รีวิว Moxie ถึงเวลาที่สาวๆ ต้องลุกขึ้นปฏิวัติ

 

Moxie ดัดแปลงมาจากนิยายในชื่อเดียวกันของเจนนิเฟอร์ แมธทิว โดยหนังเรื่องนี้เป็นผลงานการกำกับของเอมี่ โพห์เลอร์ ซึ่งเธอยังร่วมแสดงโดยรับบทเป็นคุณแม่ของวิเวียน (แฮดลีย์ โรบินสัน) สาวน้อยหัวก้าวหน้า ที่มองเห็นว่า บรรดาเด็กผู้หญิงในโรงเรียนกำลังถูกเลือกปฏิบัติจากเหล่าผู้ชาย ซึ่งไม่ว่าผู้ชายจะทำอะไรก็ไม่เคยเป็นเรื่องผิด อาทิ การแต่งตัว การวางตัวเป็นหัวโจก ข่มเหงรังแกคนอื่น หรือแม้กระทั่งการหลอกแต๊ะอั๋งคนอื่น (โดยตั้งใจหรือไม่ก็ตาม) แต่ชนวนสำคัญที่ทำให้วิเวียนฟิวส์ขาดและต้องลุกขึ้นทำอะไรสักอย่างเพื่อเปลี่ยนแปลงระบอบปิตาธิปไตยนี้ คือการที่เธอพบว่า ลูซี่ (อลีเซีย พัสคาล-พีนา) เด็กสาวผิวสีที่เพิ่งย้ายโรงเรียนมาใหม่ถูกคุกคามจากมิเชล (แพทริก ชวาร์สเนเกอร์) กัปตันทีมอเมริกันฟุตบอลสุดหล่อ

วิเวียนจึงผุดไอเดียสร้างหนังสือแบบทำมือภายใต้ชื่อ Moxie ซึ่งเธอก็ออกแบบมันง่ายๆด้วยการเขียนเอาประเด็นการถูกคุกคามทางเพศใส่ไว้ในนั้น ก่อนที่เธอจะไปถ่ายเอกสารและแอบนำมันไปวางไว้ในห้องน้ำหญิง เธอหวังอยู่ลึกๆว่าจะมีเพื่อนในโรงเรียนที่มองเห็นปัญหาดังกล่าวและร่วมอุดมการณ์เดียวกัน ซึ่งถ้าหากใครตระหนักถึงประเด็นนี้จะต้องวาดสัญลักษณ์รูปดาวเอาไว้ที่มือ

แม้ว่าช่วงแรกวิเวียนจะใจตุ้มๆต่อมๆ ว่าจะมีเพื่อนหญิงพลังหญิงสักกี่คนที่จะมาร่วมขบวนการ แต่ไม่นานนัก กลุ่ม “ม็อกซี่” ก็เริ่มมีสมาชิกมากขึ้น และพวกเธอก็เริ่มผุดประเด็นในการทวงคืนสิทธิของเหล่าเด็กสาวในโรงเรียนในเรื่องการแต่งตัว การออกความคิดเห็น หรือแม้กระทั่งการเคลื่อนไหวทางสังคมในประเด็นที่ละเอียดอ่อนอาทิ การถูกคุกคามทางเพศไม่ว่าจะเป็นทั้งวาจาหรือในทางร่างกายก็ตาม

แม้ว่าจะดูเป็นหนังเรียกร้องสิทธิให้ผู้หญิง แต่ Moxie เองก็ยังคงไว้ซึ่งกลิ่นอายของหนังรอม-คอม วัยรุ่นที่ยังไม่ลืมพล็อตความรักโรแมนติกของวิเวียนกับเซท (นิโก ฮิรากะ) หนุ่มสุดเซอร์ที่วางตัวดี มีความคิดหัวก้าวหน้าและเข้าใจในวิถีของเฟมินิสต์ ซึ่งทั้งคู่ก็ดูเป็นคู่ที่เหมาะสมกันเสียยิ่งกว่ากิ่งทองใบหยก แถบบทพ่อแง่แม่งอนที่ปรากฏอยู่ในเรื่องก็ไม่ได้ดูงี่เง่า แต่ชวนบรรดาวัยรุ่นฉุกคิดตามอยู่ไม่น้อยว่า “อะไรที่สุดโต่งเกินไป” บางครั้งก็ไม่มีฝ่ายไหนยอมรับได้เช่นกัน

ถ้าหากคุณกำลังมองหาหนังที่มีทั้งประเด็นดีๆและความสนุกพ่วงท้าย Moxie คือหนังเรื่องนั้นครับ เปิดสตรีมได้เลยทาง Netflix