ออนเซ็นสีน้ำนมสุดเลื่องชื่อแห่งนากาโนะ “ลงแช่ 3 วันไม่เป็นหวัดไป 3 ปี”

ออนเซ็นสีน้ำนมสุดเลื่องชื่อแห่งนากาโนะ “ลงแช่ 3 วันไม่เป็นหวัดไป 3 ปี”

ออนเซ็นสีน้ำนมสุดเลื่องชื่อแห่งนากาโนะ “ลงแช่ 3 วันไม่เป็นหวัดไป 3 ปี”
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

พูดถึงญี่ปุ่นก็คงจะต้องมีโมเมนต์ที่นึกถึงออนเซ็น การได้แช่น้ำร้อนผ่อนคลายสบายตัวท่ามกลางบรรยากาศและทิวทัศน์ในฤดูหนาวนั้นเป็นสิ่งที่สุดยอดที่สุดแล้ว อ้อ! ถ้าจะให้ดีต้องได้แช่ออนเซ็นกลางแจ้งด้วยนะถึงจะได้ฟีลแบบสุดๆ

ความจริงแล้วเมื่อพูดถึงออนเซ็น ที่ญี่ปุ่นเขาก็มีออนเซ็นหลายประเภทเลยล่ะค่ะ ทั้งแหล่งกำเนิดและวิธีจัดการที่ทำให้รสชาติและลักษณะเด่นของออนเซ็นแตกต่างออกไป เหมือนกับไวน์หรือสาเกของญี่ปุ่นนั่นล่ะค่ะ ดังนั้นวันนี้จึงอยากจะมาแนะนำออนเซ็นแห่งหนึ่งที่ขอบอกเลยว่า unique สุดๆ ชนิดไม่บอกต่อไม่ได้ ใครชอบแช่ออนเซ็นจะต้องชอบที่นี่ด้วยแน่ ๆ กับ “Shirahone Onsen” จังหวัดนากาโนะค่ะ

ออนเซ็นที่โด่งดังเรื่องการรักษาโรคตั้งแต่สมัยเอโดะ

จากอดีตที่เคยถูกใช้เป็นสถานที่อาบน้ำแร่เพื่อการรักษาโรค สู่ยุคปัจจุบันที่รู้จักกันในนามสถานที่ Unseen ไปแล้ว เพราะด้วยความที่ตั้งอยู่ไกลความเจริญ แต่มีความแปลกและแตกต่างจากสถานที่อื่นๆ นี่ล่ะค่ะ ที่กลายเป็นคุณสมบัติของ Shirahone Onsen แห่งนี้

shirahone-2

shirahone-3

“ลงแช่ 3 วันจะไม่เป็นหวัดไป 3 ปี” คำบอกเล่าจากอดีตถึงปัจจุบัน

น้ำร้อนสีขุ่นขาวราวกับสีน้ำนมที่ Shirahone Onsen เป็นที่นิยมมากในหมู่ผู้ที่ชื่นชอบการแช่ออนเซ็น จริงๆ แล้วน้ำที่ไหลออกมาก็เป็นสีใสนั่นล่ะค่ะ แต่เมื่อเวลาผ่านไปก็จะมีความขุ่นขึ้นจนเป็นเหมือนสีน้ำนมนั่นเอง น้ำร้อนที่ว่านี้มีสภาพความเป็นกรดอ่อนๆ จึงอ่อนโยนและปลอบประโลมผิวให้ผ่อนคลายขณะแช่ได้ค่ะ

ออนเซ็นแห่งนี้มีความพิเศษคือ กำมะถันและกรดคาร์บอนิกที่เป็นส่วนประกอบ อุณหภูมิของน้ำก็อุ่นสบาย แม้จะเป็นฤดูที่อากาศหนาวจัด หากได้ลงแช่น้ำร้อนของที่นี่แล้ว ไม่ต้องเปิดฮีทเตอร์นอนก็ไม่รู้สึกหนาวเลยล่ะค่ะ นอกจากนี้ออนเซ็นที่นี่เขายังส่งผลดีต่อระบบไหลเวียนเลือดและการทำงานของอวัยวะระบบย่อยภายในร่างกาย เช่น กระเพาะ และลำไส้ได้ด้วย

เสน่ห์แห่ง Shirahone Onsen ที่ชวนให้มาสัมผัส

แม้ว่าชื่อของสถานที่เก่าแก่ในญี่ปุ่นส่วนใหญ่จะมีความเกี่ยวข้องกับเทพเจ้าอยู่มาก แต่สำหรับที่มาของชื่อ Shirahone นี้ หากใครเข้าใจอักษรคันจิ “白骨” ก็จะทราบความหมายที่ตรงตัวได้เลยว่า “กระดูกสีขาว” (เดิมทีเคยถูกเรียกว่า “hakkotsu” และ “shirosen” ด้วย)

ที่มาของชื่อนี้จริงๆ แล้วมาจากการที่ออนเซ็นแห่งนี้มีปูนขาวเป็นส่วนประกอบนั่นเอง หากใครได้ไปก็คงจะทราบถึงจุดนี้ได้ทันที เพราะบริเวณพื้นและอ่างอาบน้ำที่เป็นสีขาวนั้นดูแล้วเหมือนอยู่ในถ้ำหินปูนเลยล่ะค่ะ สำหรับการลงแช่ออนเซ็นที่เป็นน้ำจากธรรมชาตินั้น เปรียบเสมือนการได้รับพรจากธรรมชาติเลยค่ะ และเมื่อยิ่งคิดแล้วก็ยิ่งรู้เลยว่ามีหลายปัจจัยที่ทำให้ “Shirahone Onsen” แห่งนี้เนี่ยเพอร์เฟกต์ที่สุดแล้ว! ทั้งทำเลที่ตั้ง อุณหภูมิ และแร่ธาตุส่วนประกอบในน้ำร้อน ต่างๆ เหล่านี้ ซึ่งถ้าจะเรียกว่าเป็นสถานที่พิเศษที่ชวนพิศวงก็ไม่ผิดล่ะ

shirahone-6

ด้านห้องพักจะมีวิธีเรียกต่างกันออกไปเป็นชื่อของน้ำร้อนในแบบต่างๆ ทั้ง “Aratamanoyu” “Awanoyu” “Kotoshironoyu” ซึ่งทำให้ห้องพักแต่ละแบบมีเอกลักษณ์เฉพาะ และจะให้กลิ่นอายที่เหมาะกับการมาพักผ่อนออนเซ็นได้ดีเลยด้วย ปัจจุบันที่ Shirahone Onsen มีที่พักที่มีความหลากหลายและเป็นเอกลักษณ์ ตั้งเรียงรายกันทั้งหมด 11 หลัง ซึ่งมีความแตกต่างกันทั้งหมด ช่วยเพิ่มความเพลิดเพลินให้กับแขกทุกคนที่เข้าพัก น้ำออนเซ็นที่นี่มาจากตาน้ำธรรมมชาติ แถมยังมีอุณหภูมิที่พอเหมาะ ไม่ร้อนจัดเกินไปด้วย

shirahone-7

มองดูแล้วถึงจะดูเหมือนกับหิน แต่ความจริงแล้วเป็นอ่างที่ทำจากไม้แต่ถูกหินปูนที่ตกตะกอนและจับตัวทับถมกันจนเกิดเป็นลายคล้ายกระดูกมนุษย์ จึงอาจกลายเป็นที่มาของชื่อ “Shirahone” หรือกระดูกขาวค่ะ หรืออาจเพราะสถานที่นี้ไปปรากฏอยู่ในนิยาย “Dabosatsu Toge” ของนักเขียน Kaizan Nakazato ในสมัยโชวะ ซึ่งถูกเรียกรวมๆ ว่า “Shirahone” ด้วย

Shirahone Onsen เป็นออนเซ็นกินได้!?

น้ำในออนเซ็นของที่นี่เขาว่ากันว่าเป็นน้ำที่ดื่มได้ ดังนั้นที่นี่จึงเรียกว่าเป็นออนเซ็นที่กินได้นั่นเอง! ซึ่งมีของขึ้นชื่อประจำท้องถิ่นอยู่ที่ Shirahone Onsen ด้วย สิ่งนั้นคือ “Shirahone Onsengayu” หรือ “ข้าวต้มชิราโฮเนะออนเซ็น” ซึ่งหากได้กินแล้วจะดีต่อท้องไส้อีกด้วยล่ะค่ะ แต่ละที่พักจะมีข้าวต้มเสิร์ฟเป็นอาหารเช้า และแน่นอนว่ารสชาติจะแตกต่างกันตามแหล่งที่มาอีกด้วยนะ ซึ่งถ้าเป็นคนท้องถิ่นจะรู้ถึงเอกลักษณ์ที่แตกต่างกันนี้ดี รวมถึงจำแนกความต่างของรสชาติข้าวต้มได้ด้วย บอกเลยว่าแบบนี้ไม่ได้หาได้ง่ายๆ ทั่วไปนะเนี่ย

shirahone-1

ที่อยู่ : 390-1515 Shirahone Onsen, Azumi, Matsumoto, Nagano 4195

การเดินทาง : จากสถานี Matsumoto ขึ้นสาย Matsumotodentetsu ไปยังสถานี Shinshimashima ใช้เวลา 30 นาที และนั่งต่อไปถึง Shirahone Onsen ด้วยรถบัส (70 นาที) หรือรถแท็กซี่ (50 นาที) ตอนนี้หลังจากที่ได้สร้างทางหลวงประจำจังหวัดเสร็จเรียบร้อยแล้ว การเดินทางไป Shirahone Onsen นี้สะดวกขึ้นกว่าก่อนมากเลยทีเดียวล่ะค่ะ

สำหรับในฤดูหนาวการขับรถไปอาจจะค่อนข้างลำบากและน่ากังวลสำหรับบางท่าน ดังนั้นจึงการเดินทางแนะนำให้ใช้รถบัสจาก Matsumoto ค่ะ แม้จะยังไม่เป็นที่เล่าขานกันมากนัก แต่ออนเซ็นแห่งนี้ก็ยังคงความเป็นเอกลักษณ์ของตัวเองไว้ และยังดังเรื่องการช่วยรักษาโรคโดยวิธีการแช่น้ำออนเซ็นด้วย นอกจากนี้ขณะแช่ออนเซ็นยังสามารถชื่นชมความงามของธรรมชาติที่โอบล้อมไปได้ด้วย ที่นี่เขาเปิดกว้างให้ทุกคนสามารถเข้ามาใช้บริการได้ ไม่ว่าจะเป็นผู้สูงอายุ หรือหญิงสาวก็ตาม เป็นอีกสถานที่ที่น่าไปสัมผัสสักครั้งค่ะ

อัลบั้มภาพ 8 ภาพ

อัลบั้มภาพ 8 ภาพ ของ ออนเซ็นสีน้ำนมสุดเลื่องชื่อแห่งนากาโนะ “ลงแช่ 3 วันไม่เป็นหวัดไป 3 ปี”

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook