ย้อนรอยตำนานหนังผีไทย "บ้านผีปอบ" กับเจ้าแม่ผีปอบ "หน่อย ณัฐนี"

เป็นภาพจำในชื่อของ ป้าทองหยิบ จากภาพยนตร์เรื่อง บ้านผีปอบ สำหรับนักแสดงคุณภาพ หน่อย-ณัฐนี สิทธิสมาน ที่ได้มาเยือนรายการ ต้มยำอมรินทร์ ผลิตโดย CHANGE2561 เล่าถึงการเปิดตำนานที่ยาวนานถึงปัจจุบัน และเอกลักษณ์ที่คุ้นชินว่ากำเนิดท่าหยิบมาจากไหน พร้อมทั้งการลงโอ่งที่กลายเป็นเอกลักษณ์ที่ต้องอยู่ในทุกๆ ภาคของ บ้านผีปอบ

 หน่อย ณัฐนี

Q: พอเห็นป้าหน่อยนึกถึงท่าเอกลักษณ์เหมือนกันนะ ทั้งชีวิตคนจะจดจำ ป้าหน่อย ในท่าปอบหยิบตลอดเวลา

หน่อย ณัฐนี : ก็น่าจะใช่นะคะ แบบมีคนที่เขาเห็นหน้าเราแล้วสะดุ้งก็มี ไม่สะดุ้งบ้างก็มี เพราะว่าบางคนก็ไม่ได้กลัวนะ

Q: ในความเป็นจริงแล้วต้องบอกว่า ป้าหน่อย เป็นคนที่อยู่ในวงการมายาวนานเป็นนักแสดงมืออาชีพหลากหลายเลย แต่หนึ่งในผลงานเป็นที่พูดถึงจดจำเป็นโลโก้ที่สุดเลยคือ จากหนังเรื่อง บ้านผีปอบ เล่นมากี่ภาค

หน่อย ณัฐนี : ใช่ค่ะ เล่นมา 14-15 ประมาณนี้ค่ะ ค่อนข้างเยอะค่ะ

Q: พอเวลาที่ไปฉายที่ต่างจังหวัดทุกคนกลัวนะ แต่มาดูเพราะว่าเป็นหนังที่โด่งดังมากในต่างจังหวัด ไม่เคยมีหนังไทยที่ทำได้หลายภาคขนาดนี้มาก่อน ป้าหน่อย ภูมิใจไหม

หน่อย ณัฐนี : ภูมิใจมากเลย แต่เสียใจอย่างเดียว สวยขนาดนี้ให้เล่นเป็นผี (หัวเราะ)

Q: อีกอย่างคือคาแรกเตอร์จำด้วยเพราะว่าโผล่ไปที่ไหน ป้าหน่อย ก็โผล่ไปกับเขาด้วยทุกที่ แล้วทางทีมงานบอก ป้าหน่อย ไหมว่ามันจะยาวไปถึง 14-15 ภาค

หน่อย ณัฐนี : น่าจะไม่มีใครคิดหรอกค่ะ ว่าจะยาวมาก อย่างภาค 1 เราไม่ได้เล่นนะคะ เพราะว่าคิวละครไม่ได้ แต่เรามาเล่นตั้งแต่ภาคที่ 2 โอกาสหรือว่าจังหวะอะไรมันคงดี หนังก็เลยทำต่อมาได้เรื่อยๆ

 หน่อย ณัฐนี

Q: เขามีการประชุมสร้างคาแรกเตอร์ไหมว่าเราจะต้องทำหน้าแบบไหน หรือท่าทาง ในการแสดงของเราไหม

หน่อย ณัฐนี : คือ จริงๆ แล้ว ผีปอบก็เป็นคนแหละค่ะ แต่แค่มีพฤติกรรมไม่เหมือนกัน อย่างท่าผีปอบ คือ ตัวแสดงตัวนี้เขาชื่อ ทองหยิบ ทีนี้คุณสายยนต์ ผู้กำกับ ถ้าจะกินไส้ใครจะทำยังไงให้คนดูรู้ ตัวที่เราเล่นเขาชื่อ ทองหยิบ เราก็ลองทำท่าหยิบให้เขาดูทางผู้กำกับเขาก็โอเคกับท่านี้

Q: แต่ก่อนที่จะมาเป็น ปอบหยิบ ก่อนที่จะมาเป็นเบื้องหน้าที่โด่งดังมานาน 50 ปี ป้าหน่อย คือ ทำงานเบื้องหลังมาก่อน เป็นอะไรตอนนั้น

หน่อย ณัฐนี : ดูแลเสื้อผ้า หน้าผม ได้เข้ามาทำงานกับเสด็จพระองค์ชายใหญ่ หม่อมปริม เข้ามาคือเราไม่มีความรู้อะไรเลย ท่านให้โอกาสและสอนเราทุกอย่าง เราก็ทำทุกอย่างเลยค่ะ เรื่องแรกน่าจะเป็น น้ำผึ้งขม เรื่องนี้น่าจะประมาณปี 17 แล้วเรื่องสุดท้ายคือ เงาะป่า เพราะเจ้านายสิ้นบริษัทก็เลยเลิก เราก็เลยสวมมาเล่นละคร

Q: จากเบื้องหลังแล้วก้าวเข้ามาอยู่เบื้องหน้าจากที่เพราะเราใกล้ชิด

หน่อย ณัฐนี : ใช่ค่ะ เพราะว่าโอกาสของเราเยอะมากกว่าคนอื่นๆ เลย จริงๆ แบบนี้ค่ะ ตัวแสดงแบบมีน้อยคนก็ยังไม่อยากเป็นนักแสดงมากก็คิดว่าทำไมเราไม่เปิดโรงเรียนเพื่อจะให้คนทุกวัยได้มาเรียน ก็ได้มีโรงเรียนเปิดขึ้นโดยมี คุณจิ๊ อัจฉราพรรณ เป็นครูใหญ่สอนทุกอย่างเลย สอนละครวิทยุ สอนการแสดง สอนแต่งหน้า สอนรำไทย สอนหมดทุกอย่างที่เกี่ยวกับการแสดง ส่วนเราก็มีหน้าที่ในการเก็บเงิน ช่วงที่เรารอหรือช่วงที่นักเรียนไม่ไปเรียน เราก็ขอว่าขอเรียนด้วยคนได้ไหม สุดท้ายเราก็ได้เรียนรู้วิชาการแสดงมา ตอนนี้แสดงมาทั้งละครทั้งหนังน่าจะประมาณ 200 เรื่องได้ค่ะ

Q: เราเล่นสะสมวิชาการแสดง คนรู้จักเริ่มขึ้นมาเรื่อยๆ วันหนึ่งบทบาทของการเป็น ปอบหยิบ

หน่อย ณัฐนี : คือ ผู้กำกับคุณสายยนต์ คือ สนิทกันเขาก็บอกว่าอยากให้เรามาเล่นเพราะว่าภาคหนึ่งไม่ได้เล่นเพราะคิวละครมันเต็ม แต่เราก็คุยกับผู้กำกับว่าถ้าพี่ละครเยอะ หรือ เหนื่อยมาก็ต้องช่วยพี่ด้วยแล้วกัน เขาก็เลยจัดว่าเราให้เราไปเล่นภาคสอง คุณสายยนต์ บอกว่าผีของผมอยากให้ตลก เราก็รู้สึกภูมิใจ ที่เรื่องนี้กลายเป็นหนึ่งในตำนานของภาพยนตร์ไทย และ คนก็จดจำเราจากเรื่องนี้ได้เยอะมาก

