Minari ชาวเกาหลีในดินแดนอเมริกา หนังหวังรางวัลออสการ์ปีนี้

Minari ชาวเกาหลีในดินแดนอเมริกา หนังหวังรางวัลออสการ์ปีนี้

Minari ชาวเกาหลีในดินแดนอเมริกา หนังหวังรางวัลออสการ์ปีนี้
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

 

Minari เป็นผลงานของผู้กำกับลูกครึ่งอเมริกัน-เกาหลีใต้ อย่าง อี ไอแซค จอง เล่าเรื่องราวชีวิตของชาวเกาหลีครอบครัวหนึ่ง ที่อพยพมาอยู่ตั้งรากฐานอยู่ในรัฐอาร์คันซอ สหรัฐอเมริกา ช่วงยุค 80 พวกเขาตั้งต้นเป็นชาวสวนชาวไร่ในดินแดนที่ยังไม่คุ้นเคย พร้อมกับแวดล้อมสังคมที่ยังต้องปรับตัวและเรียนรู้ โดยเป็นผลงานเขียนบทของผู้กำกับฯ ที่ได้แรงบันดาลใจส่วนหนึ่งมาจากชีวิตวัยเด็กของตัวเองกับครอบครัว

 

สมุนไพรพื้นบ้านสู่ชื่อหนังที่คุณจะต้องจดจำไปอีกนาน

มินารี คือสมุนไพรพื้นบ้านเกาหลีที่มีกลิ่นฉุน แต่สำหรับหนังเรื่อง Minari เองเต็มไปด้วยความอ่อนโยน ตลก สุดลึกซึ้ง บอกเล่าเรื่องราวของครอบครัวหนึ่งที่พร้อมเดิมพันทุกอย่าง ขอเพาะปลูกความฝันเพื่อสร้างอนาคตที่ดีกว่า ถ่ายทอดจากความทรงจำของตัวผู้กำกับเอง แม้ว่าเส้นเรื่องของ Minari อาจจะไม่ได้ฟังดูใหม่อะไร กับเรื่องราวของครอบครัวชาวเกาหลีอพยพที่มาล่าฝันอเมริกันชน แต่ผู้กำกับ อี ไอแซค จอง เติมความสดใหม่ลงไป พร้อมตีแผ่ความสำคัญของสถาบันครอบครัว

ตัวหนังจะเล่าไปถึง เจค็อบ หนุ่มเกาหลีที่เพิ่งย้ายมาอยู่ที่อเมริกา ตัดสินใจพาครอบครัวของเขาย้ายบ้านจากแคลิฟอร์เนียมาที่อาร์คันซอ ในยุค 80 หวังว่าจะหาเลี้ยงชีพด้วยการเป็นชาวไร่ แม้ว่าที่ดินของเขาจะแห้งแล้งปลูกอะไรแทบไม่ขึ้นก็ตาม ขณะที่เจค็อบมองอาร์คันซอว่าเป็นโอกาสให้เริ่มใหม่ ทว่าสมาชิกคนอื่นๆ ในครอบครัวกลับคิดว่าเป็นการเอาอนาคตไปทิ้ง ต้องมาเริ่มชีวิตใหม่โดยมีแค่ที่ดินแปลงเล็กๆ ห่างไกลความเจริญ แต่ 2 สมาชิกต่างขั้วของบ้านที่คอยประสานครอบครัวนี้เอาไว้ ฝั่งหนึ่งคือเด็กชายวัยเจ็ดขวบ เดวิด และคู่ปรับอย่าง ซุนจา คุณยายที่เพิ่งลงเครื่องจากเกาหลีมาสดๆ ร้อนๆ แม้ว่าในตอนแรกความเปลี่ยนแปลงอาจทำให้ครอบครัวไม่ลงรอยกัน แต่เมื่อไม่นานพวกเขาค้นพบว่าความแตกต่างของแต่ละคนนี่แหละที่ทำให้สายสัมพันธ์ของครอบครัวแน่นแฟ้นยิ่งขึ้น

ผลงานภาพยนตร์เรื่องที่สี่โดยจอง Minari เป็นเรื่องราวที่เขาอยากเล่ามาตลอด ภาพยนตร์ที่ถ่ายทอดเรื่องราวส่วนตัว คือการประสานของสองวัฒนธรรมที่หล่อหลอมเข้าขึ้นมาจองเติบโตมาในรัฐอาร์คันซอ เป็นลูกชายของผู้อพยพชาวเกาหลีใต้ ก่อนหน้านี้เขายังไม่พบแรงบันดาลใจให้แบ่งปันเรื่องความเป็นมาของครอบครัวเขามาก่อน จนกระทั่งเขาให้กำเนิดตัวละครเดวิด (เขาใช้เดวิดเป็นตัวแทนในการเล่าชีวิตของตัวเอง) เดวิดเปิดโอกาสให้เขาถ่ายทอดความทรงจำอันเลือนรางให้กลับมาแจ่มชัดและสดใสอีกครั้ง เดวิดยังเป็นตัวละครที่จะทำให้ผู้ชมได้ประทับใจกับความงดงามท่ามกลางชีวิตที่ไม่สมบูรณ์แบบ

ด้วยความที่เขาเด็กเกินกว่าจะเข้าใจความหมายของคำว่าผู้อพยพ เดวิดกลายเป็นศูนย์รวมใจของครอบครัวที่กำลังไร้ที่ยึดเหนี่ยว เมื่อแผ่นดินอันแห้งแล้งของอาร์คันซอเริ่มทำให้ความฝันของแต่ละคนในครอบครัวเหือดแห้ง จองได้มีโอกาสสำรวจว่าครอบครัวจะรับมือกับเรื่องราวต่างๆ ที่ถาโถมขณะที่ต้องปรับตัวให้เข้ากับชีวิตชนบทในอเมริกาอย่างไร และยังตั้งคำถามที่กว้างกว่านั้นถึงความเป็นมนุษย์ ทางเลือกระหว่างพันธะครอบครัวและอิสระ, ศรัทธาและการเคลือบแคลง, ความรู้สึกเป็นคนนอกและความต้องการเป็นที่ยอมรับ

 

เล่าชีวิตจริงให้ลูกสาวฟัง ด้วยการทำหนัง!

ความตั้งใจแรกในการสร้าง Minari ของอี ไอแซค จองเริ่มขึ้นเพราะเขาต้องการที่จะเล่าชีวิตในวัยเด็กของตัวเองให้กับลูกสาวได้ฟัง ว่า พ่อแม่ของเขาต้องเสียสละอะไรบ้างเพื่อให้ได้มาตั้งรกรากในอเมริกา แล้วอุปสรรคทุกอย่างที่เขาเคยเผชิญมีความหมายกับเขาอย่างไร

ตอนที่อี ไอแซค เริ่มเขียนบทหนังเรื่องนี้ คือการที่เขาคิดว่า ถ้าหากเขาจำเป็นต้องทิ้งเรื่องราวสักเรื่องไว้ให้ลูกสาวได้อ่านนั้น จะเกี่ยวกับเรื่องอะไร เขาจึงลองไล่เรียงทบทวนความทรงจำของตัวเองว่า ในสมัยที่เขาอายุเท่ากับลูกสาวนั้นมีอะไรบ้าง ซึ่งตอนแรกนั้นเขาเขียนออกมาได้มากกว่า 80 เรื่อง อาทิ เรื่องที่พ่อแม่ทะเลาะกันสมัยยังอยู่ที่รัฐอาร์คันซอ คนงานพื้นเมืองให้พ่อของเขาแบกไม้กางเขนเดินไปรอบเมือง ตอนที่ยายเผลอทำไฟไหม้ไปครึ่งไร่ เมื่อหลายๆเรื่องรวมกัน ไอแซคก็พบว่านี่อาจจะเป็นเรื่องที่เขาอยากจะถ่ายทอดออกมาเป็นภาพยนตร์มาโดยตลอด

หนังเรื่อง Minari จึงเปรียบเสมือนจดหมายรักที่เขามีต่อพ่อแม่ของตัวเอง นอกจากนี้ยังรวมไปถึงพ่อแม่ของทุกคนที่ยอมเสียสละชีวิตอันแสนสุขสบายของตัวเองเพื่ออนาคตที่ดีกว่าของลูก แม้ว่าในหนังเรื่องนี้จะเป็นการแต่งขึ้นมาและเสริมความดราม่าเข้าไป แต่เขาก็หวังอยู่ลึกๆว่าหนังเรื่องนี้จะเปรียบเสมือนการคารวะพ่อแม่ที่กรุยหนทางอเมริกันชนไว้ให้เขา และยังเป็นของขวัญให้ลูกสาวของตัวเองตอนที่เธอโตพอจะเข้าใจ

Minari เป็นก้าวใหม่ที่ทำให้ตัวอี ไอแซคเลือกทำอะไรที่ต่างออกไป มันเป็นสิ่งที่กลั่นกรองมาจากในตัวเขา แต่ในอีกมุมมันคือการเดิมพันครั้งสำคัญ การมอบชีวิตให้เด็กชายที่ชื่อเดวิด ซึ่งเป็นศูนย์รวมความแสบสไตล์เด็กผู้ชาย ความโกรธและกดดันจากการปรับตัวกับสภาพแวดล้อมใหม่ๆ มอบโอกาสให้ไอแซคนั้นได้กลับไปสำรวจความทรงจำของตัวเองอีกครั้ง

Minari เข้าฉายในโรงภาพยนตร์แล้ววันนี้

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook