รีวิว [ปากพอง] Wonder Woman 1984 คำขวัญนางงามแห่งเกาะเธมีสคิร่า
ปฏิเสธไม่ได้หรอกว่าสถานการณ์โควิดทำให้ WW1984 กริบทั่วโลกกว่าที่ควรจะเป็น เพราะยามปกติแล้วหนังซูเปอร์ฮีโร่เรื่องไหนเข้าฉายก็จะทำรายได้เป็นกอบเป็นกำ แต่ถึงอย่างนั้นแล้วจะว่ากันตามตรง หนังภาคนี้เหมือนการผลิตซ้ำของหนังภาคแรก แต่เปลี่ยนมุมมองให้ตัวไดอาน่า (กัล กาด็อต) ให้มีความเป็นมนุษย์ที่มีชีวิตอยู่ผ่านช่วงเวลามากมาย และเรียนรู้ว่าเธอควรจะโอบกอดสิ่งใดไว้กับตัวเอง
สิ่งที่ค่อนข้างน่าผิดหวังคือ WW1984 เป็นหนังที่มีความยาว (อาจจะมากเกินไป) จนทำให้หลายๆฉากกลายเป็นความยืดยาดเยิ่นเย้อ ประกอบกับจำนวนฉากแอ็คชั่นที่ทิ้งช่วงระหว่างฉากค่อนข้างนาน มิหนำซ้ำฉากไคลแม็กซ์ที่คาดว่าจะเป็นฉากต่อสู้ที่น่าจะดูแล้วว้าว ปังปุริเย่ ก็กลายเป็นฉากต่อสู้ระหว่างวันเดอร์วูแมนและชีตาห์ (คริสเทน วิก) ที่สั้นกุดและก็ถือได้ว่าเป็นฉากที่ไม่ค่อยสมการรอคอยเท่าที่ควร
ยังไม่รวมไปถึงเรื่องรักๆใคร่ๆระหว่างไดอาน่าและสตีฟ (ที่คัมแบคกลับมาเพราะอำนาจของหินวิเศษ) ลืมบอกไปรีวิวนี้มีการสปอยล์ข้อมูลในหนังนะครับ ซึ่งวิธีการนำเสนอของเรื่องก็จัดได้ว่าน่าสนใจ เพราะวิญญาณสตีฟนั้นกลับมาภายในร่างของชายคนหนึ่ง (คริสโตเฟอร์ โฟลาฮา) แต่หนังก็นำเสนอภาพออกมาว่าแม้ภายนอกรูปร่างจะไม่เหมือนเดิม แต่วิญญาณข้างในของเขายังคงเป็นสตีฟคนเก่าด้วยการใช้ คริส ไพน์นักแสดงจากภาคแรกมาเล่นซะเลย
อันที่จริงตัวร้ายในหนังภาคนี้อย่างแม็กเวลล์ ลอร์ด (เปโดร ปาสคัล) จัดได้ว่าเป็นตัวร้ายที่มีความน่าสนใจพอสมควร เนื่องจากเขาไม่มีพลังวิเศษใดๆ แต่ด้วยอำนาจของหินวิเศษทำให้เขาขอพรให้ตัวเองกลายเป็นหินวิเศษซะเอง เพื่อที่ว่าใครขอพรอะไรก็ตาม อำนาจก็จะมาอยู่ในมือเขา ซึ่งภาพแทนของตัวละครนี้คือนักธุรกิจที่พยายามจะพลิกวิกฤตการล้มละลายของบริษัทตัวเองให้ได้ แต่เมื่อเขายิ่งใช้อำนาจ ก็ยิ่งถลำลึกไปเรื่อยๆ เช่นเดียวกับตัวร้ายอย่างบาร์บารา ไมเนอร์วา หรือ เดอะ ชีตาห์ ที่ขอพรวิเศษเพื่อเปลี่ยนแปลงตัวเองให้กลายเป็นคนที่มีพลัง มีความมั่นใจมากยิ่งขึ้น แต่สุดท้ายการไม่เป็นตัวเองนั่นแหละคือสิ่งที่น่ากลัวที่สุด
จุดพีคของเรื่องคือการที่แม็กเวลล์ ลอร์ด พยายามให้คนทั้งโลกอธิฐานขอพรผ่านจอโทรทัศน์ แต่เมื่อทุกคนยิ่งขอยิ่งกลายเป็นการนำความวุ่นวายมาให้กับโลกใบนี้ วันเดอร์วูแมนจึงต้องใช้บ่วงแห่งความจริงเพื่อกล่าวคำขวัญนางงามยาวเป็นพารากราฟเพื่อให้ทุกคนถอนคำอธิษฐานซะแล้วทุกอย่างจะกลับไปเป็นความสงบสุขดังเดิม
WW1984 จึงเป็นภาคที่เล่นกับความเรียบง่าย (หรือท่าง่าย) เปิดปลายสวยๆให้วันเดอร์วูแมนกลายเป็นฑูตจากสมาคม UN ไปซะอย่างนั้น ทั้งที่ความเป็นจริงแล้วถ้าหากหนังจะมาเบอร์นี้แล้ว เปลี่ยนแนวไปเป็นหนังการเมืองระทึกขวัญยังน่าจะดูกว่าที่เป็นอยู่นี้ก็ได้