รีวิว Wonder Woman 1984 : หนังฮีโร่ยืนหนึ่งในปี 2020

รีวิว Wonder Woman 1984 : หนังฮีโร่ยืนหนึ่งในปี 2020

รีวิว Wonder Woman 1984 : หนังฮีโร่ยืนหนึ่งในปี 2020
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

หลังปล่อยให้แฟนๆ ตั้งตารอคอยกันมานานร่วม 3 ปี แถมยังต้องเลื่อนคิวฉายออกไปอย่างไม่มีกำหนด จากวิกฤติการระบาดของไวรัสโควิด-19 แต่ในที่สุด Wonder Woman ซูเปอร์ฮีโร่สาวหนึ่งเดียว จากค่าย DC Comics ก็กลับมาสานต่อความสำเร็จจากภาคแรก ใน “Wonder Woman 1984” ซึ่งก็ถือเป็นหนังฮีโร่ฟอร์มยักษ์เรื่องเดียว ที่ได้ลงโรงฉายกันในปี 2020 นี้ด้วย

Wonder Woman 1984Wonder Woman 1984

การกลับมาของ Wonder Woman ครั้งนี้ ยังคงได้ “กัล กาโดท” นักแสดงสาวสวยสุดแกร่งชาวอิสราเอล กลับมารับบท “ไดอานา พรินซ์” รวมทั้งพระเอกหนุ่ม “คริส ไพน์” ในบท “สตีฟ เทรเวอร์” ที่แม้จะสละชีพแบบสุดซึ้งไปในภาคแรก แต่ก็ยังกลับมาเคียงข้างแฟนสาวในภาคนี้เช่นเดิม สมทบด้วยสองตัวร้ายใหม่อย่าง “ชีตาห์” หรือ “บาร์บารา มิเนอร์วา” วายร้ายสุดเซ็กซี่ ที่รับบทโดย “คริสเทน วิก”  และ “เปโดร ปาสคาล” ในบท “แม็กซ์ ลอร์ด” ผ่านฝีมือการกำกับของผู้กำกับสาวฝีมือเยี่ยมเจ้าเก่า “แพ็ตตี้ เจนกินส์” ที่ทำผลงานเอาไว้ได้ดีมากๆในภาคแรก กวาดทั้งรายได้และเสียงชื่นชมจากผู้ชมทั่วโลก

Wonder Woman 1984 เป็นเรื่องราวในสหรัฐอเมริกาช่วงยุค 80 ซึ่งก็เป็นเวลา 60 กว่าปีหลังจากเหตุการณ์สงครามโลกครั้งที่ 1 ในภาคแรก ที่ ไดอานา หรือ วันเดอร์วูแมน ได้ยุติสงครามร่วมกับมวลมนุษยชาติ แต่ก็ต้องแลกด้วยชีวิตของ สตีฟ แฟนหนุ่มนักบินที่ตัดสินใจพลีชีพในสงครามดังกล่าว ทิ้งบาดแผลในใจฮีโร่สาว ที่ไม่ว่าจะผ่านไปนานกี่ปี เธอก็ยังคงโดดเดี่ยว และโหยหาชายผู้เป็นที่รักคนนี้อยู่เสมอ

ไดอานา ในภาคนี้ ไม่ใช่สาวชาวแอมะซอน ผู้ไร้เดียงสาที่เพิ่งทำความรู้จักกับโลกใบใหม่อีกต่อไป หากแต่เป็นนักโบราณคดีสาวสุดเพอร์เฟกต์ ที่ซ่อนพลังมหัศจรรย์ไว้เบื้องหลัง ก่อนที่เธอจะได้รู้จักกับ บาร์บารา มิเนอร์วา เพื่อนร่วมงานสุดเปิ่น ผู้ถูกมองข้ามอยู่เสมอในสายตาคนรอบข้าง ซึ่งนำพาทั้งคู่ไปค้นพบพลังปริศนาที่เปลี่ยนชีวิตทั้งสองสาว พลิกผันจากหน้ามือเป็นหลังมือ ซึ่งพลังที่ว่านี้ ก็ยังไปพัวพันกับการกลับมาของ สตีฟ ที่ทำให้ไดอานาต้องตัดสินใจครั้งที่ยากที่สุดในชีวิต รวมไปถึงการก้าวสู่อำนาจ อันไร้ขีดจำกัดของ “แม็กซ์ ลอร์ด” นักธุรกิจสุดทะเยอทะยาน ที่พร้อมจะนำพาหายนะมาสู่โลกทั้งใบ

Wonder Woman 1984Wonder Woman 1984

สิ่งที่โดดเด่นที่สุดของ Wonder Woman 1984 เห็นจะเป็นส่วนของดราม่า ที่ผู้กำกับเลือกถ่ายทอดผ่านตัวละคร ไดอานา ผู้ซึ่งผ่านการสูญเสีย เติบโต และต้องเผชิญบทพิสูจน์ครั้งสำคัญในชีวิตอีกครั้ง บทหนังให้ความสำคัญกับการบอกเล่าเรื่องราว ความสัมพันธ์ของแต่ละตัวละคร ทั้งฮีโร่และวายร้าย ค่อยๆปูทางไปสู่งบทสรุปในตอนท้าย ที่อาจจะเรียกน้ำตาใครต่อใครได้หลายคน

แต่ถ้าหากแฟนๆ คาดหวังจะได้เห็นฉากแอ็กชันสุดอลังการ ตื่นตาตื่นใจ แบบจัดหนักจัดเต็มแล้วละก็ อาจจะต้องผิดหวังกันเล็กน้อย เพราะฉากแอ็กชันของ Wonder Woman 1984 แม้จะทำออกมาได้ตระการตาตามมาตรฐาน แต่ก็แสนจะจำกัดจำเขี่ย และไม่จุใจเท่ากับที่เคยฝากไว้ในหนังเรื่องก่อนๆ อย่าง Wonder Woman ภาคแรก Justice League รวมทั้ง  Batman v Superman: Dawn of Justice

งานภาพ และสเปเชียลเทคนิคต่างๆ ยังคงทำออกมาได้สวยงามเนียนตา แต่ก็ไม่ได้เรียกเสียงฮือฮาอะไรนัก เรียกได้ว่าอยู่ในระดับน่าพอใจตามมาตรฐาน อาจจะด้วยเหตุผลที่ว่า ตัวหนังให้ความสำคัญกับเรื่องราวดรามามากกว่าส่วนอื่นๆ ดังที่ได้กล่าวไปแล้วนั่นเอง

สำหรับผู้เขียนแล้ว แม้จะรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย และคิดว่าหนังจะพาเราไปได้สุดกว่านี้ แต่โดยรวมก็ต้องยอมรับว่า Wonder Woman เป็นหนังฮีโร่อีกเรื่องที่ทำออกมาได้ดี เหมาะกับผู้ชมทุกเพศทุกวัย ที่รอคอยการชมภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์บนจอใหญ่ในโรงภาพยนตร์ ทีห่างหายไปนานร่วมปี แต่หากถามว่า ในฐานะแฟนบอยที่รอคอยการกลับมาของไดอานาตลอดสามปีเต็มๆนั้น Wonder Woman 1984 ก็ยังไม่เต็มอิ่มเท่าที่คาดหวังไว้จริงๆ

 

พนัสบดี ประเสริฐพลกรัง

Wonder Woman 1984Wonder Woman 1984

Wonder Woman 1984Wonder Woman 1984

อัลบั้มภาพ 53 ภาพ

อัลบั้มภาพ 53 ภาพ ของ รีวิว Wonder Woman 1984 : หนังฮีโร่ยืนหนึ่งในปี 2020

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook