่อด้วยเพลง "Kanashimi no Wasurekata" จากภาพยนตร์สารคดี Documentary of Nogizaka46 ที่แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของอิโคมะได้เป็นอย่างดี

เข้าสู่ช่วง MC อีกครั้ง เป็นช่วงที่สมาชิกแต่ละคนได้มีโอกาสกล่าวถ้อยคำในใจให้แก่อิโคมะ ซึ่งแต่ละคนล้วนมีแต่ข้อความที่อันอบอุ่น ไม่ว่าจะเป็น “การได้เห็นรอยยิ้มของอิโคมะจัง เป็นความสุขที่เปี่ยมล้นที่สุดของฉันเลย” จากไม ชิราอิชิ, “ฉันคงไม่อาจเติบโตแบบนี้ได้แน่ ถ้าไม่มีอิโคมะจัง” จากนานาเสะ นิชิโนะ และ “ฉันจะบอกให้ทุกคนได้รู้ว่า ฉันมีรุ่นพี่ที่มหัศจรรย์แค่ไหน” จากมิโอนะ โฮริ

สำหรับ Nogizaka46 แล้ว คงไม่เกินจริงหากจะกล่าวว่า สาวๆ กำลังโด่งดังสุดๆ ไม่ว่าจะด้วยยอดขายที่แตะหลักล้าน แถมยังมีคิวแสดงคอนเสิร์ตที่โตเกียว โดม อีก ซึ่งในท่ามกลางความสำเร็จนั้น อาสุกะ ซาอิโต (Asuka Saito) ก็พูดกับอิโคมะจังว่า “ฉันเสียใจที่อิโคมะจะไม่ได้อยู่วงนี้อีกต่อไปแล้ว แต่เราก็จะก้าวต่อไป เพื่อทำให้ความฝันของเธอเป็นจริงขึ้นมานะ” และนี่แหละ ข้อความที่พิสูจน์ถึงเอกภาพ และความสามารถรอบด้านของ Nogizaka46 ที่ทุกคนมุ่งมั่นจะก้าวไปสู่ประตูแห่งอนาคตร่วมกัน

และนี่ข้อความจบการศึกษาจาก รินะ อิโคมะ

“แม้ว่าจะมีคนหลายคนที่ฉันนับถือ และมีโอกาสมากมายสำหรับฉันที่จะเติบโตได้มากขึ้น แต่เหนืออื่นใด คือ ฉันอยากทำทุกสิ่งให้ดีขึ้นเสมอ ฉันอยากเดินไปบนเส้นทางที่สูงขึ้น ฉันรู้ ว่ามันเป็นความปรารถนาส่วนตัวที่ดูออกจะเห็นแก่ตัวไปหน่อย ทั้งๆ ที่ฉันได้อยู่ในที่ที่ยอดเยี่ยม ได้อะไรมากมายจากที่นี่ มากเท่าที่จะนึกฝันได้ในโลกใบนี้ แต่ว่า ฉันก็อยากคว้าความฝันที่ไกลออกไปจากเดิมค่ะ เพราะสักวันฉันอยากให้สมาชิกในวงได้เห็นฉันคนใหม่ คนที่ทำงานอย่างอิสระ ฉันสร้างปัญหาให้กับพ่อแม่มาเยอะมากแล้ว แต่วันหนึ่งข้างหน้าฉันอยากปลูกบ้านให้แก่พวกท่านในโตเกียว นับจากนี้ฉันคงยังต้องพึ่งพาทีมงานสตาฟฟ์ทุกคนต่อไป ในอนาคตฉันอยากเป็นนักร้องที่สามารถทำให้แฟนๆ ลืมความทุกข์ที่เผชิญอยู่ และมีความสุขได้จากก้นบึ้งของหัวใจค่ะ”

จากเด็กสาวชนบท ที่สมัครเข้ามาในวง Nogizaka46 เพราะไม่ชอบโรงเรียน ไม่ชอบการหัวเราะและร้องไห้ในที่สาธารณะ แต่เมื่อช่วงเวลาอันแสนมหัศจรรย์ผ่านไป 6 ปีครึ่ง วันนี้เธอได้กลายเป็นหญิงสาวที่เติบโต ไม่ต้องสงสัยเลยว่า อิโคมะจังนี่แหละ คือหนึ่งในกุญแจสำคัญที่ทำให้ Nogizaka46 เติบโตมาจนถึงทุกวันนี้

อิโคมะจัง ที่เปี่ยมไปด้วยพลังงานและความกระฉับกระเฉง จากนี้ไปเราจะไม่ได้เห็นเธอเป็นเซ็นเตอร์ในซิงเกิลใหม่ของวงอีกแล้ว หลังจากเธอเพิ่งจบงานอีเวนต์จับมือไปเมื่อวันที่ 3 พฤษภาคมที่นาโงย่า และวันที่ 6 พฤษภาคม ที่ Makuhari Messe อันถือเป็นอีเวนต์จับมือครั้งสุดท้ายของเธอ ในฐานะสมาชิกวง Nogizaka46

พลังของคอนเสิร์ตครั้งนี้ยังคงโหมกระหน่ำ แม้ในช่วงอังกอร์ครั้งที่ 2 กับเพลง "Kimi no Na wa Kibou" เพลงนี้แต่งขึ้นโดยใช้แรงบันดาลใจจากตัวตนของ รินะ อิโคมะ ได้นำมาแสดงเป็นครั้งแรกบนเวทีในวันนั้น ทีมงานทุกคน ทั้งผู้จัดการ ทีมงานโทรทัศน์ ฝ่ายคอสตูม ฝ่ายเสียง ต่างก็ขึ้นมาปรากฏตัวบนเวทีอย่างครบถ้วน พร้อมด้วยข้อความครั้งสุดท้ายถึง อิโคมะจัง ไอดอลที่ทุกคนรัก

คอนเสิร์ตครั้งนี้ยังมีการเล่นเพลง "Seifuku no Mannequin" เพลงประจำตัวของอิโคมะจังด้วย

“ประตูสู่อนาคตจะอยู่ที่นั่น ฉันร้องเรียกเธอครั้งแล้วครั้งเล่า คนที่เปลี่ยนมันก็คือเธอ”

อิโคมะจังได้ทำให้บทเพลงท่อนนี้กลายเป็นเรื่องจริงแล้ว สำหรับ Nogizaka46 แม้วันนี้เธอจะจบการศึกษาออกจากวงไป แต่ก็ยังมีเรื่องราวต่างๆ อีกมากมายที่รอคอยอยู่ในอนาคต เพื่อให้เธอปลดปล่อยตัวเองออกมา

รายชื่อเพลงในคอนเสิร์ต Rina Ikoma Graduation Concert @Nippon Budokan

01 Nogizaka no Uta
02 Oide Shampoo
03 Taiyō Knock
04 Mizutama Moyou
05 Tokitokimekimeki
06 Scout Man
07 Against
08 Synchronicity
09 Shonichi / Rina Ikoma, 3rd Generation
10 Temodemo no Namida / Rina Ikoma, Ayane Suzuki
11 Kokoro no Placard / Rina Ikoma, 2nd Generation
12 Koko Janai Doko ka
13 Mangetsu ga Kieta
14 Arakajime Katarareru Romance
15 Mukuchi na Lion
16 Yubi Bouenkyou
17 Tsuki no Okisa
18 House!
19 Kimi no Na wa Kibō
20 Kanashimi no Wasurekata
21 Seifuku no Mannequin