เรียนภาษาญี่ปุ่นฟรี ลองถามสำนักงานเขตดูนะ

เรียนภาษาญี่ปุ่นฟรี ลองถามสำนักงานเขตดูนะ

เรียนภาษาญี่ปุ่นฟรี ลองถามสำนักงานเขตดูนะ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

สำหรับชาวต่างชาติในญี่ปุ่น มีหลายคนที่ไม่ได้มาเพื่อเรียนภาษาโดยเฉพาะ บางคนมาทำงาน ไม่มีเวลา หรือเรียนมหาลัยเป็นภาษาอังกฤษ จะมีเหตุผลใดก็แล้วแต่ ถ้าอยากเรียนภาษาญี่ปุ่นฟรีๆนอกเวลาเรามีทางเลือกดีๆมาแนะนำค่ะ

ทำไมถึงเรียนฟรี

นี่เป็นหนึ่งในนโยบายที่หลายๆเมืองมี เป็นสวัสดิการง่ายๆรูปแบบนึงที่มีให้กับชาวต่างชาติ โดยผู้สอนส่วนใหญ่ จะเป็นชาวญี่ปุ่นที่อยากทำงานอาสาสมัครช่วยเหลือสังคม บางคนก็อยากคุยกับเพื่อนต่างชาติ หรือบางคนเป็นครูจริงๆเกษียณแล้วมาสอนแก้เบื่อก็มีนะ (คนแก่ญี่ปุ่นไม่ชอบนอนอยู่บ้านเฉยๆ)

ด้วยเหตุนี้เอง แม้โดยรวมครูจะไม่เก่งเทพเหมือนโรงเรียนภาษา แต่ก็ไม่ได้แย่ แถมประหยัดกว่าไปเรียนที่โรงเรียนเยอะ ตารางเวลาก็อิสระกว่า แถมมีโอกาสได้เพื่อนใหม่ด้วยนะ

ไปหาเรียนภาษาญี่ปุ่นแบบนี้ได้ที่ไหน

ก่อนอื่นเลย บทความนี้สำหรับคนที่อยู่ญี่ปุ่น หรือใครที่วางแผนจะมาเรียนหรือทำงานเป็นต้น หากมาถึงแล้ว ก่อนอื่นอย่าลืมมองหาสำนักงานเขตหรือที่ว่าการอำเภอของเมืองที่ตัวเองอยู่

ขั้นตอนแรก เราต้องลองไปสอบถามสำนักงานเขตหรืออำเภอที่เราอาศัย ว่าต้องการเรียนภาษาญี่ปุ่นต้องติดต่อที่ไหน เพราะแต่ละเขตจะติดต่อสถานที่ไม่เหมือนกัน แต่ส่วนมากจะสามารถติดต่อได้ที่สำนักงานเขต ที่ว่าการอำเภอ หรือศูนย์วัฒนธรรม (Bunka Center) ของเมืองที่เราอยู่

และถ้าบังเอิญใครพักใน 23 เขตปกครองพิเศษของโตเกียว สามารถเข้าไปเช็กคลาสเรียนได้ที่นี่เลย Tokyo Nihongo Volunteer Network และสามารถเข้าไปสอบถามและสมัครได้ที่สถานที่จัดสอนได้โดยตรง โดยเจ้าหน้าที่จะมีคลาสให้เลือกตามวัน เวลา และสถานที่ที่ผู้เรียนสะดวก

- www.tnvn.jp (อังกฤษ)

ตัวอย่าง: เขตชินจูกุ

สำหรับเขตหรืออำเภอใหญ่ๆ ที่ชาวต่างชาติอยู่กันเยอะๆ อย่างเช่นเขตชินจุกุ มักจะมีสถานที่ทำกิจกรรมของชาวต่างชาติโดยเฉพาะ อย่างเช่นที่เขตชินจูกุจะมีอยู่ที่ศูนย์ Shinjuku Multicultural Center (ปัจจุบันอยู่ที่ ชั้น11 ตึกเดียวกับโรงพยาบาล Okubo) สถานที่แบบนี้นอกจากจะมีคอร์สเรียนภาษาแล้ว ก็อาจจะมีกิจกรรมอื่นๆที่มีประโยชน์กับชาวต่างชาติอย่างเราๆด้วย เช่นหางานพาร์ทไทม์ หาเพื่อน ทำกิจกรรมวันเสาร์อาทิตย์ เป็นต้น

ใครสนใจ ลองหาของเมืองที่ตัวเองอยู่ดูนะ

- www.regasu-shinjuku.or.jp (ภาษาไทย)

สมัครเรียนภาษาญี่ปุ่นกับเหล่าอาสาสมัคร

การเขียนใบสมัคร บางคลาสจะให้เรากรอกใบสมัครไว้ก่อนเลย ณ ที่ๆเราติดต่อ ส่วนบางคลาสจะให้กรอกใบสมัครในวันที่เปิดเรียนวันแรก ใครไปก่อนสามารถเข้าเรียนได้ก่อน เมื่อครบจำนวนก็ปิดรับนักเรียน แต่ละคลาสอาจจะมีการกำหนดว่าสามารถรับผู้เรียนได้กี่คน ส่วนใหญ่คลาสจะมีขนาดตั้งแต่20-40คน

ส่วนใหญ่ไม่ต้องเตรียมเอกสารในการสมัครอะไรทั้งสิ้น ไปถึงก็เรียนได้เลย เป็นอีกหนึ่งข้อดีเพราะไม่ยุ่งยาก

ช่วงเวลาที่เปิดสอน มักจะแบ่งเป็น3เทอม (เข้าเทอมไหนก็ได้) เทอมละประมาณ3เดือน

  • เทอม1 ช่วง เมษายน-มิถุนายน
  • เทอม2 ช่วง กันยายน-ธันวาคม
  • เทอม3 ช่วง มกราคม-มีนาคม

แต่ช่วงเวลาอาจจะปรับยืดหยุ่นได้ ขึ้นอยู่กับคลาสนั้นๆ วันและเวลาสอนก็แตกต่างกันไป มีทั้งเรียนสัปดาห์ละวันหรือมากกว่า มีให้เลือกทั้งคลาสตอนเช้าหรือคลาสตอนเย็น มีหลากหลายคลาสให้เราเลือกได้ตามความสะดวกของผู้เรียน อย่างเช่นถ้าเป็นคนทำงานก็เลือกคลาสเสาร์อาทิตย์ ถ้าเป็นแม่บ้านก็เลือกคลาสตอนกลางวันของวันธรรมดา เป็นต้น

บางที่อาจจะมีการเก็บค่าใช้จ่ายเป็นรายเทอม เทอมละ2000-4000เยน แต่ก็ยังนับว่าถูกมาก

การสอนจะสอนประมาณวันละ2ชม. แต่ละคลาสจะแบ่งเป็นกลุ่มย่อยๆอีกที เพื่อแบ่งระดับความรู้ของนักเรียน จะนั่งกันโต๊ะละน้อยๆ ประมาณ 1-5คน ใครที่พอรู้ภาษาญี่ปุ่นบ้างก็จะนั่งกลุ่มนึง ใครที่ไม่รู้ภาษาญี่ปุ่นเลยไม่เคยเรียนมาก่อนก็จะนั่งอีกกลุ่ม เพื่อความสะดวกในการสอน

แล้วแต่คลาส บางที่อาจจะมีกิจกรรมสนุกๆให้เราทำ เช่นเมื่อถึงฤดูร้อนคนญี่ปุ่นก็มักจะใส่ชุดยูกาตะไปดูดอกไม้ไฟ คุณครูก็อาจจะนำชุดยูกาตะมาให้เราลองใส่ถ่ายรูปเก็บไว้กับเพื่อนๆ หรือมีกิจกรรมที่ให้นักเรียนนำอาหารของประเทศตัวเองมาทำกินร่วมกันกับอาหารจากชาติอื่นๆ เป็นต้น ได้แลกเปลี่ยนวัฒนธรรมกัน ได้พูดคุยกัน รับรองว่าถ้าได้เรียนนอกจากจะได้รู้ภาษาญี่ปุ่นแล้วยังได้อะไรดีๆอีกหลายอย่างนอกจากภาษากลับไปแน่นอน

เรียนญี่ปุ่นแบบนี้มีข้อเสียมั้ย

ข้อเสียของคลาสแบบนี้ก็คือ เนื่องจากสอนฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย (หรือถูกมาก) หลายๆที่คนจะเยอะแค่วันแรกๆ หลังจากนั้นจะเริ่มหายไปทีละคนสองคน จนท้ายๆเทอมคุณครูจะเหงามาก เพราะสอนฟรีไม่บังคับผู้เรียนนักเรียนก็เลยค่อยๆหายไปเรื่อยๆ เพราะงั้นก็จะเงียบเหงากว่าโรงเรียนภาษาทั่วๆไปหน่อย

นอกจากนี้ เนื่องจากครูทุกคนไม่ได้เป็นมืออาชีพ บางคนก็เป็นแค่คนญี่ปุ่นที่ไม่ได้เคยเป็นอาจารย์ เพราะฉะนั้นคุณภาพก็คงสู้กับโรงเรียนที่เก็บค่าเทอมจริงจังไม่ได้แต่หากต้องการความรู้ขั้นพื้นฐาน หรือฝึกพูดกับคนญี่ปุ่นจริงๆละก็ไม่มีปัญหา

เมื่อเรียนใกล้จบในเทอมนั้นๆ ทางคลาสก็จะมีใบกำหนดการสำหรับคลาสเรียนเทอมต่อไป เราจะเรียนหรือไม่เรียนต่อก็ได้แล้วแต่ความสมัครใจ บางที่ใจดีมีเอกสารส่งมาให้ที่บ้านเราเลยว่ากำหนดการเทอมต่อไปมีอะไรบ้าง ถ้าใครได้เรียนแล้วก็จะได้รับเอกสารเหมือนกันทุกคน คนที่เคยเรียนมาก่อนก็จะสามารถสมัครได้ก่อนด้วย

นอกจากจะได้เรียนภาษาญี่ปุ่น ได้เรียนรู้วัฒนธรรมญี่ปุ่นแล้ว ยังเป็นโอกาสที่จะได้เรียนรู้วัฒนธรรมของหลายประเทศ จากเพื่อนต่างชาติอื่นๆ ที่มาร่วมเรียนด้วยกัน ได้เพื่อนใหม่ ได้ประสบการณ์ใหม่ๆ เป็นกิจกรรมดีๆสำหรับชาวต่างชาติที่สนใจจะเรียนรู้ภาษาญี่ปุ่นอย่างมาก

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook