Skylines การกลับมาของหนังปิดไตรภาคเอเลี่ยนถล่มโลก

Skylines การกลับมาของหนังปิดไตรภาคเอเลี่ยนถล่มโลก

Skylines การกลับมาของหนังปิดไตรภาคเอเลี่ยนถล่มโลก
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

 

ย้อนกลับไปที่หนังภาคก่อน

ในปี 2010 หนังทุนต่ำเพียงแค่ 10 ล้านเหรียญฯ ในชื่อ Skyline ที่ว่าด้วยวัยรุ่นกลุ่มหนึ่งที่กำลังปาร์ตี้กันบนคอนโด ในเมืองแอลเอ แต่แล้วก็มีลำแสงประหลาดส่องลงมาจากทองฟ้า ทำให้สิ่งมีชีวิตบนโลกแทบจะสิ้นซาก วัยรุ่นกลุ่มนี้คือผู้รอดชีวิตที่กำลังค้นพบว่า โลกของเรากำลังถูกบุกรุกจากมนุษย์ต่างดาวที่มีเป้าหมายทำลายโลก แต่ด้วยความเป็นหนังที่ลงทุนไม่มากนัก เมื่อสิ้นสุดการเข้าฉายจากทั่วโลกหนังทำเงินไปทั้งสิ้น 79 ล้านเหรียญฯ จึงถือว่าเป็นหนังที่ทำกำไรพอสมควร

จนกระทั่งในปี 2017 Beyond Skyline สานต่อเรื่องราวจากภาคแรกที่เอเลี่ยนกลับมาเยือนโลก โดยนักสืบมาร์ค คอร์ลีย์ (แฟรงค์ กิลโล่) คิดว่าการต้องไปประกันตัว เทรนท์ (จอนนี่ เวสตัน) ลูกชายวัยรุ่นจอมแสบ แต่ขณะที่เขากำลังนั่งรถไฟใต้ดินกลับบ้านแสงสีฟ้าปริศนาก็สาดสว่างไปทั่ว ชั่วพริบตาเดียวคนทั้งเมืองถูกดูดขึ้นไปบนยานอวกาศต่างดาวขนาดยักษ์ สองพ่อลูกลอยขึ้นไปบนยานอวกาศดังกล่าว แต่ด้วยเหตุผลบางอย่างทำให้ยานเอเลี่ยนตกลงในทวีปเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มาร์คได้ร่วมมือกับกองกำลังต่อต้านนำโดย ซัว (อิโก อูไวส์) ในการเดิมพันครั้งสุดท้ายเพื่อกอบกู้โลกซึ่งเป็นความหวังให้มาร์คได้ช่วยลูกของเขาแม้ว่าจะเป็นหนังที่ทำกำไร แต่ก็ทั้งสองภาคก็โดนนักวิจารณ์สับถึงเรื่องความอ่อนปวกเปียกของบทภาพยนตร์

 

แล้วภาคที่ 3 อย่าง Skylines เกี่ยวกับอะไร

หลายปีผ่านไปหลังจากเหตุการณ์มนุษย์ต่างดาวบุกโลก เหล่าเอเลี่ยนนักฆ่าจากนอกโลกได้เปลี่ยนแปลงระบบชีววิทยาของตัวเองให้สามารถอยู่ร่วมกับมนุษย์ได้อย่างสงบสุข จนกระทั่งไวรัสร้ายได้ปรากฏขึ้นและเปลี่ยนให้มนุษย์ต่างดาวกลับไปดุร้ายและออกฆ่ามนุษย์อีกครั้ง เพื่อกอบกู้โลกให้กลับมาดังเดิม กัปตันโรส คอร์ลีย์(ลินด์เซย์ มอร์แกน) ลูกครึ่งมนุษย์-เอเลี่ยนผู้มีพลังพิเศษ  ต้องนำทีมทหารชั้นยอดออกปฏิบัติภารกิจเสี่ยงตายสุดขอบอวกาศ ณ ดาวเคราะห์อันเป็นต้นกำเนิดของเหล่าเอเลี่ยน!

 

นำแฟรนไชส์ไปสู่ทิศทางใหม่ๆ

Skylines อาจจะไม่ใช่หนังจากสตูดิโอยักษ์ใหญ่แต่การนำเสนอเรื่องราวใหม่ๆ ทีมงานจึงเลือกจะนำเสนอทิศทางใหม่ๆให้กับแฟรนไชส์และตัดสินใจว่า เรื่องราวในหนังภาคนี้จะขยายขอบเขตไปเล่าเรื่องการผจญภัยในอนาคตหลังจากที่โลกเกิดหายนะ และพาผู้ชมออกไปสำรวจพื้นที่ห่างไกลอย่างบ้านเกิดของมนุษย์ต่างดาวที่มีชื่อว่า โคบลอต์ 1

เพราะตัวผู้กำกับอย่างเลียม โอ ดอนเนล ผูกพันกับหนังผจญภัยในอวกาศแบบเก่าๆ ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มตัวละครหัวขบถที่ออกเดินทางไปในอวกาศเพื่อล้างแค้น แต่ระหว่างทางพวกเขาก็ต้องผจญกับสิ่งมีชีวิตที่ดุร้าย น่ากลัวและซ่อนตัวอยู่ในเงามืด ด้วยแรงบันดาลใจจากหนังโปรดอาทิ Aliens, Starship Troopers และ Pitch Black ทำให้เขาอยากทำให้ Skylines ภาคนี้มีโทนหนังแบบนั้น

 

ทำความรู้จักนางเอกลินด์เซย์ มอร์แกน

ถือว่าลินด์เซย์จะต้องมารับบทนำ ทำให้เธอต้องแบกรับความกดดันของตัวละครเนื่องจากโรส เป็นตัวละครที่ซับซ้อนมีการต่อสู้ภายในจิตใจของตัวเอง ขณะที่สถานการณ์ภายนอกเธอก็ต้องรับมือกับเหล่าเอเลี่ยน ตัวละครนี้จึงมีอะไรทีท้าทายเธอไม่น้อย

การที่ตัวเธอได้ร่วมงานกับผู้กำกับเลียม โอ ดอนเนล เธอมองว่าเป็นโอกาสที่ดีเพราะเขามีความคิดสร้างสรรค์ บางทีเขามักจะมีไอเดียใหม่ๆระหว่างถ่ายทำอยู่เสมอ อาทิบางทีเขาก็อยากจะเพิ่มฉากที่ไม่ได้อยู่ในบท เขาเป็นผู้กำกับที่เปิดกว้างทางความคิดและสนับสนุนให้นักแสดงนำเสนอสิ่งที่ตัวเองรู้สึกออกมา ซึ่งเป็นอะไรที่ตัวลินด์เซย์เองรู้สึกดีมากๆ ในฐานะที่เธอเป็นศิลปินและนักแสดงที่พยายามจะสำรวจตัวละครและนำเสนอสิ่งใหม่ๆออกมาด้วยนั่นเอง

การสวมบทเป็นตัวละครหญิงแกร่งนั้นยิ่งทำให้ลินด์เซย์มองตัวเองว่า ในฐานะที่เธอเป็นผู้หญิงคนหนึ่งในอุตสาหกรรมภาพยนตร์ เธออยากจะสร้างงานศิลปะที่เป็นแรงบันดาลใจให้กับผู้หญิงคนอื่นๆ หรือเด็กผู้หญิง ที่เธออาจจะสามารถเป็นต้นแบบให้กับพวกเขาได้ เพราะย้อนกลับไปในสมัยยังเด็ก เธอเป็นแฟนตัวยงของซีรีส์อย่าง Xena: Warrior Princess ซึ่งนำแสดงโดยลูซี่ ลอว์เลส เธอเป็นนักรบหญิงที่เป็นคนกล้าหาญและเป็นไอดอลของเธอ นอกจากนี้เธอยังหลงรักตัวละครอย่างทรินิตี้ใน The Matrix เพราะเธอเป็นตัวละครที่มีความแข็งแกร่งในตัวเอง มีความมั่นใจสูงและเป็นผู้ดูแลตัวเอกอย่างนีโอ คอยให้กำลังใจและสนับสนุนเขาอยู่ตลอดเวลา ซึ่งตัวละครนี้ถือคติที่ว่าหากคุณเป็นคนที่มอบความไว้เนื้อเชื่อใจให้กับคนสำคัญของตัวเอง นั่นหมายความถึงความแข็งแกร่งที่สุด ดังนั้นนี่จึงเป็นวัฒนธรรมในการสร้างตัวละครผู้หญิงแกร่ง ให้มีความสามารถเป็นของตัวเองและจะไม่เป็นแค่เพียงตัวละครไม้ประดับของหนังเรื่องนั้นๆด้วย

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook