Disney ไม่โอเค ที่ Mulan จะเป็นหนังเปิดโรงเรื่องแรกหลังโควิด และอาจเลื่อนฉายไปคริสต์มาส
Mulan หนังฉบับ Live Action ของหนังการ์ตูนสองมิติเมื่อปี 1998 ของ Disney ที่ถูกวางกำหนดฉายในสหรัฐฯ ไว้ 24 กรกฎาคมที่จะถึงนี้ และยังเป็นภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์เรื่องแรกที่จะกลับมาฉายหลังสถานการณ์โควิด-19 หลังจาก Tenet เลื่อนฉายจาก 17 กรกฎาคม ไปเป็น 31 กรกฎาคม แต่ล่าสุดสื่ออย่าง Deadline ก็ได้ออกมาบอกว่า Disney ไม่ค่อยปลื้มที่ Mulan ทุนสร้าง 200 ล้านเหรียญฯ จะเป็นหนังฉายเปิดเรื่องแรก เพราะเสี่ยงเจ๊งและคนดูส่วนใหญ่อาจยังไม่พร้อมจะกลับมาดูหนังในช่วงเวลานี้ จึงมีแผนจะเลื่อนฉายหนังออกไปอีกซึ่งนับเป็นรอบที่ 3 แล้ว และเป็นไปได้ที่จะไปเข้าฉายช่วงคริสต์มาสปลายปีเลย
และนั่นจะทำให้ Tenet กลับมาเป็นหนังฟอร์มใหญ่ที่ฉายเปิดเทศกาลซัมเมอร์ปีนี้ ที่เอาเข้าจริง ๆ แล้วผู้บริหารค่าย Warner เองก็อยากจะเลื่อนฉายหนังออกไปอย่างมากด้วยเหตุผลเดียวกัน ที่กลัวว่าหนังทุนสร้าง 200 ล้านเหรียญฯ จะเจ๊งและทำรายได้ไม่ดีเท่าที่ควร แต่ติดที่ Christopher Nolan ผู้กำกับยืนกรานหนักแน่นไม่ให้ Warner เลื่อนฉายไปไกลกว่าเดือนกรกฎาคม หนังจึงขยับจากกำหนดฉายเดิมไปแค่ 2 สัปดาห์เท่านั้น
หลังการที่โรงหนังปิดให้บริการมาเข้าเดือนที่ 4 แล้ว ซึ่งมีการคาดการณ์กันว่าอุตสาหกรรมภาพยนตร์ของสหรัฐฯ จะต้องสูญเสียรายได้ไปประมาณ 31,000 ล้านเหรียญฯ จนกว่าสถานการณ์โควิด-19 จะคลี่คลายทั่วทั้งโลก รวมถึงตอนนี้งานประกาศผลลูกโลกทองคำและออสการ์ของปีหน้าก็เลื่อนการประกาศรางวัลออกไปกันหมดแล้ว
สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในรัฐแคลิฟอร์เนีย เท็กซัส และฟลอริดาของสหรัฐฯ ยังคงอยู่ในภาวะวิกฤต เพราะยังทำสถิติมีผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มสูงสุดในวันเดียวรวมกันที่ 34,720 คนเมื่อวันอังคารที่ 23 มิถุนายนที่ผ่านมา ทำสถิติวันที่มีผู้ติดเชื้อใหม่สูงที่สุดเป็นอันดับ 3 นับแต่เกิดการระบาดมา โดยเจ้าหน้าที่ทางการของรัฐออกมายืนยันเองว่า ทางการยังไม่ประสบความสำเร็จในการรณรงค์ให้ผู้คนไม่ออกมารวมตัวหรือทำกิจกรรมร่วมกัน ส่วนสถานการณ์ในประเทศจีนที่เป็นตลาดกลุ่มเป้าหมายใหญ่สุดของ Mulan อีกแห่ง ก็ยังไม่สามารถเปิดโรงหนังได้เช่นกัน แม้ว่าสวนสนุก Disneyland ในเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีนและฮ่องกงจะกลับมาเปิดให้บริการได้แล้ว