Minari: เมื่อหน่อเนื้อเกาหลีงอกเงยบนผืนดินอเมริกา โดย ก้อง ฤทธิ์ดี
Minari หนังดราม่าอเมริกันเลือดเกาหลี ออกฉายได้ถูกเวลาอย่างยิ่งเมื่อกระแส Stop Asian Hate หรือการรณรงค์ต่อต้านการเหยียดเชื้อชาติคนเอเชียในอเมริกา กำลังโหมกระพือหลังจากเหตุการณ์ความรุนแรงที่พุ่งเป้าไปที่คนเอเชียหลายครั้งในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาในอเมริกา รวมถึงโศกนาฏกรรมกราดยิงคนเอเชียที่แอตแลนต้าเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อนจนมีคนอเมริกันเชื้อสายเอเชียเสียชีวิตไป 8 คน เมื่อ Minari ได้เสนอชื่อเข้าชิงออสการ์ 6 สาขา (รวมทั้งหนังยอดเยี่ยม ดารานำชาย และดาราประกอบหญิง) หนังเล็ก ๆ เรื่องนี้เลยยิ่งได้แรงส่งจากความเชื่อมโยงต่อสถานการณ์เข้าไปอีก
โครงเรื่องของ Minari ไม่ใหม่ หนังว่าด้วยครอบครัวคนเกาหลีที่อพยพไปอยู่อเมริกาในช่วงปี 1980 ทำงานโรงงานแยกไก่ ก้มหน้าก้มตาเก็บเงินจนมีลูกชายลูกสาวที่นั่น จนหัวหน้าครอบครัวตัดสินใจย้ายไปอยู่ในรัฐอาแคนซอว์เพื่อทำธุรกิจฟาร์มผัก (ผักเกาหลี และไม่ใช่ผักฝรั่ง) เดิมพันชีวิตของตัวเองและครอบครัวกับผืนดินของบ้านใหม่ที่เรียกว่าอเมริกา
ประวัติศาสตร์อเมริกาคือประวัติศาตร์ของการหักร้างถางพง ปวารณาตัวกับพื้นดินและสร้างทุกอย่างขึ้นด้วยน้ำมือ คนกลุ่มน้อยในอเมริกามักจะมีหนังที่เล่าถึงการตั้งรกรากเพื่อแสวงหา American Dream ของเชื้อชาติตนเอง (ถ้าแบบไทย ๆ ก็คือ หนังประเภทหอบเสื่อผืนหมอนใบมาตายดาบหน้า) รวมทั้งหนังที่พูดถึงวัฒนธรรมย่อยและการปะทะกันของอัตลักษณ์ของเชื้อชาติดั้งเดิมกับ “ความเป็นอเมริกัน”
เร็วๆ นี้ก็ The Farewell ที่เป็นเรื่องครอบครัวจีน หรือ In America ที่ว่าด้วยครอบครัวไอริชที่อพยพมาอเมริกา หรือแม้แต่หนังอย่าง The Godfather จริง ๆ แล้วก็คือหนังประเภทไขว่คว้าหา American Dream ของคนเชื้อสายอิตาเลียน หนังแบบนี้ท้ายที่สุดแล้วล้วนแต่สดุดีคุณสมบัติหนึ่งที่ประเทศอเมริกาภูมิใจมาก นั่นคือการเป็น “ดินแดนแห่งโอกาส” ไม่ว่าจะยากจนมา หนีสงครามมา หรืออดอยากมาจากไหน แผ่นดินอเมริกาพร้อมต้อนรับและพร้อมให้ทุกคนปลูกพืชพรรณให้ออกดอกผล ให้เผ่าพันธุ์ต่างถิ่นงอกงามบนดินของทวีปใหม่ จะโดนรังแก เหยียดผิว หรือดูถูกอะไรก็ตาม อเมริกายังให้โอกาสคนทำงานหนักได้พิสูจน์ตัวเองเสมอ – หนังแบบนี้ล่ะที่ออสการ์ชอบ เพราะมันโปรโมท “ค่านิยมแบบอเมริกา” และอุดมคติความหลากหลายที่ประกอบสร้างขึ้นเป็นชาติ (ส่วนความจริงบนท้องถนนก็อีกเรื่องนะครับ)
Minari ดำเนินตามสูตรที่ว่า สตีเฟน หยวน แสดงเป็น เจค็อบ คนเกาหลีที่ย้ายถิ่นฐานมาอเมริกาเพื่อทำงานส่งเงินกลับบ้าน เมียเขาคือ โมนิก้า (ฮาน เยรี) ทั้งสองพร้อมด้วยลูกสาวและลูกชาย แอนน์กับเดวิด (โนเอล โช และ อลัน คิม) ตัดสินใจเสี่ยงโชคมาซื้อบ้านอยู่กลางทุ่งในเมืองห่างไกลในรัฐอาแคนซอว์เพื่อทำฟาร์มและสร้างธุรกิจของตัวเอง เพราะเจค็อบเห็นว่ายอมวัดดวงแบบนี้ดีกว่าทำงานโรงงานแยกไก่ไปจนตาย ไม่นานหลังจากนั้นสองผัวเมียตัดสินใจพาแม่ของโมนิก้า หรือยายของเด็ก ๆ ขึ้นเครื่องมาจากเกาหลีเพื่อมาอยู่ด้วยและช่วยดูแลบ้านในขณะที่สองสามีภรรยาต้องทำงานหนัก เพราะต้องส่งแบงค์ ต้องต่อสู้กับสภาพแวดล้อม ต้องปรับตัวเข้ากับสังคมอเมริกันบ้านนอก และเพื่อสร้างความฝันของตนให้เป็นจริง
สิ่งที่ Minari ของผู้กำกับลี ไอแซค ชุง แตกต่างจากหนังสร้างตัวเรื่องอื่น ๆ คือความน้อย ไม่เล่นใหญ่ ไม่บิลท์แรง ไม่โหมกระพือ แต่ใช้ความนิ่ง เงียบ เรียบง่าย และสถานการณ์เล็ก ๆ ระหว่างทางเพื่อสร้างตัวละครและบรรยากาศ โดยเฉพาะภาพวัฒนธรรมครอบครัวเกาหลี ทั้งเรื่องความกตัญญู อาหารการกิน ฯลฯ แต่ในขณะเดียวกันหนังก็ทำให้เห็นว่าเจค็อบ (แต่ไม่ใช่โมนิก้า) พยายามเป็น “คนอเมริกัน” ทั้งในความคิดและการกระทำ เช่นการเชื่อมั่นในเหตุผล ความมุ่งมั่น การทำงานหนัก และปฏิเสธเรื่องเหนือธรรมชาติ (หนังทำให้เห็นว่า คนอเมริกันต่างหากที่เชื่อฮวงจุ้ยหรืออำนาจนอกเหนือการควบคุมต่าง ๆ มากกว่าคนเอเชียอย่างเจค็อบด้วยซ้ำ) เจค๊อบต้องการกลายเป็นคนอเมริกัน เพราะเขารู้ดีว่า หากต้องการเป็นส่วนหนึ่งของประเทศใหม่ เขาต้องรับเอาคุณค่าแบบอเมริกันที่ไม่ยึดโยงกับเชื้อชาติหรือถิ่นกำเนิด เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของตัวตนอย่างแนบแน่น
หนังได้อานิสงส์อย่างมากจากการแสดงของดารานำทุกคน ไม่ใช่แค่ สตีเฟน หยวน และ ยอน ยูจุง (ที่แสดงเป็นคุณยาย) ทั้งสองได้เข้าชิงดารานำชาย และดาราประกอบหญิง ตามลำดับ แต่การแสดงที่ทำให้หนังโดดเด่นรวมถึงฮาน เยรี และดาราเด็กสองคนด้วย จริง ๆ ฮาน เยรี น่าจะได้เข้าชิงนำดาราหญิงด้วยซ้ำ (แต่โควตาคงเต็ม) เพราะถ้าไม่ได้นักแสดงที่เข้าใจบทและไม่สามารถสร้างความซับซ้อนทางความรู้สึก Minari จะกลายเป็นหนังชีวิตธรรมดา ๆ ไปเลย
อย่างที่ว่าไว้ข้างต้น Minari ออกฉายในช่วงเวลาที่กระแส Hate Crime ต่อคนเชียในอเมริกาเพิ่มสูงขึ้น (ส่วนหนึ่งเป็นผลจากการได้ใจของฝ่ายขวาและพวกคลั่งเชื้อชาติ รวมทั้งอคติจากความเชื่อที่ว่าไวรัสโคโรนาเป็น “ไวรัสจีน”) Minari แสดงให้เห็นว่าคนเกาหลีหรือคนเอเชียเชื้อชาติอื่น ๆ ทำสิ่งเดียวกับที่คนขาวยุคบุกเบิกทำเมื่อแรกอพยพมาตั้งถิ่นฐานในทวีปใหม่นี้ นั่นคือการแผ้วถางที่ดินและปลูกพืช ต่อสู้กับภัยธรรมชาติและภาวนาว่าทุกอย่างจะงอกงาม ท้ายที่สุดแล้ว เจค็อบและครอบครัวของรู้ดีกว่าจะปลูกผักเกาหลีหรือผักอะไรก็ตาม สุดท้ายแล้วผลลัพธ์ที่งอกเงยจากพื้นดินเป็นได้เพียงอย่างเดียว คือ “อเมริกัน”
Minari เข้าฉายวันที่ 6 เมษายนนี้
อัลบั้มภาพ 12 ภาพ