ญี่ปุ่นขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่มเป็น 10% แน่ปีหน้า ท่ามกลางความกังวลของคนญี่ปุ่น
เรื่องที่ชาวญี่ปุ่นเตรียมใจมาสักพัก ในที่สุดมันก็เกิดขึ้นจริงแล้ว เมื่อนายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะของญี่ปุ่นประกาศเมื่อวันที่ 15 ตุลาคมที่ผ่านมาว่าจะทำการขึ้นค่าธรรมเนียมภาษีมูลค่าเพิ่มหรือที่ในภาษาญี่ปุ่นเรียกว่าภาษีบริโภคจาก 8% เป็น 10% อย่างแน่นอนตั้งแต่เดือนตุลาคมปี 2019 เป็นต้นไป โดยถือเป็นการขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่มในรอบ 5 ปีครึ่งหลังจากขึ้นเป็น 8% เมื่อเดือนเมษายนในปี 2014 โดยทางรัฐบาลกล่าวว่าการขึ้นภาษีในครั้งนี้ก็เพื่อเป็นการรับประกันแหล่งรายได้ที่จำเป็นต่อการเปลี่ยนสู่ “ความมั่นคงทางสังคมในทุกระดับอายุ” ถึงชาวญี่ปุ่นจะยอมรับได้กับการขึ้นภาษีที่เกี่ยวพันกับการใช้ชีวิตประจำวันที่สุดในครั้งนี้ แต่ก็มีเสียงแสดงความเป็นกังวลอยู่ไม่น้อยกับเงื่อนไขในการขึ้นภาษีที่ซับซ้อน และยังมีเนื้อหาสำคัญอีกรายจุดที่ยังอยู่ระหว่างการพิจารณา
ในเบื้องต้นเพื่อไม่ให้การขึ้นภาษีครั้งนี้ส่งผลกระทบต่ออุปสงค์ภายในมากจนเกินไป ทางรัฐบาลจะนำระบบลดอัตราภาษีมาใช้โดยเน้นไปที่สินค้าประเภทอาหารเป็นหลัก แต่ในหมวดสินค้าอาหารดังกล่าวจะไม่รวมเหล้าและยารักษาโรค เป็นต้น นอกจากนี้ยังนำการลดอัตราภาษีมาใช้กับบริการสั่งอาหารแบบสั่งกลับบ้านหรือสั่งแบบเดลิเวอรี่ให้ยังคงอยู่ในอัตรา 8% แต่ขึ้นเป็น 10% ในกรณีที่ทานที่ร้านหรือใช้บริการจัดงานนอกสถานที่ (catering) ด้วยการที่ไม่ได้ขึ้นภาษีในทุกหัวข้อสินค้าทั้งหมดและเงื่อนไขบางอย่างยังกำกวมไม่ชัดเจน ทำให้มีหลายเสียงเป็นกังวลว่าผู้ประกอบการจะสามารถเตรียมรับมือกันได้อย่างราบรื่นหรือไม่
จุดที่เป็นกังวลกันมากสุดก็คือ “ร้านสะดวกซื้อ” ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งที่ขาดไม่ได้เลยในชีวิตประจำวันของคนญี่ปุ่น เพราะในหลายแห่งจะมีบริเวณ Eat in อยู่ภายในร้าน แต่เมื่อทำการปรับขึ้นภาษีใหม่จะทำให้ราคาสินค้าของอาหารที่ผู้ซื้อต้องการซื้อแล้วกินในร้านถูกคำนวณภาษีอยู่ที่ 10% แต่ถ้าผู้ซื้อต้องการซื้อกลับบ้านสินค้าดังกล่าวจะมีภาษีอยู่ที่ 8% ทำให้หลายคนสงสัยว่าถ้าซื้อแล้วออกไปยืนกินหน้าร้านจะถูกคิดภาษียังไงกันแน่ ซึ่งทางเว็บไซต์ของหน่วยงานด้านการจัดระบบภาษีแห่งชาติของญี่ปุ่นเปิดเผยว่าจะต้องใช้วิธีให้พนักงานตรวจสอบความประสงค์ของลูกค้าก่อนคิดเงิน แต่ในทางปฏิบัติก็ดูเหมือนจะเป็นเรื่องยาก ดังนั้นทางผู้ประกอบการอย่าง Lawson จึงเรียกร้องขอให้ทำให้เป็นรูปแบบที่ลูกค้าเข้าใจง่าย และไม่ทำให้ทางส่วนพนักงานร้านเกิดความสับสน
นอกจากนี้เพื่อป้องกันไม่ให้การบริโภคสินค้าในรายบุคคลลง ทางรัฐบาลก็ได้เตรียมมาตรการสนับสนุนการจ่ายเงินแบบไร้เงินสด เช่น การใช้บัตรเครดิต เป็นต้น โดยรัฐบาลกำลังพิจารณาจะให้เงินสนับสนุนให้ทางผู้ประกอบการมอบแต้มสะสมจากภาษีส่วนที่เพิ่มขึ้น 2% ให้กับลูกค้าที่ซื้อของด้วยบัตรเครดิต แต่สำหรับรายละเอียดต่างๆ รวมถึงช่วงเวลาที่รัฐบาลจะช่วยสนับสนุนยังไม่มีการระบุอย่างชัดเจน แต่มาตรการดังกล่าวก็ทำให้เกิดคำถามตามมาว่า แล้วถ้าร้านค้าขนาดกลางและขนาดเล็กที่ยังไม่มีอุปกรณ์ในการใช้ชำระเงินด้วยบัตรเครดิตจะทำอย่างไร? รัฐจะให้เงินสนับสนุนในการติดตั้งอุปกรณ์หรือไม่? ซึ่งในจุดนี้น่าจะทำให้เกิดความสับสนวุ่นวายขึ้นได้ เพราะต้องยอมรับว่าทุกวันนี้ญี่ปุ่นยังคงเป็นสังคมที่เน้นใช้จ่ายผ่านเงินสดเป็นหลัก
ถึงแม้การขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่มจาก 8% เป็น 10% ในครั้งนี้จะเป็นเรื่องที่ชาวญี่ปุ่นต้องเผชิญอย่างเลี่ยงไม่ได้ และทุกคนก็คงเต็มใจที่จะแบกรับภาระภาษีที่เพิ่มขึ้นเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีกว่า แต่ความไม่ชัดเจนในหลายๆด้านก็ทำให้ชาวญี่ปุ่นยังคงเป็นกังวลอยู่ไม่ใช่น้อยต้องนโยบายการปรับขึ้นภาษีในครั้งนี้ ส่วนคนไทยอย่างเราถ้าอยากไปเที่ยวญี่ปุ่นในราคา VAT 8% แนะนำให้รีบไปเที่ยวกันก่อนเดือนตุลาคมปี 2019 กันเลยนะคะ