"โอ้เอ๋ว" ของดีเมืองภูเก็ต ที่เจ็บเพราะความรักวนอยู่รอบตัว "แปลรักฉันด้วยใจเธอ"
ตัวละครที่มาพร้อมชื่อสุดเก๋ที่ฟังครั้งแรกก็ต้องสะดุดหู “โอ้เอ๋ว” ซึ่งเป็นขนมหวานขึ้นชื่อชนิดหนึ่งของเมืองภูเก็ต ตัวละครนี้รับบทโดย พีพี-กฤษฏ์ อำนวยเดชกร ที่ส่งหูตาหวานหยดย้อยใส่คนดูตลอดทั้งเรื่อง
จะว่าไปแล้วแปลรักฉันด้วยใจเธอ เลือกให้ตัวละครนี้มีจุดเริ่มต้นจากการที่เขาเป็นเด็กที่เรียนเก่งประมาณกลางๆ ส่วนความรู้เรื่องภาษาจีนดูจะไม่ค่อยเอาไหนซักเท่าไหร่ อันที่จริงโอ้เอ๋วเคยถูกตั้งคำถามจากเต๋ด้วยซ้ำไปว่าเขา “ชอบ” อะไรเป็นพิเศษไหม แต่โอ้เอ๋วก็บอกว่าไม่ได้ชอบอะไรเท่าไหร่ เรียนไปเรื่อยๆเดี๋ยวก็คงเจอสิ่งที่ตัวเองชอบเข้าสักวันหนึ่ง
กระทั่งวันที่เขาได้รับเลือกให้แสดงละครภาษาจีนเรื่องกระบี่เย้ยจันทราจนกลายเป็นชนวนที่ทำให้เขาเกิดความบาดหมางกับเต๋ จนมองหน้ากันไม่ติด ตั้งแต่นั้นมาโอ้เอ๋วก็เหมือนจะตั้งธงในชีวิตว่าเขาน่าจะสามารถเอาดีทางด้านการแสดงและสอบเข้ามหาวิทยาลัยในคณะนิเทศศาสตร์ให้ได้
เมื่อมองย้อนไปถึงพื้นฐานของครอบครัวโอ้เอ๋วที่มีธุรกิจรีสอร์ทอยู่ในเกาะภูเก็ตก็สะท้อนให้เห็นแล้วว่าฐานะทางบ้านของเขาจัดได้ว่าร่ำรวยและสามารถใช้ชีวิตเก๋ๆได้ตามประสาวัยรุ่นที่บ้านมีอันจะกินโดยไม่จำเป็นจะต้องดิ้นรนให้เหนื่อยยากตรากตรำนัก และแน่นอนว่าเมื่อโอ้เอ๋วปราศจากแรงกดดันให้ต้องกัดฟันต่อสู้ เขาจึงมองหาสิ่งที่ตัวเองต้องเดินไปให้ถึงไม่ได้ เพราะต่อให้เขาสอบไม่ติดมหาวิทยาลัยหรือคิดจะไม่เรียนต่อ เขาก็มีธุรกิจที่บ้านไว้สานต่อดูแลโดยไม่ต้องไปเริ่มต้นนับหนึ่งใหม่ให้เหนื่อยยาก
ด้วยคำสบประมาทจากเพื่อนสนิทอย่างเต๋ ที่ผันให้โอ้เอ๋วผู้ไม่เคยมีไฟในการดิ้นรนต่อสู้ ต้องพยายามมากขึ้น “ที่กูพยายามอัพคอนเทนท์ใน IG ก็เพราะกูอยากให้มึงเห็นว่ากูไม่ได้ล้มเลิกความตั้งใจ” นี่คือสิ่งที่โอ้เอ๋วพยายามบอกเต๋มาโดยตลอดแม้ว่าพวกเขาจะห่างเหินกันไปไกล แต่โอ้เอ๋วก็พยายามที่จะเดินไปหาเป้าหมายที่เขาไม่เคยมีมาก่อน
การที่เต๋เดินกลับเข้ามานชีวิตของโอ้เอ๋ว ในช่วงแรกพวกเขาอาจจะรู้สึกเป็นเหมือนเพื่อนสนิท แต่ลึกๆแล้วโอ้เอ๋วกลับรู้สึกมากกว่านั้นและเขาก็รู้ดีว่าอีกฝ่ายอย่างเต๋เองก็รู้สึกไม่ต่างอะไรจากเขา เพียงแต่โอ้เอ๋วพยายามแสดงออกอย่างโจ่งแจ้ง เปิดเผยโดยไม่กลัวด้วยซ้ำว่าเพื่อนจะมองเขาอย่างไร หรือสังคมภายนอกจะมีทัศนคติเชิงลบหรือไม่ โอ้เอ๋วจึงเป็นคนซื่อตรงกับความรู้สึกของตัวเองและคาดหวังที่จะให้คนที่เขารักแสดงความรู้สึกตอบกลับมาเช่นกัน
ทว่าทุกอย่างไม่ได้ง่ายอย่างนั้นเมื่อเต๋เป็นคนประเภทที่ไม่ค่อยพูด แต่เลือกจะแสดงออกผ่านการกระทำ และความกำกวมที่ตัวเต๋เองก็บอกว่าเขากำลังจะคบหากับตาล เพื่อนหญิงคนสนิทยิ่งทำให้โอ้เอ๋วเองไม่มั่นใจด้วยซ้ำว่าตกลงแล้วเต๋เองรู้สึกยังไงกับเขากันแน่ มากกว่าเพื่อนแต่ไม่ใช่แฟน หรือแค่จิตใจว้าวุ่นและหาคำตอบไม่ได้
ในขณะเดียวกันบาสที่โอ้เอ๋วเองก็รู้สึกชอบ แต่เมื่อได้อยู่ด้วยนานๆเขากลับไม่สปาร์ค หรือโหยหาอยากได้มาครอบครอง ยิ่งกลับกลายเป็นว่าตัวของโอ้เอ๋วเองก็มีความไม่แน่ใจกับคนที่รักเขาเช่นกัน พูดง่ายๆ ตัวโอ้เอ๋วเองก็กำลังทำให้บาสเจ็บ แบบเดียวกันกับที่เต๋ทำให้โอ้เอ๋วเจ็บ เพียงแต่ปัญหาของโอ้เอ๋วนั้นเกิดขึ้นเพราะคนที่เขารักจริงๆไม่ยอมยืนยันสถานะให้ชัดเจนนั่นเอง
เมื่อมองย้อนกลับไปที่สภาพครอบครัวของโอ้เอ๋วแล้วตรวจตรามองดีๆ เราจะพบว่าโอ้เอ๋วเติบโตมาในครอบครัวที่พ่อแม่พร้อมจะมอบความรักให้อย่างเต็มเปี่ยม พวกเขาเข้าอกเข้าใจลูกในขนาดที่วันที่โอ้เอ๋วมานั่งร้องไห้และตั้งคำถามกับบุพการีของพวกเขาว่า “ภูมิใจในตัวลูกคนนี้ไหม” แล้วสามคนพ่อแม่ลูกก็นั่งร้องไห้กอดกันให้กำลังใจ เรายิ่งได้ข้อสรุปชัดเจนว่า โอ้เอ๋วนั้นเป็นคนที่เติบโตขึ้นมาพร้อมกับความอบอุ่นจากครอบครัวอย่างเต็มเปี่ยม สิ่งที่เขายังโหยหาอยู่ก็คือความรักที่ชัดเจนจากคนที่เขารักก็เท่านั้น
แต่เมื่อชีวิตไม่มีอะไรได้มาง่ายๆ คนที่เพียบพร้อมทั้งสถานะทางการเงิน หน้าตา ครอบครัว อย่างโอ้เอ๋วจึงถูกบททดสอบที่เรียกว่า ความรัก เข้ามาทำให้ชีวิตของเขาต้องสะดุดและเรียนรู้ว่ากว่าจะได้มาซึ่งความรักที่เขาต้องการนั้นมันไม่ได้ง่ายแบบที่เขาเติบโตขึ้นมาและได้รับมาตลอดชีวิต
หลายครั้งที่เราได้เห็นตัวละครอย่างโอ้เอ๋วต้องผิดหวังเสียใจร้องไห้ คร่ำครวญ แต่เมื่อตัวละครนี้เดินมาถึงในตอนที่ 5 เมื่อเขารู้ว่าเต๋ตัดสินใจสละสิทธิ์รอบสอบตรงเพื่อจะให้โอ้เอ๋วได้สิทธินี้แทน แม้เขาจะรู้เต็มอกว่านี่คือความหวังดี แต่ในอีกมุมเขาก็รู้สึกว่านี่เป็นการดูถูกความสามารถของโอ้เอ๋วทางอ้อม โอ้เอ๋วจึงตัดสินใจไม่รับสิทธินั้นและพยายามสอบแอดมิดชั่นอย่างสุดความสามารถ
ท้ายที่สุดแล้วตัวละครอย่างโอ้เอ๋วอาจจะได้รับความรักจากเต๋มาก็จริง แต่ในขณะเดียวกันโอ้เอ๋วก็เป็นตัวละครหนึ่งที่ได้เรียนรู้ว่าต่อให้เขาเติบโตมาเพียบพร้อมแค่ไหน จะมีเรื่องที่เขาจะต้องพยายามและมุ่งมั่นเพื่อให้ได้มันมารออยู่เสมอ
อัลบั้มภาพ 20 ภาพ