การกลับมาของฮีโร่หญิงสุดปัง Wonder Woman 1984
ท่ามกลางปีแห่งวิกฤติไวรัสระบาด ปีที่หนังฟอร์มยักษ์ต่างหลีกทางเพราะหลังจากที่หนังฟอร์มยักษ์อย่าง Tenet ของคริสโตเฟอร์ โนแลน หรือกระทั่ง Mulan ก็ซบเซาและทำเงินไม่เข้าเป้า ทำให้การตัดสินใจของสตูดิโออย่างวอร์เนอร์จัดฉาย Wonder Woman 1984 ถือเป็นเดิมพันครั้งสำคัญอีกครั้งประจำปีนี้
การผจญภัยครั้งใหม่ของไดอานา ปรินซ์
การกลับมากำกับอีกครั้งของผู้กำกับหญิงอย่างแพตตี้ เจนกินส์ และยังได้นักแสดงนำหญิงอย่างกัล กาด็อต กลับมารับบทบาทเดิมคือวันเดอร์วูแมน ท่ามกลางฉากหลังในอนาคตยุคปี 1980
ชะตากรรมของโลกกลับมาแขวนอยู่บนเส้นด้ายอีกครั้ง และวันเดอร์วูแมนคือความหวังเดียวของโลกใบนี้ ไดอาน่า ปริ๊นซ์ต้องปรับตัวให้ชีวิตอยู่เรียบง่ายและกลมกลืนไปกับผู้คนในยุค 1980 ยุคสมัยที่เต็มไปด้วยสีสันอันแสนฉูดฉาดบาดตาของเสื้อผ้าหน้าผม ยุคสมัยแห่งการไขว่คว้าเพื่อให้ได้มาซึ่งทรัพย์สินเงินทอง
แม้ว่าไดอาน่าจะมีพลังพิเศษอย่างเต็มเปี่ยมแต่เธอก็เลือกที่จะเก็บตัวเงียบ ทำหน้าที่ในการคอยดูแลวัตถุโบราณ รวมไปถึงเก็บซ่อนความเป็นซูเปอร์ฮีโร่เอาไว้ข้างใน แต่เมื่อไดอาน่าต้องก้าวเป็นจุดสนใจเธอจึงต้องอาศัยไหวพริบและความฉลาด ความแข็งแกร่ง รวบรวมความกล้าทั้งหมดที่เธอมีเพื่อปกป้องมนุษย์จากโลกที่พวกเขาสร้างขึ้นมา
ยุคสมัยที่แตกต่าง
เมื่อฉากหลังอยู่ในช่วงปี 1984 คือปีที่สหรัฐอเมริกากำลังมีอำนาจเฟื่องฟู เต็มเปี่ยมไปด้วยความภาคภูมิใจ พลเมืองจะได้มองเห็นมุมที่ดีและแย่ในตัวเองอย่างแจ่มชัด การค้าขาย ศิลปะ ความมั่งคั่ง เทคโนโลยีคือความโดดเด่นในยุคสมัยนี้ ท่ามกลางการตะกายฝันและการไขว่คว้าของผู้คน รวมไปถึงความอยากได้อยากมียิ่งเป็นตัวเร่งปฏิกิริยาทำให้ผู้คนต่างตะเกียกตะกายกันมากกว่าเดิม
บรรยากาศโดยรวมในหนังภาคนี้จึงมีความแตกต่างกับหนังภาคแรกอย่างสิ้นเชิง ซึ่งเหตุการณ์ในหนังภาคแรกนั้นคือยุคสงครามโลกครั้งที่ 1 นี่คือเวลานับทศวรรษที่จะท้าทายความเมตตา ความถูกต้อง ความยุติธรรม และการลดความเห็นแก่ตัวที่อยู่ในตัวเธออีกครั้ง พร้อมกับความรักที่เธอมีให้มวลมนุษย์อย่างไม่เสื่อมคลาย ไดอาน่าจึงต้องเผชิญหน้ากับความแปลกใหม่อยู่เสมอหลังจากที่เธอตัดสินใจทิ้งสรวงสวรรค์อันเป็นบ้านเกิดของเธอเมื่อ 66 ปีที่แล้ว เพื่อปกป้องโลกจากการทำลายล้าง และนี่คือการปกป้องโลกอีกครั้งของซูเปอร์ฮีโร่อย่างวันเดอร์วูแมน
แพทตี้ เจนกินส์ผู้กำกับหญิงมากความสามารถ
แพตตี้ เจนกินส์ กลับมารับหน้าที่ในการเป็นทั้งผู้กำกับ ผู้ร่วมเขียนบท และยังนั่งแท่นผู้อำนวยการสร้าง เธอตั้งใจจะทำให้หนังภาคนี้เป็นภาคต่อที่เต็มไปด้วยฉากแอ็คชั่นสุดอลังการ และตัวละครมีเดิมพันที่มากขึ้น เพราะเหตุการณ์ในหนังภาคแรกไดอาน่าได้พบกับบรรยากาศของโลกเป็นครั้งแรก ส่วนครั้งนี้เธอคุ้นเคยกับความเป็นมนุษย์สูงมาก ทั้งความสำเร็จ ความแม่นยำ การเข้าถึงที่มากเกินไป
เสน่ห์ของหนังภาคแรกคือการที่ผู้ชมทั่วไปและแฟนพันธุ์แท้จะสนุกสนานกับเรื่องราวของฮีโร่หญิงคนนี้ได้แม้จะไม่ได้รู้จักกับเมาก่อน นั่นเพราะว่าหัวใจหลักของเรื่องนั้นได้พาคนดูไปรู้จักกับตัวตนของวันเดอร์วูแมน แต่ในภาคต่อนี้ผู้ชมจะได้รู้จักเธอมากขึ้นทั้งในแง่ของการมองโลกในแง่ดี การคิดบวก ความกล้าหาญ การเปลี่ยนแปลงตัวเองในมุมที่ดีขึ้น ดังนั้นตัวละครนี้คือตัวอย่างในมุมที่ซูเปอร์ฮีโร่ที่จะให้แนวทางกับคนดูว่า เราจะสามารถเป็นคนที่ดีขึ้นได้อย่างไร และเราจะสร้างโลกใบนี้ให้ดีขึ้นได้อย่างไรนั่นเอง
กัล กาด็อตกับการเปลี่ยนครั้งใหม่
การกลับอีกครั้งของกัล กาด็อต ในบทบาทตัวละครไดอาน่า ปรินซ์ และ วันเดอร์วูแมน เธอยังนั่งแท่นเป็นโปรดิวเซอร์อีกด้วย และพัฒนาการของตัวละครจากคนที่ไม่ประสีประสากับความเป็นมนุษย์ใน Wonder Woman ภาคแรก ในภาคนี้เธอเติบโตขึ้นและคุ้นชินกับความเป็นมนุษย์มากยิ่งขึ้น เพราะเธอผ่านกาลเวลาที่ยาวนานมากพอที่จะเรียนรู้ความเป็นมนุษย์มากยิ่งขึ้น เธอเรียนรู้ถึงความต้องการภายในจิตใจ อยากได้อยากมีในสิ่งที่เธอไม่เคยมีและทำทุกอย่างเพื่อให้ได้มาและเมื่อได้มันมาแล้วเธอก็พร้อมที่จะรักษาสิ่งนั้นไว้ยิ่งชีพ
ไอเดียหลักของหนังภาคนี้ เธอได้มันมาจากการพูดคุยของเธอและผู้กำกับแพตตี้ เจนกินส์ระหว่างที่สร้างหนังภาคแรกอยู่ ซึ่ง ณ เวลานั้นหนังยังไม่ได้ออกฉายเลยด้วยซ้ำ ไม่รู้ว่าผลตอบรับจากผู้ชมจะเป็นอย่างไร แต่หญิงสาวทั้งสองคนก็วาดความฝันเอาไว้ว่าถ้า Wonder Woman มีภาคต่อจะต้องบอกเล่าเรื่องราวที่เกี่ยวกับชีวิตตัวละครนี้ในแง่มุมที่ต่างออกไป
นอกจากนี้ผู้สร้างอย่างชาร์ลส โรเวน ที่ทำการสำรวจธีมต่างๆที่เกี่ยวข้องกับจักรวาลฮีโร่ของดีซีมาอย่างละเอียดต้องการจะนำพาตัวละครวันเดอร์วูแมนให้ไปโลดแล่นอยู่ช่วงยุคสมัยปี 1980 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่น่าสนใจ มีความคลาสสิคตลอดกาล เปี่ยมไปด้วยมนต์เสน่ห์ในเรื่องของบรรยากาศแวดล้อมรอบตัว ด้วยกาลเวลาที่ผ่านไปนานหลายทศวรรษทำให้ไดอาน่าพบเจอกับหลายสิ่งที่เธอไม่เคยได้พบพานในสมัยที่ยังอยู่ในอาณาจักรอเมซอน แต่สิ่งที่เธอได้เรียนรู้รสชาติความเป็นมนุษย์ก็คือการสูญเสียคนที่เธอรักไปนั่นเอง
อัลบั้มภาพ 53 ภาพ