รีวิว The Boys in the Band ทัศนาประสาผองเพื่อนเกย์
จากบทละครเวที The Boys in the Band ซึ่งเคยเปิดแสดงครั้งแรกในปี 1968 ว่าด้วยกลุ่มผองเพื่อนเกย์ที่มารวมตัวกันในวันเกิดของฮาโรลด์ (แซคคารี ควินโต) ก่อนนำไปสู่สถานการณ์ดราม่าที่สะเทือนไปยังความสัมพันธ์ของพวกเขา
ความโดดเด่นของ The Boys in the Band ในเวอร์ชั่นรีเมคขึ้นสตรีมมิ่ง Netflix คือการที่หนังประกาศอย่างชัดเจนว่า นักแสดงในหนังเวอร์ชั่นนี้เป็นเกย์ทั้งหมดและประสบความสำเร็จในฐานะนักแสดงอย่างเปิดเผย ดังนั้นผลงานภาพยนตร์เวอร์ชั่นนี้จึงเปรียบเสมือนงานเฉลิมฉลองเพศสภาพของ LGBT ในยุคปัจจุบันที่ไม่มีความจำเป็นต้องปิดบังตัวเองและหลบซ่อนอยู่ท่ามกลางมุมมืดของสังคมอีกต่อไป ซึ่งเป็นภาพตรงกันข้ามกับบรรดาตัวละครในเรื่องที่ต้องหลบซ่อนและอำพรางตัวเองในคราบของ “ผู้ชาย” ภายใต้เสื้อผ้าอาภรณ์ วิถีชีวิตที่ต้องแต่งงานมีภรรยาเพื่อใช้ชีวิตคู่เพื่อปิดบังตัวเองจากสังคม
ด้วยเหตุผลที่ว่า The Boys in the Band ถูกดัดแปลงมาจากละครประเภท off-Broadway (บทละครพูดอย่างเดียวไม่มีบทเพลงร้อง) ดังนั้นสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในเรื่องจึงมีฉากหลังเกิดขึ้นแค่เพียงในห้องพักของไมเคิล (จิม พาร์สัน) ซึ่งถ้าเป็นคนที่ผ่านการดูละครเวทีประเภทบทละครดั้งเดิมมาแล้วอาจจะไม่ได้รู้สึกอึดอัด เนื่องจากแทบทั้งเรื่องหนังดำเนินเรื่องราวผ่านบทสนทนาของตัวละครภายใต้พื้นที่เดียว (หนังยังอาศัยช่วงต้นเรื่องในการพาผู้ชมไปลัดเลาะตามสถานที่ต่างๆรอบพื้นที่ห้องพักของไมเคิลบ้าง)
เรื่องราวของหนังเริ่มต้นขึ้นจริงๆตอนช่วงเวลาที่ผองเพื่อนเกย์มาร่วมฉลองวันเกิดในกับฮาโรลด์ แต่ไม่นานนักฝนก็เริ่มโปรยปรายลงมาและทำให้ไมเคิลตัดสินใจเสนอเกมโทรศัพท์เผยความในใจของแต่ละคน
ช่วงเวลาเล่นเกมโทรศัพท์ถือเป็นจุดพลิกผันสำคัญของตัวละครแต่ละตัวที่เผยให้เราได้เห็นแง่มุมอันหลากหลายของ “เกย์” ในอเมริกาช่วงปี 1950-1960 ที่ต้องเผชิญกับอุปสรรคทางสังคมที่มองว่าการชอบเพศเดียวกันเป็นเรื่องที่น่ารังเกียจ เป็นตัวตลกของสังคม การเป็นคนผิวสีที่เป็นเกย์และยังเป็นคนฉลาดถือเป็นเรื่องผิดปกติ! เกย์ที่คบหาดูใจกับผู้ชายอีกคน กลับอยากจะไปมีเซ็กซ์กับผู้ชายอื่นโดยที่ปกปิดพฤติกรรมนั้นไว้เพียงเพราะไม่อยากให้คู่รักเป็นกังวล กระทั่งวิธีการแก้ปัญหาคู่รักนอกใจด้วยการเชิญบุคคลที่ 3 มา “มีอะไรกัน” แบบทรีซัม เป็นต้น
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าผลงานการกำกับของโจ แมนเทลโลเรื่องนี้สามารถกำกับนักแสดงให้นำเสนอจิตวิญญาณของ LGBT ออกมาได้อย่างทรงพลังและสมจริง แม้ประเด็นในเรื่องจะไม่ใช่อะไรที่แปลกใหม่ แต่ The Boys in the Band คือหนังที่พาคนดูย้อนอดีตไปพบกับคนรุ่นก่อนหน้าเราว่าพวกเขาต้องเผชิญกับอะไรมาบ้างก่อนที่ เพศสภาพอันหลากหลายในปัจจุบันจะได้มีโอกาสเบ่งบานและได้ใช้ชีวิตในแบบที่มนุษย์คนหนึ่งต้องการจะเป็นแบบในทุกวันนี้