10 เรื่องน่ารู้ก่อนดู Space Sweepers ว่าที่ Star Wars เอเชีย กับซูเปอร์ฮีโร่ชนชั้นขยะ
ช่วงเช้าของวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2021 Netflix จัดงานแถลงข่าวออนไลน์ เปิดตัวภาพยนตร์ระดับบล็อกบัสเตอร์สไตล์ไซไฟเรื่องแรกของเกาหลี Space Sweepers ชนชั้นขยะปฏิวัติจักรวาล นำแสดงโดย ซงจุงกิ คิมแทรี ชินซอนกยู และ ยูแฮจิน กำกับโดย โจซองฮี เตรียมตัวเผยให้รับชมทั่วโลก 5 กุมภาพันธ์นี้
หลังจากที่มีแผนว่าจะเป็นภาพยนตร์ฉายในโรงให้สมกับเป็นหนังระดับบล็อกบัสเตอร์อย่างแท้จริง แต่ด้วยโควิด-19 และปัจจัยหลายๆ อย่าง ทำให้สุดท้ายมาลงตัวกับการฉายออนไลน์ผ่าน Netflix ซึ่งทางผู้กำกับและนักแสดงต่างเห็นตรงกันว่า แม้ว่าจะน่าเสียดาย แต่การได้ลงฉายใน Netflix ทำให้คนทั่วโลกได้ชมพร้อมกัน และคิมแทรียังเน้นย้ำว่า อย่าลืมเปิดเสียงให้ดังกระหึ่มขณะดู เพื่อรับฟังเสียงซาวด์เอฟเฟกต์ที่ทีมงานใส่ใจทุกรายละเอียด และชินซอนกยูยังแนะนำเพิ่มเติมว่า ถ้าจะให้ดีต้องมานั่งดูพร้อมกันหลายๆ คน ปิดไฟสลัวๆ ซึมซับภาพกราฟิกอันตระการตาผ่านหน้าจอขนาดใหญ่ไปด้วยกันจะดีที่สุด
ทำไม Sanook Movie ถึงอยากให้ทุกคนได้ชมภาพยนตร์เรื่องนี้ เรามีความพิเศษของ Space Sweepers ชนชั้นขยะปฏิวัติจักรวาล มาฝากกัน
10 เรื่องน่ารู้ ก่อนดู Space Sweepers ชนชั้นขยะปฏิวัติจักรวาล
- Space Sweepers ชนชั้นขยะปฏิวัติจักรวาล เป็นภาพยนตร์ระดับบล็อกบัสเตอร์แนวไซไฟเรื่องแรกของเกาหลีที่เล่าถึงเรื่องราวในอวกาศ เนื้อเรื่องกว่า 95% เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นบนอวกาศ บรรยากาศคล้ายกับการได้ชมภาพยนตร์ไซไฟสุดคลาสสิกอย่าง Star Wars หรือ Star Trek มีการขับยาน ต่อสู้กันบนยานด้วยเทคโนโลยีล้ำๆ รวมถึงภารกิจกอบกู้โลก
- เนื้อเรื่องเล่าถึงยุคอนาคตปี 2092 ที่โลกอยู่ในสภาวะอันตรายจนไม่สามารถอาศัยอยู่ได้ ถึงมีการสร้างโลกใบใหม่บนอวกาศ หรือที่เรียกว่า UTS แต่ไม่ใช่ทุกคนที่จะได้สิทธิ์ในการใช้ชีวิตอยู่อย่างหรูหราสุขสบาย คนมีเงินมักได้อภิสิทธิ์ชนมากกว่าคนอื่นเสมอ อยากมีชีวิตที่ดี มีบ้าน สิ่งแวดล้อม อาหาร อากาศดีๆ ต้องแลกมาด้วยค่าใช้จ่ายราคาสูง ทำให้ก่อกำเนิดแรงงานต่างด้าวที่ไม่ใช่ชาว UTS และต้องทำงานเก็บขยะแลกเงินไปวันๆ ประทังชีวิต แต่เป็นการเก็บขยะอวกาศ จึงเป็นที่ว่าของ “ชนชั้นขยะ” จะเห็นว่าแม้จะเป็นหนังไซไฟ แต่เนื้อเรื่องที่พูดถึงยังคงเป็นเรื่องของชนชั้นวรรณะ เสียดสีสังคม อย่างที่เราพบได้ในโลกปัจจุบัน ราวกับเอาหนัง Parasite มาบิดให้กลายเป็นหนังไซไฟ เหมือนอย่างที่เรื่องย่อเขียนเอาไว้ว่า "ไม่ว่าจะที่ไหน เวลาใด พวกเขาทำงานรวดเร็วและเก่งกว่าใคร แต่ทว่า ไหนจะภาษี ไหนจะค่าซ่อมยานอวกาศ กลับกลายเป็นว่า ยิ่งทำงาน เงินก็ยิ่งมีแต่ติดลบ"
- “แทโฮ” (ซงจุงกิ) นักบินผู้หิวเงิน, “กัปตันจาง” (คิมแทรี) อดีตผู้นำกลุ่มโจรสลัดอวกาศ, “ไทเกอร์ พัค” (ชินซอนกยู) วิศวกรประจำยานอวกาศผู้มุทะลุอารมณ์ร้อน และ “บั๊บส์” (ยูแฮจิน) หุ่นยนต์อวกาศสายบู๊สุดขี้บ่น ทั้งสี่ได้มาเป็นลูกเรือยานอวกาศลำเดียวกันที่ตั้งชื่อกันเองว่า Victory มีเหตุให้ต้องพบเจอกับ ”โดโรธี” ตัวละครเด็กน้อยน่ารักที่ใครเห็นเป็นต้องเอ็นดู กลับกลายเป็นหุ่นยนต์แอนดรอยด์ที่ทางการประกาศว่าเป็นสิ่งอันตรายที่พร้อมระเบิดได้ทุกเมื่อ แต่แทนที่ทั้ง 4 คนจะแจ้งทางการมาจับโดโรธีไปเฉยๆ ชนชั้นขยะหิวเงินอย่างพวกเขาจึงวางแผนแลกตัวโดโรธีกับฝ่ายที่พร้อมจะให้เงินจำนวนมหาศาลกับพวกเขา เพื่อหวังพลิกชีวิตเปลี่ยนฐานะของตัวเองกันได้เสียที เนื้อเรื่องเล่นกับความรู้สึกผิดชอบชั่วดี และความโลภของมนุษย์ได้ดี แถมอีกฝ่ายยังมีรูปร่างหน้าตาเป็นเด็กน้อยใสซื่อบริสุทธิ์ ที่ทำเอาคนดูอย่างเราๆ เอ็นดูไปตามๆ กัน
- ผู้กำกับ โจซองฮี บอกว่า เขาอยากเห็นตัวละครที่เป็นคนธรรมดาๆ ไม่ได้มาพร้อมคอสตูมเท่ๆ มารับบทกอบกู้จักรวาลกับเขาบ้าง ให้เห็นกันไปว่าคนเกาหลีในชนชั้นแรงงานหาเช้ากินค่ำที่เคยได้แต่มองความสำเร็จของคนอื่นอยู่ด้านบน ได้เปล่งประกายและกลายเป็นซูเปอร์ฮีโร่กับเขาบ้าง
- Space Sweepers แม้ว่าจะเป็นหนังไซไฟต้นทุนสูงลิบลิ่วที่ดีเทลกราฟิกละเอียดยิบอย่างที่ผู้กำกับบอกเอาไว้ว่า ทีมกราฟิกพยายามใส่ใจในรายละเอียดของแสงและเงาในทุกๆ ส่วนของยานอวกาศ และส่วนอื่นๆ ในทุกฉากทุกตอน แต่นอกเรื่องของภาพที่กินขาดระดับหนังฮอลลีวูดได้สบายๆ แบบไร้ที่ติแล้ว เนื้อเรื่องยังมาในสไตล์หนังฮอลลีวูดด้วยเช่นกัน คือการปฏิบัติภารกิจ ต่อสู้กับความอยุติธรรม เพื่อให้ได้มาซึ่งสิ่งที่เรียบง่ายแต่สำคัญที่สุด นั่นคือ การเป็นอยู่ที่สงบสุขของประชากรโลก ให้ทุกคนได้ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันอย่างปกติสุข
Netflix - ยูแฮจิน ผู้รับบทเป็น “บั๊บส์” หุ่นยนต์อวกาศ นอกจากเขาจะพากย์เสียงของตัวละครได้อย่างเป็นธรรมชาติแล้ว จากในงานแถลงข่าวที่เผยให้เห็นภาพเบื้องหลังการถ่ายทำ จะเห็นได้ว่าเขาได้ลงไปแสดงจริงๆ ไม่ใช่แค่พากย์เสียง เพราะฉะนั้นทุกท่วงท่าอากัปกิริยาต่างๆ ของหุ่นยนต์ตัวนี้ ก็ยังคงเป็นการแสดงของยูแฮจินเองทั้งสิ้น
- คิมแทรี ผู้รับบทเป็น “กัปตันจาง” กล่าวถึงบทบาทที่เธอได้รับว่า การเป็นกัปตันที่ต้องคอยสั่งคนอื่น ทั้งๆ ที่จริงๆ แล้วตัวเองอายุน้อยที่สุดในกลุ่ม เป็นสิ่งที่ตอนแรกเธอกังวลใจอยู่บ้าง แต่เมื่อได้ทำความเข้าใจในตัวละครที่รับบทเป็นกัปตันที่ต้องสง่างาม อกผายไหล่ผึ่ง และเป็นที่พึ่งพาของทุกๆ คนแล้ว ทำให้เธอสามารถเข้าถึงบทบาทและแสดงออกมาได้อย่างที่ผู้กำกับตั้งใจไว้ และยังแอบแซวตัวเองด้วยว่า เสื้อผ้าหลายชิ้นในเรื่องของกัปตันจางน่ารักมาก เธอเองก็น่าจะเป็นคนที่แอบมีมุมของความเป็นผู้หญิงอยู่บ้างเช่นกัน
- ทางด้านของ ชินซอนกยู ผู้รับบทเป็น “ไทเกอร์ พัค” ถูกแซวขณะตอบคำถามสื่อมวลชนในงานแถลงข่าวว่า ในเรื่องต้องโชว์ร่างกายท่อนบนอยู่ตลอดเวลา คุ้มค่ากับการฟิตร่างกายมาอย่างหนักหรือไม่ เขาตอบอย่างภาคภูมิใจพร้อมรอยยิ้มกว้างว่า “ภูมิใจ 120% เลยครับ” วันที่ 5 ก.พ. นี้ อย่าลืมตั้งใจดูหุ่นล่ำๆ ของเขากันด้วยล่ะ
- สุดท้ายกับ ซงจุงกิ ผู้รับบทเป็น “แทโฮ” เรื่องนี้เป็นผลงานภาพยนตร์เรื่องที่สองต่อจาก A Warewolf Boy (2012) ที่เขาได้ร่วมงานกับผู้กำกับคนเดิมอย่าง โจซองฮี ตัวเขาเองและเพื่อนๆ นักแสดงต่างลงความเห็นเป็นเสียงเดียวกันว่า ทั้งสองคนทำงานได้เข้าขากันดีมาก และส่วนตัวของซงจุงกิเองเคยได้ยินเนื้อเรื่องคร่าวๆ ของ Space Sweepers มาตั้งแต่ตอนถ่ายทำ A Warewolf Boy แล้ว เป็นไอเดียที่ผู้กำกับอยากทำมานานเกือบ 10 ปี เขาคิดว่าเนื้อเรื่องน่าสนใจและเขาตกลงปลงใจจะแสดงตั้งแต่ยังไม่ทันอ่านบทจบเลยด้วยซ้ำ เพราะเขาเชื่อมั่นในฝีมือการกำกับ และการลงรายละเอียด ถ่ายทอดเรื่องราวต่างๆ ของผู้กำกับโจซองฮีอย่างมาก
- “ผมหวังว่า Space Sweepers จะเป็นเรื่องราวที่ทันสมัยและสดใหม่ นอกจากนั้น ผมหวังว่าหนังเรื่องจะเป็นเสียงสะท้อนเล็กๆ ที่บอกว่า ทุกสิ่งมีคุณค่าและทุกคนต่างมีคุณค่าในจุดที่ตัวเองดำรงอยู่” ผู้กำกับโจซองฮีกล่าวทิ้งท้ายไว้ให้กับภาพยนตร์เรื่องนี้
Space Sweepers ชนชั้นขยะปฏิวัติจักรวาล พร้อมให้รับชมในวันที่ 5 กุมภาพันธ์นี้ ทาง Netflix
อัลบั้มภาพ 15 ภาพ