รับบท Romanticize อะไรน่ากลัว... สื่อหาทำให้สวยงามได้เฉย โดย แอดมินเพจกะเทยนิวส์

เข้าสู่ไตรมาสสุดท้ายปลายปี เทยก็เขียนบทความมาก็มาก สัปดาห์นี้ก็เลยว่าจะหาพูดหาเขียนเรื่องเกี่ยวกับความแปลกประหลาดของสื่อไทยกันหน่อยเจ้าค่ะ ว่ามันก็ปรากฎความทำผิดเป็นถูก ความทำดำเป็นขาวอยู่มาก กล่อมประสาทให้เกิดความแบบว่า กลายเป็นเรื่องสวยงามอยู่มากมายในหน้าละคร

มาค่ะ สัปดาห์นี้เรามาดูความโรแมนติก ที่ตั้งอยู่บนความขนลุกขนพองกันดีกว่าค่ะ

ก่อนอื่น ก็ต้องแนะนำคำที่ต้องควรจะรู้จักกันไว้หน่อยนะคะ ก็คือคำว่า Romanticize ซึ่งแปลได้ว่าทำให้เกิดความยั่วยวนใจใดใด ซึ่งแน่นอนล่ะค่ะเธอขา ความหนัง ความละคร ที่เส้นเรื่องเน้นไปที่ความรัก ความสัมพันธ์อะไรใดใด ก็มักจะทำให้ทุกๆ อย่าง กลายเป็นเรื่องโรแมนติก จิกหมอน ฟินไปสามบ้านแปดบ้านด้วยกันทั้งนั้น

แต่ช้าก่อนค่ะเธอขา เรื่องบางเรื่องบางอย่าง พอเราทำให้มันกลายเป็นเรื่องโรแมนติกแล้วล่ะก็ มันอาจจะไม่ได้โรแมนติกเสมอไปในโลกแห่งความจริงนะคะเธอ มาดูกันค่ะ ว่ามีเรื่องอะไรที่พบเจอได้บ้าง

 

• ฉุดกระชากลากไป, กักขังชั้นไว้แล้วรักกัน

เริ่มต้นกันด้วยพล็อตแนว 80’s ที่แหม ไม่รู้จะรีเมคซ้ำกันอีกกี่รอบค่ะแม่ ว่าด้วยเรื่องของการแก้แค้นของหนุ่มสักคน ไม่ว่าจะด้วยการแก้แค้นเพื่อครอบครัว ต่อมรดกแย่งชิง หรือต่อคนรักเก่าหรืออะไรก็ว่าไป เหยื่อก็มักจะเป็นนางเอกผู้ใสซื่อไร้เดียงสา ก็สารพัดที่นางจะหาโดน ทั้งฉุดกระชากลากถู ทารุณกรรมทางรางกายตั่งต่าง ซึ่งความนางเอก ก็มักจะใสซื่อบอบบาง รับบทนางถูกกระทำ ร้องไห้เป็นครึ่งเรื่องก็ว่า ซึ่งแน่นอนค่ะ ความรุนแรงแบบนี้ในโลกแห่งความจริงเกิดขึ้นได้จริง หากละครสักกเรื่องจะสะท้อนสังคมประเด็นนี้ออกมา ก็เป็นเรื่องที่ดีเอามากๆ เลยค่ะ แต่สิ่งที่มันน่าสงสัยก็คือ พอไปถึงตอนจบแล้วเนี่ย เรื่องก็มักจะให้พระเอก ไม่ได้รับโทษ ไม่พอนะคะ นางเอกของเรา ก็มักจะรับบทนางอภัย แล้วก็แต่งงานกับพระเอกได้เฉยเลย จนกลายเป็นสิ่งที่เรียกว่า Stockholm Syndrome หรืออาการตกหลุมรักผู้ร้ายไปซะงั้น งงมากแม่

 

• จับนิดจับหน่อย จับไปจับมา ก็รักเลย

ประเด็น Sexual Harassment เป็นเรื่องที่ถูกพูดถึงกันบ่อยมากในหน้าละครไทย แม้ว่าจะแทบพูดกันได้ว่า จับนิดแตะหน่อย ทำท่าทางหื่นเจ้าชู้ ของละครซิทคอมเจ้าใหญ่ที่เป็นประเด็นอยู่หลายครั้ง จะกลายเป็นเรื่องเม้าท์แซ่บ ขึ้นเทรนด์ด่ากันในทวิตเตอร์ออกรส แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยนะคะว่า แต๊ะอั๋งอะไรนี่ อยู่เสมอทาบนาบเส้นกับวัฒนธรรมไทยมาช้านาน จนบางคนก็เห็นผิดเป็นถูกซะเยอะ ความน่าคิดก็คือ การลวนลามในหน้าสื่อละครบ้านเรา ก็มักจะถูกบิดให้กลายเป็นเรื่องโรแมนติก เรื่องจิกหมอนเวอร์อยู่มาก ซึ่งคุณคะ ในโลกจริงการลวนลามทางเพศ ก็ไม่ได้ว่าจะเจอคนหน้าพระเจ้าปั้นแบบในละครหรือเปล่า และสภาพจิตใจของเหยื่อการถูกลวนลามทางเพศ ก็ไม่ได้ว่าน่าอภิรมย์เลยนะเธอ

 

• จะขอติดตามเธอไป ส่งของให้ รับบท Stalker

ประโยคคลาสสิคกับคำว่า “ตื๊อเท่านั้นที่ครองโลก” เอาดีดีก็ต้องพักก่อนแม่ เพราะจริงๆแล้ว การตามจีบอย่างให้เกียรติกัน กับการคุกคามหรือเข้าขั้น Stalker นั้นก็มีเส้นบางๆ ห่างกันไม่มาก ในละคร เราอาจจะพบว่า การเอาดอกไม้ เอาตุ๊กตา เอาของมาแอบวางไว้ให้ในโอกาสตั่งต่าง ชวนฝัน โรแมนติกอยู่ แต่กับการตามถ่ายรูปในเวลาตั่งต่าง เก็บของที่พระเอกนางเอกใช้ เอาไปเก็บไว้ที่ห้อง ที่ล็อกเกอร์ แปะๆไว้บนฝ้าห้อง เอามาตัดต่อเข้ากับรูปของตัวเอง ตามแล้วตามอีก GPS ต้องไหว้ ก็คือมีความน่ากลัว น่าขนพองอยู่มากนะเออ และมันก็ไม่ได้มีความโรแมนติกเอาเลย การบิดให้การคุกคาม หรือฉวยโอกาสบนความไม่สะดวกใจ อึดอัดใจ ของอีกฝ่าย มันก็ไม่สามารถพัฒนาไปเป็นความโรแมนติกได้ยากนะเธอ 

 

• ถ้าท้อง เดี๋ยวรับผิดชอบเอง จะต้องเป็นลูกของเรา

ขนลุกของพองมากนะแม่นะ สำหรับฉากเลิฟซีน ที่บ่งบอกชัดเจนถึงการไร้ซึ่งการป้องกัน ซึ่งเราอาจจะพบเจอมันต่อยอดไปพล็อตประเภทแบบ เค้ามานอนกับชั้นเพราะเค้ารักชั้น และลูกของเราก็พยานรักตัวน้อย แม้ว่าเขาจะเป็นสามีคนอื่น หรือยังไม่ได้แต่งงานก็ตาม ซึ่งประเด็นตรงนี้ พ้อยท์หลักของมัน ไม่ได้อยู่ที่การได้กันก่อนแต่งหรือไม่อ่ะค่ะเธอ แต่มันคือการบอกว่า เซ็กซ์นั้น หรือเด็กในท้อง เกิดจากเซ็กซ์ที่ไม่ได้ป้องกัน ซึ่งผลอาจจะไม่ได้มีแค่เด็ก แต่มันคือโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อีกมากมาย หรือโรคทางพันธุกรรมจากคู่นอนสู่เด็กอีก ฉะนั้นความพล็อตเมียหลวงเมียน้อยที่เอาลูกเข้าสู้ เอาปล่อยท้องเข้าสู้ มันคือการสะท้อนการไม่ได้วางแผนครอบครัว จนนำไปสู่บทสรุปที่อาจจะไม่สวยงามเหมือนในละครก็ได้นะคะเธอ ต้องคิดเรื่องนี้ให้หนักๆ เลยค่ะ

 

• จนแต่เป็นสุข ทุกข์ก็ยังยิ้มได้

ปรากฏบ่อยๆ กับรายการวาไรตี้ เรียลลิตี้โชว์ ที่เรียกเรตติ้งด้วยการนำผู้เข้าแข่งขัน ที่มีความยากลำบาก เข้าไม่ถึงโอกาสของการมีชีวิตที่ดี แล้วก็ให้พวกเขามาแข่งขันเรียกเงินรางวัลกัน แต่ก็นะคะเธอ เงินรางวัลมันก็มีแค่หนึ่งเดียว

 

• Rape Culture ขืนใจก่อน รักทีหลัง

อันนี้ก็คือว่าวางไว้นัมเบอร์วัน เบอร์หนัก เบอร์แรง ทั้งเราทั้งเธอ ต่างก็คงเจออะไรประมาณนี้จากหน้าสื่อ หน้าละครกันมาบ้างใช่ไหมล่ะคะ กับพล็อตที่ผู้ประพันธ์ผู้หญิง กับเขียนให้ตัวละครผู้ชายเป็นฝ่ายข่มขืนเรา คุณได้แต่เพียงร่างกาย แต่ไม่มีวันได้ใจฉันตั่งต่าง กดขี่ในกดขี่ผู้หญิงไปอีก แน่นอนว่าความพระเอก ก็ย่อมไม่ได้รับโทษอะไรในตอนจบ มิหนำซ้ำความ Romanticise ก็บิดให้ตอนจบกลายมาเป็นรักกันเฉยเลย ก็คือผิดในผิดไปหมด ซึ่งแม้ว่าในยุคนี้ จะมีการออกมาเรียกร้องให้สื่อตั่งต่าง รับผิดชอบต่อเนื้อหาที่ผิดเพี้ยนก็ตาม ก็กลับกลายเป็นว่า เรื่องราวในซีรีส์วายหลายเรื่อง กลายเป็นทางฝั่งตัวละครชายคู่จิ้น ก็เป็นอันข่มขืนอะไรใดใดกันเองไปอีก ก็งงมากเลยค่ะ แก้ให้ผู้หญิงเสร็จ ผู้ชายก็คือทำกันเองไปอีก อาร๊ายยยยย

 

แม้ว่าในโลกของละคร จะต้องทำให้คนดูรู้สึกบันเทิง ไม่มากก็น้อย ความจิกหมอน ความอะไรใดใดต้องมา แต่ก็นั่นแหละค่ะ เหมือนที่เทยเคยเขียนเอาไว้ในบทความก่อนๆ กับคำว่า Soft Power เธอจ๋า อำนาจของสื่อมันต้องตระหนัก จะคิดจะเขียน จะหาพูดหาทำ รับบทอะไร ก็ต้องคิดให้มาก คิดให้หนักนะเออ 

ก็หวังว่าในหน้าสื่อไทย ก็จะมีความก้าวไกลไปข้างหน้า ในขณะที่คนดู ก็ยังคงต้องใช้วิจารณญาณกันต่อไปนะคะคุณกิตติขา ว่าความโรแมนติกที่แท้จริง มันต้องเป็นแบบไหนกันเนอะ 

เหยี่ยวเทย รายงาน