ดารา การเมือง นางขับเคลื่อนใดใด โดย แอดมินเพจกะเทยนิวส์
เทยก็มานั่งพินิจ พิจารณาสถานการณ์ตั่งต่าง ก็ต้องบอกตรงๆว่ามันก็ต้องพูด ต้องขอยืมพื้นที่ของ Sanook ในการพูดเรื่องการหนัง การละคร ที่เกี่ยวข้องกับการเมืองเสียหน่อยค่ะ เนื่องจากกระแสการเรียกร้องประชาธิปไตยกันครุกรุ่น ของกลุ่มคนรุ่นใหม่ ที่กำลังส่งเสียงไปยังผู้มีอำนาจ เรียกร้องให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นในประเทศของเรา ซึ่งในด้านของสื่อ ดารา นักแสดง ในช่วงที่ผ่านมา ก็มีความออกมาเป็นกระบอกเสียงกันมากมาย
เทยก็เลยว่าสัปดาห์นี้ เรามาชวนเมาท์ เรื่องสื่อ ดารา กับการเมืองเสียหน่อยดีกว่า
สื่อ คืออะไรไหนพูด
แหม เรื่องนี้มันก็เหมือนกับว่า เทยก็ต้องมานั่งขุดเอาวิชานิเทศศาสตร์มาอธิบายให้กับชาวเราชาวเธอให้ได้ฟังกันอ่ะเนอะ แต่เกริ่นมาถึงจุดนี้ ก็ต้องพูดค่ะ สื่อคืออะไร สื่อมันก็มีหลากหลายนะเธอ ใช่จำเป็นว่าต้องมีกล้องมีไฟรับหน้า ออกอากาศ ฉายจอลงออนไลน์ ถึงจะเอ่ยได้ว่านั่นคือสื่อ สื่อมีอยู่ทุกที่ค่ะ สื่อคือการประยุกต์เอาข้อมูลที่มีอยู่ เข้ากับศาสตร์การเล่าการนำเสนอ นำไปสู่รูปแบบการถ่ายทอดสาสน์นั้นๆ ให้ออกไปสู่ผู้รับฟังน่ะเธอ ซึ่งก็เลยหมายความว่า สื่ออ่ะ เป็นตัวกลาง เป็นนางรับแท้ รับมาแล้วก็ส่งไปให้อร่อย ก็คือหมายความว่า สื่อน่ะ ลำพังตัวนางเองไม่ได้เป็นต้นขั้ววัตถุดิบเสียทีเดียว มันต้องมีของเป็นแก่นของมันก่อนอ่ะเธอ
ดาราอยู่ตรงไหนของสื่อ
ดารา นางแสดง พระเอกสุดหล่อ นักแสดงสุดสวย วงการมายา ค้นฟ้าคว้าดาวตั่งต่าง ก็คือการทำหน้าที่ในการนำเสนอข้อมูล การปรุงแต่งข้อมูลให้น่าสนใจ ไปสู่คนหมู่มากนั่นเองแหละเธอ บ้างก็ว่าดาราก็เลยต้องหน้าดี สะอาดสะอ้าน พูดจาไพเราะออกกล้อง เพื่อให้สาสน์ดูน่าเชื่อถือ บ้างก็ว่าต้องพูดจาตรงไปตรงมา ไม่อ้อมค้อม บ้างก็ว่าเนื้อหาที่พูด ก็ต้องมีประโยชน์ มีความถูกต้องและสร้างสรรค์ บ้างก็ว่า มันต้องมีศิลปะ มีอรรถรสในการนำเสนอตั่งต่าง และดารา หรือนักแสดง หรือผู้นำเสนอในสื่อ ก็เลยต้องมีหลากหลายรูปแบบ เพื่อจะได้นำเสนอข้อมูล เนื้อหา คอนเทนต์ ไปสู่ผู้รับสาสน์ได้อย่างถูกต้อง
วัฒนธรรมไอดอล
แต่ก็เพราะบ้านเมืองเราอ่ะเธอ มันตกตุ๊บลงไปบนวัฒนธรรมบูชาตัวบุคคล ผูกติดกับบุคคลไปเสียมาก ใครเป็นแบบไหน พูดแบบไหน ทำตัวแบบไหน ก็จะถูกตีค่าให้เป็นต้นแบบของสิ่งนั้นๆ ไปเสีย ไม่สามารถเป็นได้มากกว่าที่เป็นได้ ก็คือแบบว่า สมมติดาราคนไหน รับบทเป็นนางเอก ก็จะต้องเป็นนางเอกทั้งในจอและนอกจอ ในจอพูดคะขา นอกจอก็ต้องวางตัวแบบนั้น ถ้าผิดแปลกไป ทำตัวออกจากขนบนางเอกที่วางเอาไว้ ก็เป็นเรื่องใหญ่กันเวอร์วังเลยล่ะเธอ มันเคยเกิดขึ้นมาแล้วอ่ะเนอะ กับการถล่มดาราสาวยับเยิน เมื่อเธอท้องก่อนแต่ง หรือไปเมามายในผับบาร์ตั่งต่าง สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นบ่อยค่ะเธอขา โดยเฉพาะกับดาราหญิงมากกว่าดาราชายเสียด้วยล่ะเธอ
โลกสมัยใหม่ ขับเคลื่อนด้วยคอนเทนต์ และตัวจริง
ตะนี้พอก้าวเข้าสู่ยุคดิจิทัล โลกใหม่โลกเก่าสองโลกก็ตีกันอร่อยมากแม่ แบบว่าวัฒนธรรมไอดอล บูชาตัวบุคคลก็ยังเข้มข้นในบ้านเราอยู่ แต่ว่ากำแพงระหว่างคนดูสื่อ กับคนผลิตสื่อมันลดลง กลายเป็นว่าตอนนี้ทุกคนสามารถเป็นสื่อได้ พอพอกับเป็นผู้รับสื่อ สมัยนี้ตามทำไมคะข่าวซุบซิบดารา ไปตามส่อง IG นักแสดงดาราคนนั้นเองเลยสิ แคป ส่ง เมาท์กับเพื่อน มึงมึง คนนั้นไปเมนต์คนนั้นมึง เออๆ เห็นละ เมาท์กรุบ ยุคนี้คือมาเบอร์นี้แล้ว ฉะนั้น สิ่งที่ขับเคลื่อนโลกในตอนนี้กลับไม่ใช่การปรุงแต่ง หรือการพยายามยัดสื่อให้ลงกรอบ หากแต่เป็นการที่สื่อ ต้องพยายามหาเนื้อหา ปรุงเนื้อหา และนำเสนอเนื้อหาให้มีความตรงไปตรงมามากขึ้น เข้าสู่ความเป็นคอนเทนต์ที่ไปกับผู้ชมได้จริงๆ ส่วนดารานักแสดง คุณจะเป็นนางเอกก็ได้ แต่คุณต้องเป็นตัวจริง จะมาแอ๊บมาอะไร กล้อง และ Ditigal Footprint มันตรวจจับได้ มาแอ๊บ แป๊บเดียว อดีต แคปไว้หมดแล้วจ้า
สื่อ มีค่าเท่ากับ Soft Power
แม้ว่าเธอๆ ทั้งหลาย อาจจะมองว่าในโลกของสื่อ วงการเมืองมายาอันใหญ่โตและอู้ฟู่นี่ จะมีของจริงบ้าง สคริปต์บ้างปะปนกันไป แต่ใดใดนะเธอเอ๋ย สื่อ หนัง ละคร รายการ เกมโชว์ วาไรตี้ ถือเป็น Soft Power เสมอ ก็แหม เธอต้องตระหนักนะคะ โทรทัศน์และอุปกรณ์ดิจิทัล มันเข้าถึงทุกคนมือต่อมือ บ้านต่อบ้าน มากกว่าการจะให้ทุกคนเข้ารับการศึกษา หรือเข้าอบรมเสียอีก นั่นหมายความว่า คนได้เสพย์สื่อ ย่อมได้รับอิทธิพลจากสื่อ สื่อขับเคลื่อนโลก โลกไปพร้อมกับค่านิยม วัฒนธรรม บรรทัดฐานของสังคมบางอย่าง สื่อเป็นคนหยิบยื่นให้ประชาชนเสพย์ เราเธอเสพย์ เราอาจจะเชื่อ หรือไม่เชื่อ แล้วแต่วิจารณญาณ แต่ไม่ใช่ทุกคนจะมีวิจารณญาณ ก็หมายความว่า สื่อ มีอำนาจเสมออ่ะเธอ
ดารา บันเทิง ตลก ตบกัน ตบหัว มุกเหยียดเพศ ใดใด
ไม่พูดก็ไม่ได้จริงๆ อ่ะเธอ เทยก็ได้เมาท์ไปแล้วว่า สื่อมีค่าเท่ากับ Soft Power ใช่มะ เพราะงั้นเนื้อหาที่สื่อรับมานำเสมอ มาปรุงแต่งให้มันออกอรรถรส ทั้งหลาย ที่เราเราเธอเธอเสพย์กันนั้น หลายๆ คนอาจจะบอกว่า ชีวิตคนไทยอ่ะเธอ ทำงานวันยังค่ำ เหนื่อยจะสายตัวแทบขาด จะให้กลับบ้านไปดูสื่อที่หนักๆ ใช้สมองเยอะๆ แล้วเราคนเดียวจะไปสู้ไหวเหรอ เราก็อยากเสพย์อะไรที่มันบันเทิงเริงรมย์ ฟังสบาย หัวสบาย หัวเราะเอิ้กอ้าก ออกรสออกชาติบ้าง มันจะเป็นไรไป ซึ่งนั่นก็ไม่ผิดนะเธอ แต่เธอต้องอย่าลืมว่าสื่อมีอำนาจ และเพราะว่ามันมีอำนาจในการปรุงแต่งข้อมูล และสร้างบรรทัดฐานของค่านิยม ดังนั้นเธอจึงสามารถหัวเราะเอิ้กอ้ากไปกับมุกตับหัว เหยียดเพศ สะใจไปกับละครตบกันได้ หากเธอแยกแยะได้ แต่ในขณะเดียวกัน สื่อก็กำลังเบนเธอด้วยความบันเทิง ให้เธอหลงลืมปัญหาที่แท้จริงของสิ่งรอบๆตัวเธอได้เหมือนกัน แหม ถ้าชีวิตเธอดี ไม่ต้องทำงานเหน็ดเหนื่อย เธอก็อยากจะเสพย์สื่อที่มันดีขึ้นตามมาใช่ไหมล่ะ
สื่อ จึงเกี่ยวข้องกับการเมือง
สื่อเกี่ยวข้องกับการเมืองมานามนมยานแล้วค่ะเธอขา สื่อสามารถเป็นทั้งกระบอกเสียงของทั้งรัฐ ทั้งประชาชน ทั้งกลุ่ม ฝั่งฝ่ายได้ทั้งนั้น นักเขียน นักหนังสื่อพิมพ์ นักแสดงละครใต้ดิน ผู้กำกับภาพยนตร์ ผู้คนในแวดวงการหนังละคร ต่างพยายามนำเสนอเรื่องราวที่ขับเคลื่อนปัญหา สังคม ความรัก ชีวิต ที่เกี่ยวข้องผู้คน ซึ่งแน่นอนว่าเมื่อมันเป็นกระบอกเสียง มันก็ย่อมกลายเป็นเสียงของสังคมการเมืองไปในที่สุด สื่อว่าไง ก็อาจจะเป็นเสียงของที่เสพย์มันอยู่ ยิ่งในยุคนี้ที่ทุกคนติดต่อเข้าถึงกันได้ สื่อ LIVE ในเวลาไหน คนดูตามในเวลานั้น สื่อพูดดี คนชื่นชม สื่อทำตัวแย่ คนก็พร้อมจะสาปส่งกันอย่างทันท่วงที ไม่ต้องรอให้มีเวลาหายใจเลยแม่ สื่อและการเมืองจึงเป็นของคู่กัน และอยู่ด้วยกันมา
สื่อ ต้องเป็นกลางแค่ไหน
คำถามปลายเปิดอันเป็นนิรันดร์ คลาสสิคสียยิ่งกว่าตอนจบคู่กรรมเสียอีก จริงๆ แล้วสื่อเป็นกลางน่ะ คำนี้เพิ่งมาทีหลังล่ะเธอ มันมาพร้อมกับทุนนิยม แต่ก่อนสื่อไม่เคยเป็นกลางค่ะเธอขา สื่อเป็นกระบอกเสียงให้กับชุมชน ให้กับชาวบ้าน ละครเวที วรรณกรรม เคยสะท้อนปัญหาโศกนาฎกรรมอันโหดร้ายมาเยอะ ก่อนที่ทุนนิยมจะเข้ามา และบีบให้สื่อต้องทำงานเป็นกลางและรับใช้ทุน แบบว่าถ้ารายงานเลือกฝั่งเกินไป ทุนก็จะถอน สื่อก็อยู่ไม่ได้ ต่างจากแต่ก่อนที่สื่อเกิดจากการสนับสนุนของชาวบ้าน จากเสียงของประชาชนที่แท้ แต่ก็นั่นแหละเธอ เรื่องนี้ก็ถูกท้าทายอีก ในช่วงดิจิทัลนี้เอง เมื่อทุกคนล้วนเป็นสื่อ ทุกคนล้วนเล่าเรื่องในข้างของตัวเอง ฉะนั้นคนเสพย์สื่อ จึงต้องตีไว้ก่อนว่า ไม่มีสื่อไหนเป็นกลาง และเราต้องใช้วิจารณญาณพิจารณาเอาเอง อย่างกะเทยนิวส์ ก็ไม่เป็นกลาง เพราะอยู่ข้างกะเทยค่ะ คริ
สื่อ ดารา วงการมายา จึงต้องการเสรีภาพและความหลากหลาย
มาถึงจุดนี้ เธอเธอคงเข้าใจกันแล้วว่า ความหลากหลาย ความเป็นกระบอกเสียง นำสังคม บันเทิงสังคมเนี่ย มันจะไม่สามารถมีให้พวกเธอเสพย์อย่างออกอรรถรสได้เลย ถ้าสื่อ ไม่ได้มาซึ่งเสรีภาพในการนำเสนอ ไม่ได้มาซึ่งการมีเนื้อหาที่หลากหลาย ทั้งสะท้อนสังคม นำสังคม ตรวจสอบสังคมก็ตาม สื่อต่างๆ ควรจะมีพื้นที่ และไม่มีการคุกคามสื่อ เหล่าดารา นักแสดง คนในแวดวงสื่อ เมื่อเป็นกระบอกเสียงแล้ว เราก็ควรจะสามารถพูด แสดงความคิดเห็น มีจุดยืน และมีการวิพากษ์วิจารณ์กันได้อย่างตรงไปตรงมานะเธอจ๋า
อ่านมาจนถึงตรงนี้แล้ว สื่อไทย ดาราคนไหน สำนักใด มีจุดยืนทางการเมืองอย่างไร เทยว่าหลายๆ คนคงมีคำตอบกันในใจแล้วนะคะ และในโลกที่ขับเคลื่อนไปข้างหน้า เรา ในฐานะผู้เสพย์สื่อและเป็นสื่อให้คนรอบข้าง เราจะปฏิบัติตัวอย่างไร จะไปกับสังคมเพื่อให้ได้มาซึ่งเสรีภาพของสื่อได้อย่างไร เทยก็อยากจะไหว้วอนให้ชาวเราชาวเธอ ใช้ “วิจารณญาณ” ไตร่ตรองกันต่อไปนะเธอ
เหยี่ยวเทย รายงาน