Q: แต่ต้องบอกว่าในหนังเรื่อง ผีปอบ ในแต่ละภาคก็จะมีฉากจำ เช่น คนวิ่งลงโอ่ง ลงตุ่มกัน ซึ่งคนลงไปในนั้น  3-4 คน แต่คนที่ลงสุดท้ายยังไงก็คือ ป้าหน่อย

หน่อย ณัฐนี : จริงๆ แล้วเพราะเมื่อก่อนก็ไม่ได้มีทุนมาทำเทคนิคอะไรมาก (หัวเราะ) ที่จริงอยู่ต่างจังหวัดก็จะไม่มีอะไรขึ้นต้นไม้ ดำน้ำ ลงโอ่ง คุณสายยนต์ เขาจะเขียนมาเลย แล้วอีกอย่างคือ เขาเป็นคนที่วางแผนได้ดี แต่สำหรับเรื่องนี้ไม่ได้ฉายในโรงใหญ่นะคะ คนในเมืองก็เลยอาจจะงงว่าทำไมมีถึงเกือบยี่สิบภาคเลยเหรอ เพราะสำหรับเรื่องนี้เป็นหนังที่ไปฉายต่างจังหวัดส่วนใหญ่ หนังสาย ก็คือ เขาจะหิ้วกระเป๋าหนังที่ในนั้นจะมีม้วนฟิล์มเอาไปฉายตามโรงภาพยนตร์ตามต่างจังหวัด ซึ่งหนังเรื่อง บ้านผีปอบ เป็นหนังนอกสายตามาก แต่ว่าสุดท้ายความดังที่มันเป็นคลื่นกระทบมาจากต่างจังหวัดสุดท้ายความดังของหนังเรื่องนี้ก็ได้มาฉายในโรงภาพยนตร์ที่ กรุงเทพฯ ด้วย

 หน่อย ณัฐนี

Q: ภาคสุดท้ายที่ ป้าหน่อย ได้เล่นเป็นส่วนหนึ่งของบ้านผีปอบ คือ

หน่อย ณัฐนี : บ้านผีปอบ Reformation แต่สำหรับภาคนี้โอ่งก็ยังคงมีนะคะ

Q: ซึ่ง ณ วันนี้สิ่งที่ ป้าหน่อย ทำอยู่คือการเป็น นักแสดงอาชีพเหมือนเดิม แต่อย่างหนึ่งที่เป็น ป้าหน่อย คือ การใช้เงินอย่างรู้คุณค่ามากๆเลย แล้วก็ไม่ใช้ของ แบรนด์เนม

หน่อย ณัฐนี : คือ ก็อยากใช้อยู่นะ แต่ว่าเราเป็นคนของเยอะถ้ากระเป๋าหนังมันก็จะใส่ได้น้อยใช่ไหมคะ ก็หนักด้วยกลัวไหล่ทรุดก็เลยต้องใช้กระเป๋าผ้า อยากจะบอกว่าทุกอาชีพก็ต้องมีการวางแผนการเงินถ้ามีแต่ใช้ เงินก็จะไม่มีเก็บ แต่อะไรที่มันต้องใช้เราก็ต้องใช้ ก็ประหยัดอย่างพอดีแล้วกัน

Q:  ต้องบอกว่า ป้าหน่อย เป็นอีกคนหนึ่งที่อยู่มาตั้งแต่ยุคแรกๆของวงการบันเทิงของไทย เห็นการเปลี่ยนแปลงมาหลายรูปแบบมาก จนถึงยุคนี้ก็ต้องบอกว่ามันเปลี่ยนแปลงไปมากเลยทีเดียว มีมุมไหนที่ ป้าหน่อย อยากจะฝากบ้าง

หน่อย ณัฐนี : คือถ้าจะให้ฝากจะบอกว่า ถ้าเราได้โอกาสขอให้ใช้โอกาสให้ดีที่สุดทุกอย่างจะดี ตั้งใจให้เต็มที่

 รายการ ต้มยำอมรินทร์ ย้อนหลัง