คริส พีรวัส สลัดคราบหนุ่มวาย สวมบทมือกลองสุดเท่ใน My Rhythm

คริส พีรวัส สลัดคราบหนุ่มวาย สวมบทมือกลองสุดเท่ใน My Rhythm

คริส พีรวัส สลัดคราบหนุ่มวาย สวมบทมือกลองสุดเท่ใน My Rhythm
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

หลังจากที่หนุ่มคริส พีรวัส แสงโพธิรัตน์ แจ้งเกิดแบบโด่งดังเป็นที่รู้จักของคนในวงกว้างผ่านซีรีส์วายเรื่องดังอย่าง SOTUS The Series พี่ว้ากตัวร้ายกับนายปีหนึ่ง คู่กับ สิงโต ปราชญา เรืองโรจน์ แต่ผลงานของเขามักอยู่แต่ในซีรีส์และละครขนาดสั้น My Rhythm จึงถือเป็นผลงานภาพยนตร์เรื่องแรกของเขาที่จะทำให้ผู้ชมได้เห็นพัฒนาการอีกด้านของคริส

h

เพราะทุกชีวิตล้วนแต่มีฝัน

โก้ (คริส พีรวัส แสงโพธิรัตน์) มือกลองสุดเทพ อีโก้สูงทะลุเพดาน เขาฝันว่าสักวันจะดังแบบวง Bodyslam โดยมี ชัช Bodyslam เป็นเหมือนไอดอลของเขา แต่โก้ดันเป็นโรคประหลาดโรคหนึ่งคือ โก้จะหลับได้ทุกที่ อยู่ ๆ ก็วูบหลับแบบไม่รู้ตัว มันเลยเป็นอุปสรรคกับสิ่งที่โก้ฝันไว้ แต่แล้ววันหนึ่งโก้ก็พบกับส้ม (ฝ้าย บุญสิตา อินทาปัจ) สาวแบ๊วสดใส ช่างจินตนาการ เพื่อนเก่าสมัยมัธยม ส้มทาให้โก้อยากฟอร์มวงดนตรี โก้เลยเข้าไปอยู่วงเดียวกับ ยอด มือกีต้าร์สุดเนิร์ด จอมป่วน และตุ๋ย มือเบสที่เงียบเป็นเป่าสาก ไม่พูดไม่จา แถมได้รุ่นพี่เด็กซิ่วจอมโหด เรียนยังไงก็ไม่จบสักทีอย่าง โฉด มาเป็นนักร้อง เรื่องราวหลับ ฝัน มันส์ ตื่น สุดป่วน จึงเริ่มขึ้น โก้จะไปถึงฝันที่เขาฝันไว้ไหม แล้วคนอื่น ๆ ล่ะ จะไปถึงฝันของตัวเองไหม

 

ผู้กำกับหน้าใหม่ที่สั่งสมผลงานมานับไม่ถ้วน

My Rhythm เป็นผลงานการกำกับของรพี พิเชียรภาคย์ โดยก่อนหน้านี้รพีทำงานด้านการกำกับโฆษณา รวมถึงมิวสิควิดีโอมากมายรวมถึงงานด้านกราฟิกดีไซเนอร์และงานด้านโมชั่นกราฟฟิก จนวันหนึ่งทาง อาจารย์ ณัฎฐ์ เดชะปัญญา อาจารย์จากมหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา มีโปรเจ็คหนึ่งขึ้นมา คือ การเปิดค่ายหนังขึ้นมาในรั้วมหาลัย โดยจะใช้ทีมงานผลิตที่ผสมกันระหว่างนักศึกษาในมหาวิทยาลัยกับทีมงานมืออาชีพที่มีประสบการณ์ เรียกว่าเป็นการแชร์การทำงานร่วมกัน

รพีจึงได้รับเชิญให้มากำกับภาพยนตร์เรื่องนี้ ซึ่งตอนได้คุยกันครั้งแรกและได้ฟังไอเดียในการทำงานว่าผลงานเรื่องนี้จะเป็นการทำงานร่วมกันระหว่างนักศึกษาและคนทำงานมืออาชีพ เมื่อฟังแล้วรู้สึกว่านี้คือความน่าสนใจในการลงมือทำ โดยเลือกคนที่มีความสามารถในฝ่ายงานนั้นๆมาเป็นหัวหน้าทีมของฝ่ายนั้นๆ และมีลูกทีมเป็นนักศึกษา ยกตัวอย่างเช่น ตำแหน่งผู้กำกับ จะเป็นคนที่เป็นมืออาชีพมีประสบการณ์การทำงาน ส่วนตำแหน่งผู้ช่วยผู้กำกับ 2 ก็จะเป็นนักศึกษา เป็นต้น

ด้านบทภาพยนตร์ หลังจากประชุมกันอาจารย์ ณัฎฐ์ เดชะปัญญา ต้องการให้ทำหนังเกี่ยวกับครูและลูกศิษย์ ตอนประชุมกันก็มีการพูดคุยว่าแล้วจะเล่าประเด็นอะไรดี ก็สรุปกันว่าจะเล่าในประเด็นค่านิยมเรื่องสถานศึกษา ที่ใคร ๆ ก็อยากจะไปเรียนในมหาวิทยาลัยดัง ๆ กัน เพราะคิดว่านั่นจะเป็นหนทางสู่ความสำเร็จได้ แต่ผมคิดว่าในความจริงแล้วมันไม่ใช่อย่างนั้นเสมอไป ที่เรียนดัง ๆ มีชื่อเสียง ไม่ได้การันตี 100 % ว่าเมื่อเรียนจบไป ทุกคนจะไปประสบความสำเร็จในสายอาชีพที่ตนเอง แต่เมื่อผ่านการประชุมอย่างเข้มข้นก็พบว่าประเด็นนี้น่าจะเข้มข้นมากจนเกินไปและดูซีเรียสจริงจัง เนื่องจากกลุ่มเป้าหมายของภาพยนตร์เรื่องนี้จะเป็นกลุ่มวัยรุ่นวัยมัธยม กลุ่มเด็กมหาวิทยาลัย จนถึงคนที่เพิ่งเริ่มทำงานใหม่ๆจึงคิดว่าต้องหาอะไรบางอย่างเพื่อให้กลุ่มเป้าหมายได้มีโอกาสมาสัมผัสและเข้าถึงง่ายมากขึ้นมาใช้ในการเล่าเรื่อง โดยหนึ่งในนั้นคือเรื่องของดนตรี จนได้บทสรุปออกมาว่า My Rhythm จะเป็นหนังเกี่ยวกับวงดนตรีแทรกสอดอารมณ์ขันและเติมสาระเกี่ยวกับค่านิยมของสถานศึกษาเข้าไป

 

พระเอกชื่อโก้  แถมอีโก้สูง!

ตัวเอกใน My Rhythm ชื่อว่าโก้ เขาเป็นมือกลองฝีมือระดับเทพ หาตัวจับยากแต่ในขณะเดียวกันเขาก็อีโก้สูงลิบ ด้วยความเก่งของเขานี่เองทำให้เขาคิดว่าตัวเองจะสอบเข้าไปเรียนในมหาวิทยาลัยดัง ๆ ที่มีชื่อเสียงในด้านดนตรีได้ แต่โชคชะตาเล่นตลก เพราะตัวเขาดันมีโรคประจำตัวโรคหนึ่ง คือ โรคลมหลับ อาการคือเขาจะหลับได้ทุกที่ ไม่เลือกเวลาและสถานที่ อยู่ ๆ ก็วูบหลับได้โดยไม่รู้ตัว แล้วในวันสอบปฏิบัติ อยู่ ๆ เขาก็วูบหลับไประหว่างที่กำลังจะโชว์ฝีมือการตีกลองของเขาให้กรรมการดู ส่งผลให้โก้สอบตกปฏิบัติ เลยต้องมาเรียนในมหาวิทยาลัยที่เขาไม่เคยคิดจะมาเรียนเลย และด้วยความอคติต่อที่ ๆ ตัวเองต้องมาเรียน บวกความมีอีโก้สูง จึงเกิดเรื่องราวต่าง ๆ ในรั้วมหาวิทยาลัยแห่งนี้ขึ้นมา

ตอนแคสติ้งบทโก้ เป็นตัวละครที่แคสยาก เพราะตัวละครนี้ จะต้องประกอบไปด้วย 3 อย่าง คือ 1.ต้องตีกลองเก่ง 2.การแสดงต้องดี 3.หน้าตาต้องน่ามอง ซึ่งตอนแคสติ้งนั้น หาคนที่ครบองค์ประกอบทั้ง 3 อย่างนี้ค่อนข้างยาก คือ บางคนก็ตีกลองเก่ง แต่การแสดงไม่ดีบ้าง บางคนหน้าตาดี การแสดงดี แต่ตีกลองไม่เป็นบ้าง จะให้ไปเรียนตีกลองก็ไม่น่าจะไหว เพราะในภาพยนตร์นั้น โก้จะต้องตีกลองแบบระดับเก่งมาก และผมไม่อยากใช้วิธีใช้แสตนด์อินมาตีกลองแทน มันดูไม่จริง จนสุดท้ายก็โชคดีได้ คริส พรีวัส มาแคสติ้ง ซึ่งตอนผมดูคลิปที่ฝ่ายแคสติ้งส่งมา ก็รู้สึกว่าใช่เลย มีทุกอย่างครบทั้ง 3 องค์ประกอบที่ต้องการ ตีกลองเก่ง การแสดงพอได้ ถ้าให้ Workshop การแสดงเพิ่มเติม น่าจะใช่ และหน้าตาดีด้วย ด้วยเหตุนี้บทโก้ในภาพยนตร์เรื่องนี้ จึงเหมาะมากกับคริส และทำให้เขาได้รับบทบาทนี้ไปในที่สุด

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook