เผยโฉม Gossip Girl รีบูต ใครเป็นใครในซีรีส์
สำหรับ Gossip Girl ในเวอร์ชั่นรีบูตนั้นได้รับการเปิดเผยคาแรกเตอร์ของตัวละครออกมาแล้ว เพื่อบอกเล่าว่านักแสดงคนไหนรับบทเป็นใคร บุคลิกลักษณะเป็นอย่างไร สำหรับซีรีส์ในเวอร์ชั่นนี้จะออกฉายทางสตรีมมิ่ง HBO Max ซึ่งคาดการณ์ว่าจะได้อออกฉายภายในปี 2021 แต่ถึงตอนนี้ทางสตูดิโอยังไม่มีประกาศวันออนแอร์ที่แน่ชัดออกมา
อย่างไรก็ตามเรื่องราวที่จะเกิดขึ้นในซีรีส์ฉบับใหม่นี้จะผ่านการดูแลโดยโปรดิวเซอร์อย่าง โจชัวร์ ซาฟราน สเตฟานี่ ซาเวจ และโจสท์ สจ๊วต ซึ่งนักแสดงเพียงคนเดียวจากเวอร์ชั่นต้นฉบับที่กลับมาร่วมในเวอร์ชั่นนี้คือ คริสเทน เบลล์ นักแสดงสาวผู้เป็นต้นเสียงในการบอกเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นในแต่ละตอนของ Gossip Girl นั่นเอง
เรื่องราวที่เกิดขึ้นในเวอร์ชั่นล่าสุดนี้คือ เหตุการณ์ 8 ปีให้หลังจากตอนสุดท้ายของซีรีส์ดั้งเดิม ซึ่งตามติดวัยรุ่นกลุ่มใหม่ของอัพเปอร์อีสท์ไซด์ ที่มาพร้อมเรื่องราวดราม่า ความรัก และชนชั้น โดยช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาอินสตาแกรมอย่างเป็นทางการของ Gossip Girl ได้ทำการลบภาพเก่าทั้งหมดที่มีและอัพโหลดภาพและนักแสดงชุดใหม่ขึ้นมา ในหลากหลายลุค หลากหลายสไตล์ โดยคาแรกเตอร์แต่ละตัวถูกบรรยายผ่านคำจำกัดความสั้นๆ อาทิ ทะเยอทะยาน เป็นผู้นำเทรนด์ กล้าหาญ ฯลฯ
ทีมนักแสดงชุดใหม่นี้ประกอบไปด้วย
ทาวิ เกวินสัน (จากซีรีส์ The Twilight Zone, Scream Queens) รับบทเป็น เคท เคลเลอร์
ทอมัส ดอร์เฮทีย์ (High Fidelity) รับบทเป็นแม็กซ์ วูลฟ์
เอมิลี่ เอลินด์ ลินซ์ (Doctor Sleep) รับบทเป็นออเดรย์ โฮป
จอร์แดน อเล็กซานเดอร์ รับบทเป็น จูเลี่ยน คาโลเวย์
ซานแวนน่า สมิธ รับบทเป็น โมเน็ต เด ฮาน
ไซออน โมเรโน รับบทเป็น ลูน่า ลา
อีไล บราวน์ รับบทเป็น อ็อตโต
วิทนีย์ พีค รับบทเป็น โซย่า ล็อตต
และอีแวน ม็อค รับบท เอกิ
ย้อนกลับไปมองความสำเร็จของงานต้นฉบับ
Gossip Girl นั้นถูกดัดแปลงมาจากนิยายของเซซิลี ฟอน เซเกซซาร์ที่หยิบเอาเทรนด์ไลฟ์สไตล์ของวัยรุ่นในยุคปี 2000 ที่สื่อสารกันผ่านช่องทางออนไลน์มากกว่า นอกจากนั้นการมองการณ์ไกลของเซซิลี ยังทำนายล่วงหน้าด้วยซ้ำไปว่าวิถีชีวิตของวัยรุ่นในยุคต่อมานั้นจะนำมาซึ่งความยุ่งเหยิงในชีวิต เพราะเรื่องดราม่าบนโลกออนไลน์นั้นเผยแพร่ไปไวยิ่งกว่าไวรัส!
ถึงอย่างนั้นเมื่อหนังสือนิยายถูกดัดแปลงให้กลายเป็นทีวีซีรีส์ เรื่องราวที่เกิดขึ้นจึงต้องถูกเปลี่ยนแปลงมากมาย และการแคสติ้งเฟ้นหานักแสดงก็เริ่มต้นขึ้นอย่างดุเดือด เมื่อมีนักแสดงหน้าใหม่เข้าร่วมการคัดเลือกกว่า 900 คนจนท้ายที่สุดแล้วนักแสดงที่โดดเด่นที่สุด 6 คนที่ได้รับเลือกมาเป็นตัวละครก็คือ เบลค ไลฟ์ลีย์, ลีห์ตัน มีสเตอร์, เพนน์ เบด์กลีย์, แชส ครอว์ฟอร์ด, เอ็ด เวสต์วิค และ เทย์เลอร์ มอมเซน
อันที่จริงแล้วความตั้งใจดั้งเดิมของสตูดิโอวอร์เนอร์อยากจะดัดแปลง Gossip Girl เป็นภาพยนตร์และนางเอกที่ถูกเล็งเอาไว้ก็คือดาราวัยรุ่นแห่งยุคอย่าง ลินเซย์ โลแฮน แต่ขอบคุณมากที่โครงการนี้ถูกล้มพับไป ต่อมามันถูกเตรียมสร้างเป็นซีรีส์ออกอากาศทางทีวีโดยฟ็อกซ์บรอดแคสติง แต่ก็ถูกยกเลิกอีกครั้ง จนกระทั่งสุดท้าย Gossip Girl ถูกสร้างเป็นละครชุดทางโทรทัศน์ครั้งแรกกับ CW Television Network โดย จอช ชวาร์ซ ผู้สร้าง The O.C.
ดังและเด่นเพราะแฟชั่นในเรื่อง
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า เนื่องจากกลุ่มผู้ชมของซีรีส์เรื่องนี้เป็นผู้หญิง ทำให้บรรดาเสื้อผ้าของตัวละครในเรื่องกลายเป็นชุดที่ผู้ชมอยากได้ และสาวๆ ในเรื่องก็กลายเป็นผู้นำเทรนด์การแต่งตัว ถึงกับบรรดาแบรนด์เสื้อผ้าดังๆ ของโลกจึงหมายตาให้กองถ่ายซีรีส์นี้ยืมเอาเสื้อผ้ามาให้นักแสดงใส่เข้าฉากเพื่อให้เป็นการโปรโมตสินค้าตัวเองไปในตัว สำหรับสาวๆ ที่ชื่นชอบสไตล์การแต่งตัวของตัวละครผู้หญิงในเรื่องผ่านเว็บไซต์แฟชั่นซีรีส์โดยเฉพาะ ซึ่งปัจจุบัน IP นี้ถูกยกเลิกไปแล้ว
ทำไมซีรีส์ Gossip Girl จึงอยู่ในความทรงจำ
ในทุกปีมีซีรีส์วัยรุ่นออกฉายมากมายหลายเรื่อง แต่คงมีเพียงไม่กี่เรื่องที่อยู่ค้างความทรงจำตลอดมา เมื่อไล่เรียงกลับไปแล้ว ซีรีส์วัยรุ่นที่ขึ้นทำเนียบที่ผู้คนยังคงจดจำได้ก็คงมีรายนามดังต่อไปนี้ ชื่อ Beverly Hills, 90210 , One Tree Hills, Dawson's Creek, The O.C. และ Gossip Girls
ซึ่ง Gossip Girls นั้นพาคนดูไปสำรวจและตั้งคำถามถึงแวดวงชีวิตในวัยหัวเลี้ยวหัวต่อ อาทิ การใช้ชีวิตอันไร้สาระ, สังคมของชนชั้นสูง, การออกงานสังคม, การเปลี่ยนคู่นอน และอีกมากมาย นอกเหนือจากนี้ซีรีส์ยังเลือกจะเจาะกลุ่มผู้ชมวัยรุ่นหญิง จึงมีตัวเดินเรื่องเป็นสาวใจแตกกลับตัว (เซรีน่า) และสาวร้าย (แบลร์) เป็นตัวเดินเรื่องในการช่วงชิงความรักจากผู้ชาย และสร้างวีรกรรมมากมาย
น่าเสียดายที่ความสนุกและน่าสนใจของ Gossip Girl นั้นสนุก น่าสนใจและสดใหม่แค่เพียง 2 ซีซั่นแรกเท่านั้น พอเรื่องราวดำเนินมาถึงซีซั่นที่ 3 จนถึงซีซั่นที่ 6 เรื่องราวก็จัดได้ว่าวนอยู่ในอ่างไม่ไปไหน แม้จะได้นักแสดงรับเชิญมาร่วมจอมากมาย แต่ก็คงปฏิเสธไม่ได้ว่า “สนุก” สู้ 2 ซีซั่นแรกไม่ได้เลย
เราคงต้องรอชมกันต่อไปว่า Gossip Girl ฉบับรีบูตนี้จะลบภาพจำของงานต้นฉบับได้หรือไม่