เมื่อฉันดู “ฉลาดเกมส์โกง” เวอร์ชั่นละครในโรงหนัง ... ความรู้สึกระทึกที่คุ้นเคยก็กลับมา

เอาเข้าจริงการที่ผู้จัดละครหรือซีรีส์จัดอีเวนท์พิเศษให้แฟนๆ ได้เข้ามาชมสักตอนหรือสองตอนในโรงภาพยนตร์ก็เป็นสิ่งที่สามารถพบเห็นบ่อยครั้งในช่วงพักหลัง แต่ก็นะ... เจ้าโควิด-19 ทำให้อีเวนท์แบบนี้ห่างหายไปนานหลายเดือนเนื่องจากโรงหนังปิดให้บริการ แต่เมื่อช่วงสัปดาห์ก่อน Sanook TV/Movies ได้รับเชิญจากเพื่อนบ้านอย่าง WeTV ให้ไปรับชมละคร “ฉลาดเกมส์โกง (Bad Genius The Series)” ตอน 3 และ 4 ที่พารากอน ซีนีเพล็กซ์ ก็ตัดสินใจไปรำลึกบรรยากาศในโรงสักหน่อย ร้างลาไปนานเหลือเกิน

ยังคงจดจำตอนซื้อตั๋วเข้าไปชม “ฉลาดเกมส์โกง” เวอร์ชั่นภาพยนตร์ ได้เป็นอย่างดี ไม่ใช่หนังผีแต่มือจิกที่วางแขนแน่น หายใจไม่ทั่วท้อง อึดอัด การแสดงของ ออกแบบ-นนกุล-เจมี่เจมส์-อุ้ม ทำให้เรารู้เช่นนั้นตลอดเวลา 2 ชั่วโมงนิดๆ โดยเฉพาะ ออกแบบ และ นนกุล ที่อยากลุกขึ้นยืนปรบมือให้ดังๆ รวมถึงการกำกับของ บาส-นัฐวุฒิ พูนพิริยะ และทีมตัดต่อที่ทำให้หนังเรื่องดังกล่าวโกอินเตอร์ไปเปรี้ยงปร้างในหลายประเทศ

เดินทางมาถึง “ฉลาดเกมส์โกง” เวอร์ชั่นละคร ซึ่งเป็นความร่วมมือกันระหว่าง Tencent Video และ GDH ผลิตเอ็กซ์คลูซีฟคอนเทนต์ที่ฉายออนไลน์ทางแอปพลิเคชั่น WeTV เพียงที่เดียว ในแวบแรกบอกตามตรงว่า ค่อนข้างเป็นห่วงทีมนักแสดงที่ประกอบไปด้วย เจ้านาย จินเจษฎ์, จูเน่ เพลินพิชญา, ไอซ์ พาริส และ นาน่า ศวรรยา อยู่พอสมควร เพราะแคสติ้งเวอร์ชั่นหนังนั้นโหดเอาเรื่อง แต่กระนั้นก็คิดว่าน่าจะได้ภาพที่แปลกใหม่พอตัว เพราะผู้กำกับคือ พัฒน์ บุญนิธิพัฒน์ ซึ่งเคยฝากฝีมือเท่ๆ ล้ำๆ ไว้ใน Project S The Series ตอน SOS Skate ซึม ซ่าส์ มาแล้ว

พัฒน์ บุญนิธิพัฒน์ ผู้กำกับ

ซึ่งก่อนไปชมตอน 3 และ 4 ในโรง แน่นอนว่าเราก็ขอจัดตอน 1-2 เป็นการอุ่นเครื่อง ซึ่งเส้นเรื่องไม่ต่างจากเวอร์ชั่นภาพยนตร์มากนัก แต่แอบรู้ว่ามานี่เป็นแค่การปูทางเบื้องต้นไปสู่ความแปลกใหม่ ใจจึงจดจ่อว่าตอน 3-4 จะเป็นเช่นไรกันแน่

งานเริ่มจาก 4 นักแสดงบวกอีกหนึ่งผู้กำกับออกมาทักทายพอเป็นพิธี ก่อนที่ไฟในโรงหนังจะดับลง ความระทึกเริ่มบังเกิด ขออนุญาตข้ามการบอกเล่าเนื้อเรื่องอย่างถี่ยิบ เพื่อหลีกเลี่ยงการสปอยล์ เผื่อใครยังไม่มีเวลาดูตอน 3 และ 4 หรือเผื่อใครที่อยากให้จบ 12 ตอนแล้วดูรวดเดียวจะได้ไม่เสียอรรถรส

สิ่งที่พอจะบอกได้คือ การได้มาดู “ฉลาดเกมส์โกง” ตอน 3-4 ในโรงภาพยนตร์ ได้นำพาความรู้สึกเก่าๆ เมื่อราวๆ 3 ปีที่แล้วกลับมาอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย มือยังคงจิกที่วางแขนแน่น ยังคงหายใจไม่ทั่วท้อง ยังคงอึดอัด จบฉากทีก็ถอนหายใจที นี่คือเสน่ห์ที่ ฉลาดเกมส์โกง เคยมอบให้เมื่อครั้งที่ฉายเป็นหนัง ความยอดเยี่ยมคือเมื่อแปรเปลี่ยนเป็นละคร เอกลักษณ์แห่งความรู้สึกนั้นยังคงอยู่ครบถ้วน

นอกจากนั้นข้อดีของการเป็นละครก็คือ สามารถสร้างปมของแต่ละตัวละครได้น้ำได้เนื้อมากยิ่งขึ้น คนดูสามารถรู้ในหลากหลายแง่มุมชีวิตมากกว่าเวอร์ชั่นหนัง ส่งต่อไปยังตอนที่ 3 และ 4 นี่แหละที่ผู้กำกับขยายอาณาจักรของตัวละครอย่าง แบงค์, ลิน, พัฒน์ และ เกรซ ไปสู่ภาพและเรื่องราวที่ไม่มีใครเคยได้เห็นและได้รู้ แต่กระนั้นก็ยังมีซีนในห้องสอบซึ่งเป็นภาพจำของนักดูหนัง ที่ดีกรีความระทึกใจไม่ได้ลดลงเลยแม้แต่น้อย

ในขณะที่นักแสดงชุดใหม่ที่ในตอนแรกเราแอบเป็นห่วง ... ในนาทีนี้แทบจะหายห่วงเป็นปลิดทิ้ง โดยเฉพาะ เจ้านาย ที่กลายเป็น แบงค์ จนลืมภาพลูกชายคนโตของ เจ เจตริน ไปเสียหมดสิ้น ด้าน จูเน่ ก็สวมบทบาทเป็น ครูพี่ลิน ในแบบฉบับของตนเอง มีโมเมนต์กุ๊กกิ๊กเขินอายพอให้แช่มชื่นหัวใจ ต่างจากเวอร์ชั่นออกแบบที่ขมวดคิ้วตามอยู่ตลอดเวลา ติดแค่สำเนียงการพูดของ จูเน่ ที่ยังไม่หลบจากในชีวิตจริงหรือละครเรื่องก่อนมากนัก ในขณะที่ ไอซ์ ยียวนกวนประสาทได้อย่างสะใจทีเดียว แต่พอบทจะซึ้งก็เอาซะอยู่หมัด ปิดท้ายด้วย นาน่า กับบทบาท เกรซ ที่ในเวอร์ชั่นภาพยนตร์บทน้อยถึงน้อยมาก ทว่าตอน 3-4 นี่แหละที่ทำให้คนดูได้รู้จัก เกรซ อย่างกระจ่างชัด ซึ่ง นาน่า ก็ทำได้ดีเกินความคาดหมายเลยล่ะ

นี่ยังไม่นับรวมตัวละครใหม่ที่มาโผล่ในเวอร์ชั่นละคร ทั้ง โต้ง-ปิง-เติร์ด (แสดงโดย นนท์ ศดานนท์, ต้นหน ตันติเวชกุล และ จูเนียร์ ปณชัย) และนักแสดงรุ่นใหญ่อีกคับคั่ง ที่นำพาโลกของ “ฉลาดเกมส์โกง” ไปไกลว่าที่คิดไว้มาก

ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องขอชื่นชมผู้กำกับอย่าง พัฒน์ ในการสร้างสตอรีให้กับ 4 ตัวละครนำ ให้ต่างออกไปจากภาพยนตร์ ทำให้ผู้ชมได้ “ทำความรู้จัก” กับตัวละครมากขึ้น ก่อเกิดเป็นที่มาที่ไปที่จะต่อยอดไปสู่ปมสำคัญต่างๆ ในอนาคต นอกจากนั้นสไตล์อันเด่นชัดของผู้กำกับ ไม่ว่าจะเป็นการย้อมสีที่แสดงถึงมู้ดแอนด์โทนในฉากนั้นๆ หรือการนำเสนอในรูปแบบที่ฉีกและแหวกแนวออกไปก็ทำให้เรารู้สึกว่า นี่แหละคือสิ่งที่วงการโทรทัศน์ไทยต้องการ ซึ่งก็ต้องมาลุ้นกันว่า บทสรุปสุดท้ายนั้นจะเหมือนหรือแตกต่างจากเวอร์ชั่นหนังมากน้อยเพียงใด

แต่โดยรวมถือว่า “น่าชื่นชม” โดยเฉพาะการสร้างความรู้สึกว่า “เมื่อไหร่ตอนต่อไปจะมาวะเนี่ย” หรือ “ต้องรอไปอีก 1 สัปดาห์เลยเหรอ” หรือ “จะจบตอนแบบนี้จริงๆ เหรอเนี่ย” อะไรราวๆ นี้ อยากปรบมือให้ดังๆ เลยล่ะ

ติดตามชมละคร “ฉลาดเกมส์โกง” ได้ทุกวันจันทร์-อังคาร เวลา 20.15 น. ทางช่องวัน 31 และดูออนไลน์ทาง WeTV เท่านั้น