วิเคราะห์ศึกโรงหนังครั้งใหม่กับการ Drive-in จอดรถดูหนังกลางแปลง ฝั่งไหนเจ๋งกว่ากัน!

วิเคราะห์ศึกโรงหนังครั้งใหม่กับการ Drive-in จอดรถดูหนังกลางแปลง ฝั่งไหนเจ๋งกว่ากัน!

วิเคราะห์ศึกโรงหนังครั้งใหม่กับการ Drive-in จอดรถดูหนังกลางแปลง ฝั่งไหนเจ๋งกว่ากัน!
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

อยากจะลองไปนั่งดูหนังกลางแปลงในรถของตัวเองไหม 2-5 กรกฎาคม 2563 เตรียมพร้อมไว้เลย ประสบการณ์แบบนี้กำลังจะมาให้เราได้สัมผัสกันแล้ว!

 

เราอาจจะเคยเห็นภาพบรรยากาศที่ต่างประเทศมีการฉายหนังแบบไดร์ฟอิน (Drive-in) หรือการขับรถไปจอดเพื่อดูหนังกลางแปลงจากในรถส่วนตัว ซึ่งกิจกรรมการดูหนังแบบนี้ได้รับความนิยมอย่างมากในสหรัฐอเมริกาและประเทศเกาหลีใต้

ล่าสุด SF ได้จับมือกับพาร์ทเนอร์อย่าง กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) หรือ CAT จัดงาน CAT Drive-in Cinema โดยจะใช้เครื่องฉายหนังอย่าง Laser Projector 4K มาใช้เพื่อให้ภาพที่คมชัดสีสวยสดใส ในขณะที่เสียงจะใช้ฟังผ่านทางเครื่องวิทยุในรถยนต์ สำหรับคนที่กำลังมีคำถามว่า เอารถไปแล้วต้องสตาร์ทเครื่องดูหนังหรือเปล่า คงต้องบอกว่าคราวนี้ทางผู้จัดยังเล็งเห็นถึงปัญหาเรื่องมลภาวะทางอากาศด้วยการบริการระบบปรับอากาศต่อสายตรงถึงรถยนต์ทุกคันที่มาใช้บริการ โดยไม่จำเป็นต้องติดเครื่องยนต์ระหว่างดูหนัง

สำหรับกิจกรรม CAT Drive-in Cinema จะเปิดบริการ 2-5 กรกฎาคมนี้ ที่ คริสตัล ดีไซน์ เซ็นเตอร์ เลียบทางด่วนเอกมัย-รามอินทรา (CDC) โดยจัดฉายภาพยนตร์เรื่อง Trolls World Tour ประเดิมเป็นเรื่องแรก และยังมีบูทกิจกรรมจากพาร์ทเนอร์ต่างๆมาให้บริการ ซึ่งรายละเอียดเพิ่มเติมน่าจะประกาศในอีกไม่กี่วันข้างหน้า ทาง www.sfcinemacity.com

แต่หลังจาก SF ประกาศจัดกิจกรรมได้ไม่ทันไร ทางฝั่งเมเจอร์ Major Cineplex ก็ประกาศศึกฉายหนัง Drive-In Theater ออกตามมา แถมยังเลือกประชันกันชนิด “ฝั่งตรงข้าม” ของถนนเลยทีเดียว ซึ่งสถานที่ในการจัดงานก็คือ ลานจอดรถลอยฟ้า ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เฟสติวัล อีสต์วิลล์

โดยรายละเอียดล่าสุดทางเมเจอร์ได้ประกาศออกมาว่าลานจอดรถลอยฟ้าของศูนย์การค้า เซ็นทรัลเฟสติวัล อีสต์วิลล์ บนเนื้อที่ 3,830 ตร.ม. รอบละ 85 คัน ผ่านจอ LED ขนาดยักษ์ ที่ให้ความคมชัดระดับ 4K พร้อมประสิทธิภาพเสียงแบบสเตอริโอ ผ่านลำโพงบลูทูธ และบริการสุดพิเศษที่ผู้เข้าร่วมชมภาพยนตร์ทุกคันจะได้รับ ไม่ว่าจะเป็น การจัดเตรียมเครื่องปรับอากาศเคลื่อนที่สำหรับรถยนต์ทุกคัน โดยหนังที่นำกลับมาฉายใหม่คือ Begin Again, Your Name และ Whiplash (ซึ่งหนังทุกเรื่องที่นำมาฉายนั้นล้วนเป็นหนังในเครือ M Pictures (ค่ายหนังในเครือของเมเจอร์เอง)

รายละเอียดเพิ่มเติม http://www.majorcineplex.com/news/major-cineplex-drive-in-theater-centralfestival-eastville-2020

 

ไม่ใช่แค่ตัวงาน แต่หนังฝั่งไหนน่าสนใจกว่ากัน

เมื่อมองในแง่ของความสดใหม่ ดูเหมือนว่าหนังของทางฝั่ง SF จะน่าสนใจกว่าของทางฝั่ง Major ตรงที่ Trolls World Tour เป็นหนังใหม่ที่เพิ่งออกฉายได้ไม่นาน ในขณะที่ฝั่งคู่แข่ง หนังอย่าง Begin Again, Your Name และ Whiplash ล้วนแล้วแต่เป็นหนังที่ฉายมานานมากแล้ว อีกทั้งยังอยู่บนสตรีมมิ่งและออกเป็นแผ่นบลูเรย์หรือโฮมเอนเตอร์เทนเมนต์จนน่าจะเรียกได้ว่าเป็นหนังที่ทุกคนน่าจะได้ดูมาแล้ว

ดูเหมือนว่าโจทย์สำคัญที่ทางฝั่ง Major (ซึ่งตามมาทีหลัง) พยายามจะงัดกลยุทธ์ในการ “เลือกหนัง” มาชน ซึ่งทางฝั่ง SF หยิบเอา Trolls World Tour ซึ่งเป็นหนังแอนิเมชั่นมิวสิคัล มีเพลงอันหลากหลายแนวซึ่งเหมาะอย่างมากกับช่วงเวลาที่อีเวนท์ประเภทคอนเสิร์ตและงานเทศกาลดนตรีไม่สามารถจัดได้ หนังที่ทางฝั่ง SF เลือกจึงดู “ไปได้ดี” กับตัวรูปแบบของกิจกรรมที่เกิดขึ้น

ในขณะที่ทางฝั่ง Major ซึ่งใช้หนังเก่า Begin Again, Your Name และ Whiplash ที่ถึงแม้ว่า 2 ใน 3 เรื่องจะเป็นหนัง “เพลง” และ “ดนตรี” มาดึงคน แต่ก็ด้วยเหตุผลที่กล่าวมาข้างต้นในแง่ของความสดใหม่นั่นเอง

ผู้ชนะ: SF

 

โลเคชั่นสองฝั่งถนน ฝั่งไหนเวิร์คกว่ากัน

มองแค่เรื่องโลเคชั่น แม้ว่าจะตั้งอยู่สองฝั่งถนนก็จริง แต่ปฏิเสธไม่ได้อีกเช่นกันว่าทางหน้า เซ็นทรัลเฟสติวัล อีสต์วิลล์ นั้นการจราจรหน้าห้างค่อนข้างสาหัสเอาเรื่อง โดยเฉพาะช่วงเย็นของวันธรรมดา และตลอดวันในช่วงวันหยุด อีกทั้งการระบายรถส่วนตัวของทางห้างก็เรียกได้ว่าใครที่เคยขับรถผ่านเส้นทางนั้นก็คงจะเข้าใจกันดีชนิดไม่ต้องพูดอะไรให้มากมายเมื่อยปาก

ทางฝั่ง CDC ที่เคยจัดงานในลานกว้างอาทิงานคอนเสิร์ตและงานอีเวนท์มานับครั้งใหม่ถ้วน ทำให้ภาพในหัวของคนที่จะมาร่วมงานนั้นมองเห็น “ลานกว้าง” ที่ชัดเจนกว่าทางฝั่งของ เซ็นทรัลเฟสติวัล อีสต์วิลล์

แต่เหนืออื่นใดก็ตาม วันที่มีการจัดงานจริงๆก็คงต้องมาดูกันอีกทีนั่นแหละว่า การจราจรของทางฝั่งไหนจะรุ่งหรือจะร่วง (แต่เนื่องด้วยกิจกรรมของทั้งสองเจ้าไม่ได้เป็นสเกลที่ใหญ่ขนาดงานคอนเสิร์ต ปริมาณรถจึงอาจจะไม่น่าเป็นห่วงเกินความจำเป็น)

ผู้ชนะ: SF

 

พาร์ทเนอร์และสปอนเซอร์ฝั่งไหนปังกว่ากัน

เมื่อเราลองมองบรรดาผู้สนับสนุนของโรงหนังแต่ละเจ้าแล้ว ดูเหมือนว่าพาร์ทเนอร์ของทั้งสองฝั่งก็เจ๋งไม่แพ้กัน มีใครสนับสนุนบ้างก็ลองดูที่โปสเตอร์กันเองนะครับ ไม่ได้ค่าจ้างในการเขียนเลยกล่าวผ่านๆแทนแล้วกัน

ผู้ชนะ: เสมอกัน

 

กล่าวโดยสรุปคือดูเหมือนว่า ทางด้าน SF ดูจะมีแต้มต่อหลายๆอย่างในการจัดงานครั้งนี้ แต่เราก็คงต้องดูกันอีกทีว่าเมื่อถึงวันงานจริงๆแล้ว โรงหนังทั้งสองเจ้านี้จะมีไม้ตายอะไรมาดึงคนให้ไปร่วมงานกันอีก แต่เชื่อเถอะว่าตอนนี้คงมีหลายต่อหลายคนอยากจะลองไปชมภาพยนตร์ในรถกันไม่น้อยแล้วล่ะครับ เพราะน่าสนใจตั้งแต่ตัว “รูปแบบการจัดงาน” ที่คนไทยรุ่นใหม่อาจจะยังไม่เคยสัมผัสประสบการณ์แบบนี้

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook