5 โฆษณาสุดฮิตไอเดียเก๋ที่จะทำให้คุณไม่อยากกดรีโมตเปลี่ยนช่อง
ประเทศญี่ปุ่นเขาขึ้นชื่ออยู่แล้วเรื่องความคิดสร้างสรรค์ แล้ววงการที่เน้นความสร้างสรรค์เป็นจุดขายอย่างโฆษณาทางโทรทัศน์ จะไม่ยิ่งต้องระดมไอเดียกันออกมานำเสนอให้ผู้ชมเห็นได้อย่างไร!
ผลลัพธ์ที่ออกมาจึงกลายเป็นโฆษณาสุดแหวกแนวที่ทำให้ผู้ชมทั้งอึ้ง งง และสนุกไปพร้อมๆ กัน ซึ่งความซับซ้อนระดับนี้ หากบางคนได้ดูอาจจะต้องสงสัยว่า เขาต้องการจะนำเสนออะไรกัน ที่เป็นแบบนี้ก็เพราะว่า ธรรมชาติของคนญี่ปุ่นนั้น เขาจะไม่พูดอะไรออกมาตรงๆ บางทีแทบจะเหมือนจะไม่มีการเอ่ยถึงตัวผลิตภัณฑ์เลยด้วยซ้ำ แต่จะแทรกซึมข้อความผ่านทางเรื่องราวให้ผู้ชมได้ค่อยๆ คิดไป ตลอดระยะเวลาประมาณ 30 วินาทีของการออกอากาศ ซึ่งด้วยความยากนี่แหละ หากสื่อออกมาไม่ถึง ก็จะทำให้โฆษณาบางตัวนั้นออกมาด้อยได้ทันตา ชนิดอยากเขวี้ยงรีโมตใส่จอ แต่ขณะเดียวกัน ก็ยังมีโฆษณาบางตัวที่ทำออกมาได้ล้ำเลิศมาก จนอยากดูต่อไปเรื่อยๆ จนจบ
วันนี้เราลองมาดูกันว่า สุดยอดโฆษณาที่จะทำให้คุณไม่อยากกดเปลี่ยนช่องไปไหนเลยนั้น มีผลิตภัณฑ์อะไรบ้าง
1. SEA BREEZE
โฆษณาแบรนด์ครีมบำรุงผิวตัวนี้ได้ดาราสาวชื่อดังแห่งยุค ซึสุ ฮิโรเสะ (Suzu Hirose) มาเป็นพรีเซนเตอร์ และได้ ไทชิ นาคากาวะ (Taishi Nakagawa) มาเป็นพระเอก ซีรีส์นี้มีหลายตอน เล่ามาตั้งแต่นางเอกแอบปิ๊งรุ่นพี่สุดหล่อที่โรงเรียน จนทั้งคู่ได้มาออกเดตกินริมทะเล (ซึ่งเป็นตอนตัวอย่างที่เราเอามาให้ชมกัน) ทั้งคู่ดูจะมีอาการเขินๆ กันไปมาตามประสาเดตแรก ระหว่างนั้นผลิตภัณฑ์ SEA BREEZE ก็ถูกหยิบออกมาใช้แบบแนบเนียนมากๆ ชนิดแทบไม่เห็นแม้แต่โลโก้ยี่ห้อ แต่ก็อำนวยโอกาสให้ทั้งคู่ได้สารภาพความในใจต่อกัน ชวนให้คนดูฟินจิกหมอนกันเป็นที่สุด
2. Puccho
โฆษณาตัวนี้ได้สาว คันนะ ฮาชิโมโตะ (Kanna Hashimoto) ที่โด่งดังเปรี้ยงปร้าง จนได้รับฉายาว่า เป็นไอดอลที่ ”พันปีจะมีจุติสักคน” มาเป็นพรีเซนเตอร์ อันที่จริงสาวฮาชิโมโตะเคยปรากฏตัวในโฆษณามาแล้วกว่า 60 ตัว แต่หากคุณคิดว่า จำนวนเยอะขนาดนี้ความน่ารักของเธอคงไม่มีอะไรใหม่อีกแล้ว ขอบอกเลยว่าคิดผิด เพราะในซีรีส์ชื่อ Puccho Aan นี้ เธอจะทำให้คุณอยากกินขนมเคี้ยวหนึบนี้ไปทั้งวัน เรื่องราวในโฆษณา Puccho ประกอบไปด้วยหลายเรื่อง หลายฉาก ไม่ว่าจะเป็นในโรงเรียน ตอนดินเนอร์ หรือแม้แต่สงคราม แต่ทุกตอนสาวคันนะจะแปลงโฉมให้ตรงสถานการณ์นั้นๆ เพื่อป้อน Puccho ให้กับคุณ รับรองอิ่มทั้งปากทั้งใจแน่นอน
3. JR SKISKI
ไม่ใช่แต่เครื่องสำอางหรือขนมเท่านั้นที่มีโฆษณาสุดดึงดูดใจ บริษัทรถไฟ JR-EAST ก็ทำโฆษณาได้สุดประทับใจเหมือนกัน ภายใต้ชื่อว่า JR SKISKI โฆษณาตัวนี้ทำขึ้นเนื่องในโอกาสครบรอบ 30 ปี ของบริษัทรถไฟญี่ปุ่นตะวันออก ซึ่งเป็นช่วงที่พอเหมาะพอดีกับที่หนังดังในอดีตเรื่อง Take Me Out to the Snowland ก็ครบรอบ 30 ปีที่ออกฉายเหมือนกันพอดี เลยถือโอกาสรำลึกถึงไปพร้อมกันเลย เนื้อเรื่องในโฆษณาพาเราย้อนกลับไปในยุค 80s กับฉากในความทรงจำที่ โทโมโยะ ฮาราดะ (Tomoyo Harada) และ ฮิโระชิ มิกะมิ (Hiroshi Mikami) ไปเล่นสกีด้วยกัน และล้อเล่นกันอย่างสนุกสนานท่ามกลางหิมะขาวโพลน พร้อมกับเพลงประกอบฉากอย่าง "Blizzard" ของ ยูมิ มัตสึโทยะ (Yumi Matsutoya) ที่เข้ากันสุดๆ ชวนให้ย้อนนึกไปถึงอดีตในยุคที่สกีหิมะกำลังบูมสุดๆ ในญี่ปุ่น
4. Baitoru
แค่ดูก็น่ารักแล้ว สำหรับโฆษณาที่ได้สาวๆ Nogizaka46 มาแสดงและร้องเพลงประกอบ หากไม่บอกมาก่อนเลยจะเดาถูกไหมนะ ว่านี่เป็นโฆษณาของสินค้าหรือบริการอะไร? เฉลย มันก็คือแอปพลิเคชั่นหางานจากบริษัท Baitoru นั่นเอง โฆษณานี้มีเป็นซีรีส์ โดยทุกตอนจะเล่าถึงสมาชิกในวงแต่ละคนไปทำงานพิเศษ ไม่ว่าจะเป็นในร้านขนมเค้ก ร้านสะดวกซื้อ แล้วก็ซุ่มซ่ามทำจนทำผิดพลาดได้อย่างน่ารักน่าชัง ถ้าสาวๆ Nogizaka46 ยังไม่กลัวที่จะลองทำอะไรใหม่ๆ แล้วทำไมเราถึงต้องกลัวล่ะ? มาลองสัมผัสประสบการณ์ใหม่ๆ ผ่านงานที่หาในแอปฯ กันเถอะ! นอกจากความน่ารักของสาวๆ เพลงจิงเกิลประกอบโฆษณาก็ติดหูมาก เพราะมาจากเพลงอเมริกัน "Yankee Doodle" แบบนี้จะไม่ให้เป็นหนึ่งในโฆษณาสุดฮิตได้ยังไง
5. Sakeru Gummy
ขนมที่ทำโฆษณาออกมาแล้วแจ็กพอตแตก ดังจนกลายเป็นไวรัลไปทั่วญี่ปุ่นจนถึงทั่วโลก เห็นจะเป็นซีรีส์ชุด Sakeru Gummy vs Nagai Sakeru Gummy นี่แหละ โดยเป้าหมายของโฆษณาตัวนี้คือประชาสัมพันธ์หมากฝรั่ง Sakeru ทั้งแบบขนาดพอดีคำ และแบบยาวสุดๆ เนื้อหาโฆษณาเล่าถึงหญิงสาวที่แฟนหนุ่มป้อน Sakeru แบบขนาดพอดีคำให้ แต่เมื่อเธอได้หันไปเห็นชายแปลกหน้า กำลังกินหมากฝรั่ง Sakeru แบบยาวสุดๆ ที่ไม่เคยเห็นมาก่อนด้วยท่วงท่าสุดเท่ ก็เกิดความสนใจในทันที ซีรีส์นี้มีทั้งหมด 11 ตอน แต่ละตอนจะค่อยๆ เล่าเรื่องไปเรื่อยๆ แบบฮากระจายทุกตอน ก่อนจะมาถึงบทสรุปในแบบหักมุมหัวทิ่ม ชนิดไม่รู้จะเรียกว่าโรแมนติกดีหรือเปล่า
นี่แหละบรรดาโฆษณาสุดลึกล้ำของญี่ปุ่น ที่ดูแล้วรู้เลยว่า กว่าจะผลิตออกมาได้ต้องคิดแล้วคิดอีก ไม่ใช่จะทำการตลาดแบบตีหัวเข้าบ้าน มาพูดชื่อแบรนด์กันแบบโต้งๆ แต่มีจุดหลักที่ให้ความบันเทิงกับผู้ชมมากกว่า ดูจากโฆษณาแต่ละตัววันนี้แล้ว ท่าทางความคิดสร้างสรรค์นี้มีแต่จะเพิ่มขึ้นๆ ทุกวัน สำหรับคนที่มีดาราในดวงใจ การดูโฆษณานี่แหละ คือหนึ่งในวิธีที่จะทำให้เห็นมีศิลปินคนโปรดมากที่สุด ดังนั้นอย่าลืมติดตามโฆษณาญี่ปุ่นกันนะ
สนับสนุนเนื้อหา
