รีวิว BLACKPINK: Light Up the Sky สี่สาวผู้เขย่าวงการดนตรีโลก
สารคดีที่นำเสนอชีวิตหลังแสงสีเสียงของวงเกิร์ลกรุ๊ปอย่าง BLACKPINK ที่วินาทีนี้พวกเธอคือศิลปินเนื้อหอมที่ใครๆก็อยากจะร่วมงานด้วย แต่ความโด่งดังของพวกเธอนั้นต้องแลกมาด้วยอะไรหลายอย่างเช่นกัน
อันที่จริง BLACKPINK: Light Up the Sky อาจจะไม่ใช่สารคดีที่นำเสนออะไรที่แปลกใหม่นัก อันที่จริงมันคือการพาผู้ชมได้ไปสัมผัสตัวตนของสมาชิกในวงแต่ละคนมากขึ้นต่างหากว่าจีซู เจนนี่ โรเซ่และลิซ่านั้น พวกเธอมีวิถีอย่างไรก็ที่จะก้าวเข้ามาเป็นหนึ่งในสมาชิกของวงเคป๊อปที่โด่งดังที่สุดในโลกตอนนี้
ในแง่มุมที่น่าสนใจที่สุดคือสารคดีเลือกจะหยิบช่วงเวลาแห่งความรุ่งโรจน์ในวงการบันเทิง ณ เวลานี้ของ BLACKPINK ตัดสลับกับช่วงเวลาที่พวกเธอยังเป็นศิลปินฝึกหัด รวมถึงแทรกบทสัมภาษณ์ของสมาชิกแต่ละคนในแง่มุมที่มีความรู้สึกส่วนตัว ซึ่งแต่ละคนก็ดูเหมือนจะได้ปลดปล่อยความรู้สึกจริงๆของพวกเธอออกมาจากใจว่ากว่าที่พวกเธอจะมีวันนี้ได้นั้นต้องฝ่าฟันอะไรมาบ้าง
อย่างที่รู้ๆกันดีว่าต่อให้ชีวิตเด็กฝึกหัดของพวกเธอจะโหดแค่ไหน สิ่งที่สารคดีเรื่องนี้หยิบมานำเสนอก็ยังถือว่าเป็นด้านบวกของวงการศิลปินเกาหลีที่เดินมาถูกทางและหยิบจับอะไรก็เหมือนจะ “รุ่ง” ไปซะหมด ด้านที่เปราะบางของสมาชิกแต่ละคนจึงดูไม่ได้หนักหนาสาหัสอะไร (ลองไปหาสารคดีดราม่าวงแตกของวง T-ara ดูแล้วจะพบว่าโลกนี้ช่างโหดร้ายกับศิลปินวงอื่นๆมากมายก่ายกองนัก)
ถ้ามองในแง่มุมที่ผู้กำกับแคโรไลน์ ซอ เลือกจะนำเสนอเรื่องราวการเดินทางของศิลปินอย่าง BLACKPINK ว่าพวกเธอมีเส้นทางอย่างไร กว่าจะมีวันนี้นั้นพวกเธอเหนื่อยกันมากแค่ไหน แต่ด้วยมุมมองในการนำเสนอสารคดีในเชิงบวกทำให้เราอาจจะกล่าวได้ว่าถ้าหากคุณเป็น BLINK อยู่แล้วอาจจะดูสารคดีเรื่องไปอย่างยิ้มไม่หุบ
ที่น่าสนใจคือฟุตเทจที่ถูกหยิบนำมาใช้ในสารคดีชุดนี้ ประเทศไทยของเราได้มีโอกาสอยู่ในเรื่องราวค่อนข้างมากเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นช่วงเวลาที่ลิซ่าได้เดินทางกลับมาเยี่ยมบ้านเกิดที่ไทยและจัดงานแฟนมีตเป็นครั้งแรก รวมไปถึงช่วงเวลาในการเปิดเวิร์ลทัวร์ของวงที่เริ่มต้นที่ประเทศไทยและปิดท้ายทัวร์ในเวอร์ชั่น Encore อีกครั้ง ซึ่งขนาดเราดูผลงานเรื่องนี้ยังอดภูมิใจไปกับลิซ่าไม่ได้เลยว่า เพราะความสามารถและความมุ่งมั่น (ประกอบกับจังหวะชีวิตที่เหมาะสม ถูกที่ถูกเวลา) ทำให้เธอกลายเป็นศิลปินแนวหน้าและโด่งดังในระดับโลก
แม้ว่า 4 สาว BLACKPINK จะยิ่งใหญ่และโด่งดังแค่ไหน แต่ฉากท้ายสุดของเรื่องที่พวกเธอนั่งกินข้าวและมองภาพว่าในอนาคตของตอนอายุ 40 ปีพวกเธอจะกำลังทำอะไรกันอยู่นั้น ก็เป็นโมเมนต์น่ารักๆที่สะท้อนให้คนดูเห็นว่าจริงๆแล้วพวกเธอก็เป็นมนุษย์คนหนึ่งที่มีโอกาสได้โลดแล่นตามความฝันยามอยู่ในแสงไฟ แต่เมื่อมีชีวิตเลนส์แล้วพวกเธอก็เป็นแค่เด็กสาวที่อยากจะมีความสุขกับช่วงเวลาดีๆในชีวิตก็เท่านั้นเอง
อัลบั้มภาพ 8 ภาพ