Robert Downey Jr. ผู้ถูกฉุดขึ้นมาจากหุบเหวนรกด้วย Mel Gibson และ Burger King
หลายปีก่อน Robert Downey Jr. ประสบกับปัญหายาเสพติด แถมยังติดคุก ลูกเมียไม่รัก จนโดนวงการบันเทิงที่เขาใช้ทำมาหากินหันหลังให้ แต่..เพื่อนเก่าเพื่อนแก่ที่เล่นหนัง Air America ด้วยกันอย่าง Mel Gibson ไม่เคยทอดทิ้งเขาเลย Mel Gibson ช่วยเหลือเพื่อนคนนี้ในทุกๆ อย่าง แม้กระทั่งที่ซุกหัวนอน
จุดเปลี่ยนชีวิตของ Robert Downey Jr. เกิดขึ้นในช่วงที่ Mel Gibson มือขึ้นมาก หยิบจับอะไรก็เป็นเงินเป็นทองไปเสียหมด ทั้งในฐานะนักแสดงและผู้กำกับ เรียกได้ว่าคือผู้ทรงอิทธิพลที่สุดคนหนึ่งในฮอลลีวู้ด หากได้ต่อรองหรือเจรจากับใครก็ในวงการก็แทบไม่มีใครกล้าปฏิเสธข้อเสนอ ช่วงเวลาที่ Robert Downey Jr. วิ่งหางานหลังจากถูกวงการแบน ในฐานะที่ Mel Gibson คือผู้สร้างหนังเล็กๆอย่าง The Singing Detective (2003) เขาได้มอบบทนำให้ Robert Downey Jr. แม้หนังจะไม่ได้ประสบความสำเร็จอะไรมากมาย แต่มันถือเป็นโอกาสและใบเบิกทางให้อดีตดาราขี้ยาคนหนึ่งได้กลับมาเดินบนเส้นทางที่ควรจะเป็น Mel Gibson ย้ำกับทุกๆ คนว่า Robert Downey Jr. คือคนเก่งที่หลงทาง
การเข้าชิงดารานำชายบนเวทีออสการ์จาก Chaplin ปี 1992 คือการการันตีฝีมือ แม้กระทั่งหนังเขย่าขวัญฟอร์มดีๆ หน่อยอย่าง Gothika ปี 2003 ก็ได้ Mel Gibson ฝากฝังกับ Joel Silver โปรดิวเซอร์ใหญ่แห่ง Silver Pictures ในจักรวาลของค่าย Warner Bros. ที่เวลานั้น Joel Silver ต้องยอมซูฮกในพลังดาราของ Mel Gibson เพราะหนังของเขาทำกำไรให้ Warner Bros. ไปมากมายมหาศาล
วันหนึ่ง Mel Gibson ได้พา Robert Downey Jr. เข้าไปแนะนำให้ผู้กำกับฯ Shane Black ที่กำลังควานหานักแสดงมาเล่นหนัง Kiss Kiss Bang Bang ที่เขาจะกำกับ เพราะก่อนหน้านี้ Shane Black ไม่ถูกใจใครเลยในการจะมารับบทในหนังของเขา จนกระทั่งได้เจอกับ Robert Downey Jr. คนนี้ผ่านการแนะนำของ Mel Gibson ด้วยความกล้าๆ กลัวๆ ในพฤติกรรมของอดีตดาราเหลวไหล Shane Black แบ่งรับแบ่งสู้พอสมควร แต่ในเมื่อ Mel Gibson การันตีด้วยตัวเอง Shane Black จึงจำต้องยอมให้ Robert Downey Jr. เข้าออดิชั่น แล้ว Shane Black ก็ได้เจอกับคนที่เขาตามหามานาน Mel Gibson กับ Shane Black สนิทกันจากการที่ Shane Black เคยเขียนบทให้หนัง Lethal Weapon พร้อมๆ กับทำงานใน Warner Bros. ด้วยกัน จึงได้เจอกันบ่อยครั้งจนสนิทกัน
"หมอนี่เจ๋งมากนายก็รู้ ตอนนี้เขาเปลี่ยนเป็นคนใหม่แล้ว หนังนายต้องการเขา" Mel Gibson ฝากฝังเพื่อนให้ผู้กำกับ Shane Black แม้จะมีความเสี่ยงอยู่บ้าง แต่ขั้นตอนการออดิชั่น Robert Downey Jr. ได้แสดงให้เห็นว่าเขาเหมาะสมกับบท Harry Lockhart ใน Kiss Kiss Bang Bang สักแค่ไหน Robert Downey Jr. ได้รับเสียงวิจารณ์ชื่นชมอย่างล้นหลามจากบทนี้ หลังจากนั้นไม่นานนัก Robert Downey Jr. ก็กลับมาในเส้นทางนักแสดงคุณภาพอีกครั้ง เขาได้เล่นหนัง Zodiac ของผู้กำกับ David Fincher ที่สร้างโดย Warner Bros. Pictures กับค่าย Paramount Pictures ซึ่งในเวลานั้น Paramount กำลังปลุกปั้นโปรเจกต์ร่วมกับ Marvel และยังควานหาตัวผู้จะมารับบท Iron Man ไม่ได้ แต่ Robert Downey Jr. ก็สามารถแย่งบทมาจากดาราดังหลายๆ คนที่ตบเท้าเข้าชิงชัยบทนี้กันหลายคน ท่ามกลางเสียงคัดค้านของแฟนๆ หนังหรือแม้กระทั่งทีมงานบางส่วนที่ไม่ค่อยพอใจกับ Robert Downey Jr. สักเท่าไหร่
แต่แล้วโลกก็ได้รับรู้โดยทั่วกันว่าบท Iron man ถูกสร้างมาเพื่อ Robert Downey Jr. เขากลับมาโด่งดังเป็นดาราแถวหน้าค่าตัวสูงอย่างที่เห็น และ Shane Black ผู้กำกับจาก Kiss Kiss Bang Bang ก็ได้ตามมากำกับฯ Robert Downey Jr. ใน Iron man 3 จากการมีส่วนร่วมคัดเลือกผู้กำกับของ Robert Downey Jr.
เชื่อหรือไม่ว่าจุดเปลี่ยนสำคัญของ Robert Downey Jr. ที่ทำให้เขาตาสว่าง ได้เกิดขึ้นที่ร้าน Burger king วันนั้นมียาเสพติดอยู่เต็มกระเป๋าของเขา แต่ด้วยความที่เล่นหนักมาตลอดทั้งสัปดาห์ เขาขอพักหาอะไรกิน วันนั้นจึงเป็นวันที่ Robert Downey Jr. ได้กินอาหารเต็มคาบอย่างที่ไม่ได้กินแบบนี้มานานแสนนานเนื่องจากการเล่นยา เขาพบว่าชีสเบอร์เกอร์มันอร่อยมาก ทำไมเขาจึงเลือกยานรกเหล่านั้นแทนที่จะกินเบอร์เกอร์ให้อร่อยๆ แบบนี้ แต่ในอีกห้วงความคิดหนึ่งเขาคิดว่ามันคืออาหารขยะ ดาราที่เคยเข้าชิงออสการ์อย่างเขากับอาหารขยะเนี่ยนะ คิดได้ดังนั้นเขาจึงรวบรวมยาเสพติดทั้งหมดที่มีไปโยนทิ้งทะเล แล้วเปลี่ยนเป็นคนใหม่ จนชีวิตผกผันได้เป็น Iron man อย่างที่เห็น เขาไม่ลืมที่จะบอกผู้กำกับให้ใส่ Burger King เข้าไปในหนังด้วย Tony Stark เลิกขายอาวุธสงครามหลังกินชีสเบอร์เกอร์ ชีวิตจริงของ Robert Downey Jr. ก็เช่นกัน เขาเลิกยานรกได้เพราะชีสเบอร์เกอร์
เชื่อหรือไม่ว่ากว่าจะได้บท Iron man เขาต้องฝ่าด่านนักแสดงที่กำลังฮ็อตที่สุดในขณะนั้นอย่าง Nicolas Cage และ Tom Cruise โดยในรายของ Tom Cruise นั้น บอกปฏิเสธเพราะการใส่หน้ากากในหนังแบบไม่โชว์หน้าหล่อๆ ของเขามันไม่น่าจะใช่แนวของเขาสักเท่าไหร่ ส่วน Nicolas Cage นั้นปฏิเสธบทเพราะคิวเต็ม ต้องสละเวลาไปเล่นหนังดีๆ อย่าง Ghost Rider ที่เป็นหนังของ Marvel เช่นกัน แล้วก็ Next และ Bangkok Dangerous เป็นหนังดีๆที่ Nicolas Cage คัดสรรแล้วทั้งนั้น ในทีแรกไม่มีใครเชื่อในตัว Robert Downey Jr. เลย เพราะภาพลักษณ์ก่อนหน้านั้นเสียอย่างหนัก มีเพียง Jon Favreau และ Kevin Feige ผู้กำกับและโปรดิวเซอร์ที่เชื่อมั่นว่าเขาใช่แน่นอน
วันออดิชั่น Robert Downey Jr. ก้าวเข้ามาในห้องเพื่อทดสอบเล่นบทมหาเศรษฐีผู้หยิ่งยโสสุดๆ ต่อหน้าทีมงานผู้สร้าง ทุกคนก็คลายความสงสัยว่าทำไม Kevin Feige ถึงมั่นใจให้เขามาแสดงหนังงบ 200 ล้านเหรียญ เรื่องนี้ ชีวิตมีขึ้นย่อมมีลง ในขณะที่ Robert Downey Jr. กลับมายืนในแถวหน้าดาราชายที่สตูดิโอต้องการตัวมากที่สุด Mel Gibson ก็ประสบปัญหาโดนฮอลลีวู้ดแอนตี้ รุมกันแบนไม่เสนองานให้ทำ ข้อหาเมาแล้วตบตีภรรยา ยิ่งไปกว่านั้นคือมีกรณีด่าคนยิวรุนแรงจนเป็นข่าวใหญ่โต ในงานมอบรางวัล American Cinematheque Award ให้กับ Robert Downey Jr. เขาได้รับรางวัลโดยมีแขกเซอร์ไพรส์ คือ Mel Gibson ซึ่งเป็นคนมามอบรางวัลให้ Robert Downey Jr.
บนเวที Robert Downey Jr.ได้พูดขึ้นต่อหน้าสื่อและคนในวงการด้วยกันเองที่อยู่ในฮอลล์ว่า "เว้นแต่คุณปราศจากความผิดบาปใดๆในชีวิต และถ้าคุณใช่ ผมว่าคุณอยู่ผิดที่ในอุตสาหกรรมนี้แล้ว ดังนั้นคุณควรจะยกโทษให้เขาและปล่อยให้เขาทำงานไปเถอะ"
คลิปงานวันนั้น นั่นหมายความว่า Robert Downey Jr. ต้องการจะช่วยเพื่อนที่ดีที่สุดให้กลับมามีชื่อเสียงอีกครั้งหลังจากเจอมรสุมในชีวิตส่วนตัวอย่างหนัก มีช่วงหนึ่ง Robert Downey Jr. พยายามเกลี้ยกล่อมบอร์ดบริหารของ Marvel ให้รับ Mel Gibson มาเล่นบทผู้ร้ายขาใหญ่ที่สุด (ลือกันว่าเป็น Thanos) และมีข่าวว่า Mel Gibson เกือบจะได้กำกับ Iron man 3 แต่ถูกปฏิเสธอย่างไร้เยื่อใย เพราะบอร์ดบริหารใหญ่หลายๆ คนเป็นคนยิว และ Mel Gibson ก็เคยวิจารณ์ผู้กำกับ Jon Favreau ในทางที่ไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่ ว่ากันว่า Mel Gibson ไม่ค่อยชอบที่ Jon Favreau เอา Robert Downey Jr. ที่เขาเชื่อมั่นฝีมือมาเล่นหนังเป็นดาราในหนังตลาดจ๋าขนาดนี้ โดยที่ไม่ได้ใช้ฝีมืออย่างแท้จริงแบบที่เคยเล่นใน Kiss Kiss Bang Bang หรือ Zodiac
จะอย่างไรก็ดี Robert Downey Jr. ในยุคที่ประสบความสำเร็จทั้งรางวัลเกียรติยศและเงินทอง เขาเองเคยยอมรับว่าตนก็ไม่คาดฝันว่าชีวิตจะผ่านมรสุมมาได้ถึงขนาดนี้ ส่วนหนึ่งต้องยกเครดิตให้ Mel Gibson และที่ลืมไม่ได้ ต้องขอบคุณ Burger King มื้อนั้นด้วย
อัลบั้มภาพ 18 ภาพ