รีวิว The Old Guard ความ “อมตะ” กับสิ่งที่ต้องแลกมา

รีวิว The Old Guard ความ “อมตะ” กับสิ่งที่ต้องแลกมา

รีวิว The Old Guard ความ “อมตะ” กับสิ่งที่ต้องแลกมา
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

 

จากกราฟิกโนเวลเรื่องดังของ “เกร็ก รักคา” The Old Guard มีความยาวทั้งสิ้น 5 เล่มตีพิมพ์ในปี 2017 ความกิ๊บเก๋คือในเวอร์ชั่นภาพยนตร์ตัวเกร็กเองได้รับหน้าที่ในการดัดแปลงงานของตัวเองให้กลายมาเป็นบทภาพยนตร์ ตัวหนังแม้จะมีไม่อะไรแปลกใหม่นักแต่ก็ดูได้เพลินๆไม่เสียเวลาแต่อย่างใด

The Old Guard บอกเล่าเรื่องราวของของกลุ่มผู้พิทักษ์ซึ่งมีพลังพิเศษในการเยียวยาบาดแผล ไม่ว่าพวกเขาจะโดนโจมตีจนอยู่ในสภาพอาการปางตายแค่ไหน แต่พวกเขาก็จะสามารถฟื้นคืนชีพได้ราวกับปาฏิหาริย์ โดยในทีมนี้จะมีสมาชิกทั้งสิ้น 4 คน ประกอบไปด้วยแอนดี้ (ชารีส เธอรอน) บุคเกอร์ โจ และ นิคกี้ ซึ่งแต่ละคนก็มีอดีตอันแสนยาวนานและอยู่ในเหตุการณ์สำคัญๆของประวัติศาสตร์โลกตั้งแต่ยุคโบราณไล่เรียงมาเรื่อยๆจนถึงยุคปัจจุบัน

ทั้งสี่คนแม้จะอยู่บนโลกนี้มาอย่างยาวนาน แต่ความสามารถพิเศษของพวกเขาก็เป็นเหมือนคำสาป พวกเขาต้องซุกซ่อนตัวเองไม่ให้มีตัวตนอยู่ในสังคม คอยรับงานเบื้องหลังในการทำภารกิจเสี่ยงตายต่างๆ โดยปราศจากเครดิต ไม่มีแม้กระทั่งคนรัก เพราะพวกเขารู้ดีว่าการเฝ้ามองคนที่ตนเองรักตายจากไปครั้งแล้วครั้งเล่ามันเจ็บปวดแค่ไหน

สถานการณ์ในโลกยุคปัจจุบันที่เทคโนโลยีและวิทยาการทางการแพทย์ที่ก้าวหน้า มิสเตอร์วอร์ริก (แฮร์รี่ เมลลิ่ง) เจ้าของบริษัทยาที่ทราบข่าวคราวความ “อมตะ” ของกลุ่มดิโอการ์ด เขาจึงอยากจะนำตัวอย่างเลือดเพื่อมาค้นคว้าวิจัยในการหายารักษาโรคและเพิ่มอายุขัยให้กับมนุษย์ และแน่นอนว่ามันคือเรื่องผลกำไรอันมหาศาลเกินกว่าจะคาดเดา ทำให้เหล่าดิโอการ์ดถูกตามล่าอย่างหนัก

ขณะเดียวกันไนล์ (กิกี้ เลนน์) ทหารหญิงที่เข้าไปทำภารกิจในอัฟกานิสถานและพบว่าตัวเองมีพลังพิเศษในการเยียวยาบาดแผล ทำให้ทีมดิโอการ์ดต้องออกตามหาตัวเธอเพื่อป้องกันไม่ให้เธอกลายเป็นเหยื่อในการถูกจับตัวไปทำการทดลอง อีกทั้งยังช่วยกันดูแลเพื่อให้เธอสามารถปรับตัวและใช้ชีวิตอย่างปลอดภัยได้ในสังคมมนุษย์

ตัวหนังค่อนข้างใส่ดราม่าในแง่ของความเป็นอมตะที่ขมขื่นของเหล่าตัวละครมาพอประมาณ ซึ่งตัวละครที่ได้รับมิติสูงสุดก็คงหนีไม่พ้นแอนดี้ ดิโอลด์การ์ดที่อยู่บนโลกมนุษย์มายาวนานที่สุด เรียนรู้เหตุการณ์อันแสนเจ็บปวดมากมายมานับครั้งไม่ถ้วน ไม่ว่าเธอจะแข็งแกร่งจากภายนอกแค่ไหน แต่การมีชีวิตอยู่นับพันปีคงทำให้จิตใจของเธอบอบช้ำจนแทบจะเกินเยียวยา และทำให้คนดูเห็นว่าการมีชีวิตอยู่ค้ำฟ้านั้น ไม่ใช่เรื่องที่น่าอภิรมย์เลย

ในพาร์ทของฉากต่อสู้ แม้ว่าจะไม่มีอะไรใหม่ก็พอดูได้เพลินๆสนุกพอเป็นพิธี The Old Guard จึงเป็นหนังสไตล์สตรีมมิ่งที่ดูได้ไม่เปลืองค่าไฟและชวนเราเฝ้ารอภาคต่อในอนาคตไปเรียบร้อยแล้ว

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook