สำรวจชีวิตผ่านแอนิเมชั่นพิกซาร์เรื่องใหม่ Soul

สำรวจชีวิตผ่านแอนิเมชั่นพิกซาร์เรื่องใหม่ Soul

สำรวจชีวิตผ่านแอนิเมชั่นพิกซาร์เรื่องใหม่ Soul
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

โจ การ์ดเนอร์ (พากย์เสียงโดยเจมี่ ฟ็อกซ์) ครูผู้ควบคุมวงดนตรีระดับชั้นมัธยม ผู้หลงรักแจ๊สแบบเข้าเส้น เขาจึงมีความฝันที่จะเป็นนักเปียโนแจ๊สมืออาชีพ แต่ความผิดพลาดเล็กๆ เพียงข้อเดียวก็นำพาเขาจากท้องถนนในนิวยอร์ก ซิตี้ไปสู่นครก่อนเกิด สถานที่สุดวิเศษ ที่ซึ่งวิญญาณเกิดใหม่จะได้รับบุคลิก นิสัยแปลกๆ เฉพาะตัวและสิ่งที่พวกเขาสนใจก่อนที่พวกเขาจะไปยังโลกมนุษย์ ด้วยความมุ่งมั่นที่จะกลับไปใช้ชีวิตแบบปกติดังเดิม โจจึงร่วมมือกับวิญญาณจอมแก่แดดอย่าง ทเวนตี้ทู (พากย์เสียงโดยทีน่า เฟย์) ผู้ไม่เคยเข้าใจประสบการณ์อันแสนงดงามของการเป็นมนุษย์ เมื่อโจพยายามทำให้ทเวนตี้ทูมองเห็นข้อดีของการมีชีวิตอยู่ เขาอาจจะพบคำตอบที่สำคัญของการมีชีวิตอยู่ด้วย

 

ย้อนกลับไปที่ไอเดียเริ่มต้น

ผู้กำกับพีท ด็อกเตอร์ได้ไอเดียในการสร้าง Soul มาจากลูกชายของตัวเอง เขาเคยจินตนาการและตั้งคำถามว่าทันทีที่ลูกของเขาเกิดขึ้นมา เขาก็มีบุคลิกเป็นของตัวเองแล้ว แล้วบุคลิกเหล่านี้มันเริ่มต้นมาจากไหน แม้พีทจะเคยคิดว่าบุคลิกของเราทุกคนนั้นจะพัฒนาขึ้นจากปฏิสัมพันธ์ระหว่างคุณกับโลกใบนี้ แต่กลับกลายเป็นว่าเราทุกคนล้วนแล้วแต่เกิดมาด้วยความรู้สึกเฉพาะตัวอย่างสุดพิเศษที่ว่าตัวเราเองเป็นใคร

สำหรับโลกในจินตนาการของ Soul นั้น ทุกคนเกิดมาพร้อมกับดวงวิญญาณทั้งนั้นและดวงวิญญาณก็ไม่ได้ปรากฏตัวขึ้นแบบไม่ได้เตรียมตัว พวกเขาได้รับการฝึกฝนมาและได้รับทั้งบุคลิกและสิ่งที่พวกเขาสนใจ และเมื่อตัวละครอย่างโจ การ์ดเนอร์รู้สึกเหมือนตัวเองไม่ควรที่จะอยู่ในดินแดนของพวกดวงวิญญาณใหม่นี้ ด้วยความตั้งใจที่จะกลับไปสู่ชีวิตเดิมของตัวเองอีกครั้ง เขาได้ร่วมมือกับวิญญาณจอมแก่แดด ทเวนตี้ทู ผู้ไม่เคยเข้าใจถึงมนต์เสน่ห์ของประสบการณ์แบบมนุษย์เลย “บางครั้ง ดวงวิญญาณก็เจอปัญหาเล็กๆ ในการตามหาประกายชีวิตพิเศษที่จะผลักดันพวกเขาไปสู่โลก

ตัวละครที่ปรึกษาของนครก่อนเกิดได้ระดมเหล่าพี่เลี้ยงมาช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้กับดวงวิญญาณเหล่านี้ บรรดาคนพิเศษที่ไม่ธรรมดาในประวัติศาสตร์เช่นอับราฮัม ลินคอล์น และมันก็ได้ผลสำหรับวิญญาณทุกดวงยกเว้น ทเวนตี้ทู ผู้เป็นเหมือนเด็กโตเจ้าอารมณ์นิดๆ ไม่ต้องสงสัยเลยว่า ตัวเธอไม่ได้มีความปรารถนาอยากจะไปโลกเลยซักนิดนั่นเอง

โจจึงได้จับพลัดจับผลูมาเป็นพี่เลี้ยงคนถัดไปของ ทเวนตี้ทู โดยไม่ได้ตั้งใจและเขาก็คิดได้ว่าถ้าเขาช่วยเธอได้ บางที เขาก็อาจจะกลับไปโลกได้ทันเวลางานแสดงครั้งใหญ่ของเขา เขาคิดว่าสิ่งที่เขาต้องทำมีเพียงแค่ช่วยเธอในการตามหาประกายชีวิต สิ่งที่จะทำให้การมีชีวิตอยู่เป็นเรื่องคุ้มค่า โดยโจคิดว่ามันเป็นเรื่องง่ายที่คล้ายกับความรักที่เขามีต่อดนตรีแจ๊ส

 

อะไรคือความหมายของการมีชีวิตอยู่

คริสเตน เลสเตอร์ ผู้ดูแลฝ่ายภาพรวมของเรื่องราวใน Soul ได้ตั้งโจทย์ขึ้นมาว่า อะไรที่ทำให้ชีวิตของเรามีความหมาย สิ่งเหล่านี้เกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์หรือไม่ เกี่ยวกับการมีตัวตนอยู่รึเปล่า คุณสามารถมีบทสนทนาดีๆ กาแฟเลิศรส การทำสิ่งต่างๆ เหล่านั้นพร้อมกันทำให้ชีวิตมีความหมายรึเปล่า เรื่องราวหนังเรื่องนี้จึงไม่ได้เลือกฝั่งใดฝั่งหนึ่งเป็นพิเศษ ทั้งความสัมพันธ์ ครอบครัว มันมีความรู้สึกที่ว่าชีวิตเป็นทั้งหมด

โดยในมุมมองของมือเขียนบทร่วมอย่าง ไมค์ โจนส์ มองว่า ชีวิตหรือตัวเราจะมาจากไหนหรือเราจะมาไกลซักเท่าไหร่ บางครั้ง เราก็จะสงสัยในชีวิตอีกรูปแบบหนึ่ง เราผลักตัวเองไปข้างหน้าเสมอ ในตัวศิลปินจะมีแรงขับเคลื่อนที่จะสร้างบางสิ่งบางอย่างเสมอ ที่จะทำให้พวกเขารู้สึกไม่พึงพอใจอยู่เรื่อยๆ

พีท ด็อกเตอร์ ยังมองอีกว่า หนังเรื่องนี้จะมีความวิเศษสุดเพราะชีวิตเรามีอะไรมากกว่าสิ่งเดียวที่คุณคลั่งไคล้ แม้ว่ามันอาจจะเติมเต็มและถ่ายทอดความรู้สึกของคุณได้มากแค่ไหนก็ตาม บางครั้ง สิ่งเล็กๆ น้อยๆ ที่ไม่สลักสำคัญนี่แหละคือแก่นแท้ของชีวิต แบบที่เราเองก็คาดไม่ถึงเช่นกัน “ผมจำได้ว่าวันหนึ่ง ผมกำลังขี่จักรยานอยู่ แล้วผมก็หยุดเพื่อเก็บลูกราสเบอร์รี” เขากล่าวต่อ “มันอุ่นเพราะแสงแดด และกลายเป็นลูกราสเบอร์รีที่อร่อยที่สุดที่ผมเคยกินมา ผมยังจำช่วงเวลาที่แทบจะไม่มีอะไรนั่นได้อย่างชัดเจน แทบทุกช่วงเวลาในชีวิตของเราสามารถเป็นช่วงเวลาแห่งการตื่นรู้ ที่จำกัดความถึงเหตุผลที่เรามาอยู่ตรงนี้ได้ หนังเรื่องนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับการขยายไอเดียของการมีสิ่งที่คุณสนใจเพียงอย่างเดียวไปสู่การคิดให้กว้างขึ้นเกี่ยวกับสิ่งที่ชีวิตเสนอมาให้กับเราและสิ่งที่เราเสนอให้กับชีวิตครับ”

“Soul” ที่เรื่องราวเกิดขึ้นในนิวยอร์ก ซิตี้ ศูนย์กลางดนตรีแจ๊ส ที่มีกระแสชีวิตเร่งรีบ และโลกในจินตนาการของนครก่อนเกิด ได้ใช้ประโยชน์จากความแตกต่างระหว่างเมืองใหญ่และดินแดนอันกว้างใหญ่ไพศาลนี้ แนวทางการสร้างภาพยนตร์และการเคลื่อนไหวตัวละครของทีมผู้สร้างได้รับแรงบันดาลใจส่วนหนึ่งจากอิทธิพลสองอย่างที่แตกต่างกัน นั่นคือศิลปะของศิลปินและนักเขียนการ์ตูนเสียดสีชาวอังกฤษ โรนัลด์ เซียร์ และแอนิเมชั่นจากการ์ตูนแอนิเมชั่นคลาสสิกปี 1961 ของดิสนีย์เรื่อง 101 Dalmatians

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook