[ขุดหนังเก่ามารีวิว] The Game เกมเปลี่ยนชีวิต ชนิดหักมุมจนหน้าหงาย
นิโคลัส (ไมเคิล ดักลาส) นักธุรกิจหนุ่มรุ่นใหญ่ผู้บริหารกิจการครอบครัวด้วยความเคร่งเครียด ชีวิตอันแสนโดดเดี่ยวของเขาดูเหมือนจะราบรื่นดี ในงานวันเกิดของน้องชายอย่างคอนราด (ฌอน เพนน์) เขาได้มอบนามบัตรบริษัท CRS ที่พร้อมจัดหาความสุขผ่านเกมลึกลับที่อาจจะเริ่มต้นขึ้นได้ทุกเมื่อ ไม่นานนักหลังจากที่นิโคลัสเดินทางกลับบ้าน เขาก็ได้พบกับตุ๊กตาตัวตลกนอนคว่ำอยู่ในสภาพเดียวกับพ่อของตัวเองที่เคยฆ่าตัวตายในบ้านหลังนี้เมื่อนานมาแล้ว นิโคลัสเริ่มฉุกคิดได้ว่าวินาทีนี้เกมอาจจะเริ่มต้นขึ้นแล้ว
สถานการณ์รอบตัวของนิโคลัสเองเริ่มสับสนไปหมด ราวกับว่ามีคนกำลังจัดฉากให้เขาต้องเผชิญหน้ากับเหตุการณ์ตื่นเต้นระทึกขวัญที่ไม่อาจคาดเดาได้ เจอผู้คนที่เขาไม่เคยรู้จัก เริ่มโดนคุกคามเอาชีวิต เงินในบัญชีถูกยักยอกออกไปจนเกลี้ยง แถมความพยายามในการยุติเกมนี้ก็ไม่บรรลุผล เพราะบริษัทนี้ไม่เคยมีการถูกจดทะเบียนไว้ตั้งแต่แรก ตกลงความจริงคืออะไร แล้วสรุปใครกันแน่ที่อยู่เบื้องหลังทั้งหมดนี้
ความชาญฉลาดของบท The Game คือการทิ้งปมปริศนาตามรายทางให้คนดูอยากจะเอาใจช่วยนิโคลัสให้รอดพ้นจากสถานการณ์ทั้งหลาย เมื่อเรื่องราวยิ่งดำเนินไป ความรุนแรงในสิ่งที่เขาต้องเจอก็มากขึ้นเรื่อยๆ จนคนดูเองก็เริ่มไม่แน่ใจแล้วว่า ตกลงเกมที่เขาต้องเล่นนั้นเป็นทฤษฎีสมคบคิดของใครสักคน ซึ่งอยากให้เขาตายและฉกเอาทรัพย์สินรวมถึงมรดกไปหรือเปล่า แต่ไม่ว่าเราจะคาดเดาไปต่างๆนานาๆเมื่อทุกอย่างดำเนินมาถึงไคลแมกซ์ที่เราคิดว่าทุกอย่างน่าจะจบลงแล้ว มันก็หาได้เป็นอย่างนั้นไม่ เพราะทุกสิ่งที่เราได้เห็นในหนังเรื่องอาจจะเป็นเพียงแค่ “ภาพลวงตา” ก็เป็นได้
ถ้าจะให้พูดถึงคุณงามความดีของ The Game คือมันเป็นหนังหักมุมที่มาพร้อมบทเฉียบคม เรื่องราวตื่นเต้นอันแสนบีบหัวใจ ก่อนที่จะขมวดปมเพื่อทำให้คนดูมองเห็นว่าแท้ที่จริงแล้ว มนุษย์เรานั้นก็ไม่ได้ต้องการอะไรมากมายไปกว่าการรู้จักเห็นอกเห็นใจเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน และเรียนรู้ ทำความเข้าใจความสูญเสียในชีวิตด้วยความเห็นอกเห็นใจอย่างมีมนุษยธรรมเท่านั้นเอง
เปิดดูได้ใน Netflix