ชมภาพแรกและคลิปเบื้องหลัง The Suicide Squad จี๊ดจ๊าดเด็ดสะระตี่ จากผู้กำกับ James Gunn
หากใครที่กำลังรอชมภาพวิสัยทัศน์ที่เกิดจาการตีความใหม่ในภาคต่อกึ่งรีเมกของ The Suicide Squad ที่ได้ผู้กำกับจาก Guardians of the Galaxy อย่าง James Gunn ตอนที่งอนกันอยู่กับ Disney มารับหน้าที่กำกับให้ (ก่อนจะถูกง้อและกลับไปกำกับ Guardian 3 เหมือนเดิม และก่อนหน้านี้เขาก็ออกมาขิงงานตัวเองว่า The Suicide Squad จะเป็นผลงานหนังฮีโรที่สนุกที่สุดของเขา!) ในงาน DC FanDome ปีนี้ก็คงจะได้สมใจกับทั้งภาพจากหนัง คลิปเบื้องหลัง และโปสเตอร์สีสันสุดแสบ ที่ The Suicide Squad อาจกลับสู่สิ่งที่ควรจะเป็นมาตั้งแต่ภาคแรกในภาคนี้ก็เป็นได้
จากคลิปเบื้องหลัง ผู้กำกับและทีมสร้างบอกเองว่า โทนของหนังจะมีกลิ่นของหนังทหารหรือหนังสงครามเมื่อ 40 ปีที่แล้ว ซึ่งก็ทำให้นึกไปถึงหนังอย่าง First Blood (1982) ที่นำแสดงไว้โดย Sylvester Stallone หรือ Commando (1985) ที่นำแสดงโดย Arnold Schwarzenegger มันจะเป็นหนังสงครามดิบโหดแบบยุค 70s บวกกับตัวละครและมุกตลกอันชาญฉลาดจากวิสัยทัศน์ของ James Gunn” Peter Safran หนึ่งในผู้อำนวยการสร้างของหนังก็บอก ส่วน Joel Kinnaman ผู้กลับมารับบทเดิมจากภาคแรกเป็น Rick Flag บอกในคลิปว่า หนังจะทำให้ผู้ชมประหลาดใจ และมันแตกต่างจากหนังซูเปอร์ฮีโรที่เคยสร้างมาก่อนหน้านี้ทุกเรื่อง
Margot RobbieViola Davis
ในคลิปแนะนำตัวละครของเรื่องซึ่งถือว่าเป็นการแนะนำตัวครั้งแรกของแฟรนไชส์นี้ ไล่ตั้งแต่ทีมนักแสดงจากภาคแรกที่กลับมา ได้แก่ Margot Robbie รับบท Harley Quinn, Viola Davis รับบท หัวน้าทีมผู้สั่งการ Amanda Waller, Jai Courtney รับบท Captain Boomerang และ Joel Kinnaman รับบท ทหารผู้ควบคุมที่วายร้าย Rick Flag ส่วนนักแสดงใหม่ประกอบด้วย Idris Elba (Fast & Furious: Hobbs & Shaw) รับบท Bloodsport, Michael Rooker (Guardians of the Galaxy) รับบท Savant, Alice Braga ( I Am Legend) รับบท SolSoria, John Cena (Fast & Furious 9) รับบท Peacemaker และ Sean Gunn น้องชายของ James Gunn รับบท Wease ด้วยการแสดงเทคนิคโมชันแคปเจอร์
John Zena
John Cena นักมวยปล้ำที่หันมาเอาดีทางการแสดงก็บอกถึงตัวละครของเขาว่า “ผมจะมีความเป็นกัปตันอเมริกาในฉบับนิสัยงี่เง่า” และ Gunn ก็เสริมว่า “เขาเป็นคนที่เชื่อมั่นในสันติภาพ และทำทุกวิถีทางเพื่อให้เกิดสันติ ไม่ว่าจะต้องฆ่าคนไปมากเท่าไหร่ก็ตามเพื่อให้บรรลุสันติ” (ฟังดูไม่ค่อยสันติเท่าไรนะว่าไหม)
ภาพนักแสดงและทีมงานตอนปิดกล้องถ่ายทำ เมื่อ 6 เดือนก่อน
หนังจะเข้าฉายในสหรัฐฯ อีกเกือบหนึ่งปีข้างหน้านับจากนี้ 6 สิงหาคม 2021 และบ้านเราก็คงใกล้เคียงกัน