[รีวิว] สตรีหาญ ฉางเกอ: สงคราม ความรักที่ฟินและดุเดือดไปพร้อมๆ กัน

[รีวิว] สตรีหาญ ฉางเกอ: สงคราม ความรักที่ฟินและดุเดือดไปพร้อมๆ กัน

[รีวิว] สตรีหาญ ฉางเกอ: สงคราม ความรักที่ฟินและดุเดือดไปพร้อมๆ กัน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

สตรีหาญ ฉางเกอ (The Long March of Princess Changge) ซีรีส์อิงประวัติศาสตร์ฟอร์มยักษ์ ดัดแปลงมาจากมังงะเรื่อง ฉางเกอฉิง (Chang Ge Xing) ที่เขียนโดย Xia Da โดยหยิบเอาเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงในประวัติศาสตร์ช่วงต้น ‘ราชวงศ์ถัง’ คือ ‘เหตุการณ์ประตูเสวียนหวู่’ เหตุการณ์สำคัญครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์จีน ช่วงปลายรัชสมัย ‘จักรพรรดิถังเกาจู่’ ผู้ก่อตั้งราชวงศ์ถังมาเป็นหัวเชื้อในการเล่าเรื่อง แล้วใส่ตัวเอกที่เปรียบดั่ง วีรสตรีสะบักสะบอมนางหนึ่งที่โดนยิงธนูแล้ว โดนยิงธนูอีก เข้าไปเป็นบุคคลสำคัญของเรื่อง คือ ‘ฉางเกอ’ นางเอกของเรื่อง จนได้พบรักกับ ‘อาซือเล่อสุ่น’ พระเอกของเรื่อง ผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นทั้งมิตรและศัตรู

สตรีหาญ ฉางเกอ (The Long Ballad)

ตามประวัติศาสตร์จีนเล่าไว้ว่า องค์ชายรอง ‘หลี่ซื่อหมิน’ พร้อมกำลังทหารได้ชิงลงมือปลงพระชนม์ องค์ชายรัชทายาท ‘หลี่เจี้ยนเฉิง’  และองค์ชายสี่ ‘หลี่เหวียนจี๋’  ที่ประตูเสวียนอู่ซึ่งเป็นประตูทางด้านเหนือของพระราชวังหลวงแห่งฉางอัน ทำให้องค์ชายรอง หลี่ซื่อหมิน ได้รับการสถาปนาเป็นรัชทายาทต่อจาก หลี่เหวียนจี๋ พี่ชายและในอีก 6 วันต่อมา จักรพรรดิถังเกาจู่สละราชบัลลังก์ ทำให้องค์ชายหลี่ซื่อหมิน ได้สืบราชบัลลังก์เป็น ‘จักรพรรดิถังไท่จง’  แน่นอนว่า ‘ฉางเกอ’ ไม่มีตัวตนจริงในประวัติศาสตร์ แต่มีตัวตนโดดเด่นเป็นนางเอกสมองแหลมอยู่ในเรื่องนี้ อย่างกับมีตัวตนจริง ๆ อย่างนั้นแหละ

ทำความเข้าใจสำหรับผู้ที่ยังไม่เคยดูซีรีส์เรื่องนี้ หรือเพิ่งเคยดูซีรีส์จีนกันก่อนสักนิดค่ะ กับตำแหน่งต่าง ๆ ที่จะได้พบเจอในเรื่อง เพราะซีรีส์เรื่องนี้จะใช้คำซึ่งเป็นตำแหน่งของเชื้อพระวงศ์ ที่บางท่านอาจไม่คุ้นเคย ‘ไท่จื่อ’ หมายถึง รัชทายาท มีอำนาจทุกอย่างรองจากฮ่องเต้ บุตรีของไท่จื่อ จะมีตำแหน่งเป็น ‘จวิ้นจู่’ คือองค์หญิงหรือท่านหญิง เป็นตำแหน่งเชื้อพระวงศ์หญิงลำดับที่ 3 ส่วนบุตรีของ ‘อ๋อง’ จะมีตำแหน่งเป็น ‘เซี่ยนจู่’ ก็คือองค์หญิงหรือท่านหญิง เหมือนกับจวิ้นจู่ แต่เป็นตำแหน่งเชื้อพระวงศ์หญิงลำดับที่ 4

‘หลี่ฉางเกอ’ หรือ ‘หย่งหนิงจวิ้นจู่’ (ตี๋ลี่เร่อปา)

ซีรีส์หยิบ ‘เหตุการณ์ประตูเสวียนหวู่’ มาเล่าว่า ‘หลี่ฉางเกอ’ หรือ ‘หย่งหนิงจวิ้นจู่’ (ตี๋ลี่เร่อปา) บุตรีของ ‘หลี่เจี้ยนเฉิง’ ไท่จื่อในขณะนั้น รอดชีวิตจากเงื้อมมือของ ‘หลี่ซื่อหมิน’ หรือ ‘ฉินอ๋อง’ ผู้ซึ่งเป็นอาแท้ ๆ ในคราวที่มีการสังหารหมู่ทั้งตระกูล ในชีวิตปกติ หลี่ฉางเกอ มักชอบแต่งกายเป็นชายออกไปนอกวังเป็นประจำ และเป็นสตรีที่มีวรยุทธ์สูงส่ง ฉลาดเป็นกรด เชี่ยวชาญพิชัยสงคราม นางเก่งขนาดนี้มาได้ก็ด้วยการอบรมสั่งสอนจาก หลี่ซื่อหมิน ผู้ฆ่าพ่อฆ่าแม่ของนางเองนี่แหละ ฉะนั้นความสัมพันธ์ของตัวละครสองตัวนี้ ลึกซึ้งมากมายจนใจเจ็บ

หลี่ฉางเกอ หนีการจับกุมหัวซุกหัวซุน และพกความแค้นเอาไว้เต็มพิกัด ตั้งมั่นแน่วแน่ว่าจะทำทุกวิถีทางเพื่อนำกำลังกลับมาฆ่า หลี่ซื่อหมิน ให้ได้ โดยไม่เข้าใจเลยสักนิดว่าอาแท้ ๆ ที่ตัวเองรักเหมือนพ่อ ทำไมต้องฆ่าพ่อและแม่ของตัวเองเพียงเพื่อจะเป็นไท่จื่อ ซึ่งประวัติศาสตร์ส่วนนี้ได้เล่าไว้ว่า หลี่ซื่อหมิน ซึ่งเป็นฉิ๋นอ๋องในขณะนั้น ไม่กินเส้นกับพี่ตัวเองและ ฉี๋อ๋อง น้องชาย แต่ก็หูดีทราบข่าวมาว่า ไท่จื่อ และฉี๋อ่อง กำลังร่วมมือกันวางแผนกำจัดตนเอง ก็ชิงลงมือก่อน หลอกสองคนนั้นไปที่ประตูเสวียนหวู่ แล้วปลิดชีพซะ แม่นางเอกรู้เพราะไปแอบได้ยินสามีตัวเองวางแผนกำจัด หลี่ซื่อหมิน นักประวัติศาสตร์รู้ คนเขียนก็รู้แต่ นางเอกไม่รู้จ้ะ

‘หลี่เล่อเยียน’ หรือ ‘หย่งอันจวิ้นจู่’ (จ้าวลู่ซือ)

นางก็หนีไปด้วยความแค้น เสียใจและทำให้ความรู้สึกที่มีต่อ ‘หลี่เล่อเยียน’ (จ้าวลู่ซือ) น้องสาวที่เติบโตมาด้วยกันตั้งแต่เล็ก ๆ รักใคร่กลมเกลียวกับมาตลอดต้องเปลี่ยนไป เพราะ หลี่เล่อเยียน คือลูกสาวของ หลี่ซื่อหมิน เหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้ หลี่เล่อเยียน ได้เปลี่ยนสถานะจาก ‘เซี่ยนจู่’ กลายเป็น ‘หย่งอันจวิ้นจู่’ ไปโดยปริยาย นางพยายามช่วยฉางเกอ อย่างสุดความสามารถ เท่าที่ผู้หญิงบอบบางคนหนึ่งจะทำได้ แต่ฉางเกอก็ยังถูกทางการตามล่าจนได้รับบาดเจ็บและได้รับความช่วยเหลือจาก ‘อาซือเล่อสุ่น’ (อู๋เหล่ย) บุตรบุญธรรมของ ‘ต้าเค่อหาน’ ผู้นำของทัพอิงซือแห่งเผ่าอาซือเล่อ หรือชนเผ่าทุ่งหญ้า ที่เข้ามาสอดแนมในฉางอัน เพื่อวางแผนยึดเมือง

อาซือเล่อสุ่น แนะนำตัวเองว่าชื่อ ‘อาจุ่น’ และฉางเกอเองให้เขาเรียกนางว่า ‘สิบสี่’ สองคนผูกมิตรต่อกัน ชนจอกเหล้ากันประหนึ่งชายชาตรี ณ จุดนี้นางเอกก็เป็นเจ้าฮะนั่นแหละจ้ะ ละครไทยผู้หญิงติดหนวดแล้วปลอมเป็นชาย ของจีนหนักกว่าเยอะ แค่เปลี่ยนมาใส่เสื้อผ้าผู้ชาย บนหัวไม่มีปิ่นปักผมก็เป็นผู้ชายได้แล้ว แต่เรื่องนี้ ตี๋ลี่เร่อปาแต่งชายแล้วหล่อมาก ลุคหลัวแห่งชาติกันเลยทีเดียว

‘อาซือเล่อสุ่น’ (อู๋เหล่ย)

สองคนแยกย้ายไปทำภารกิจของตัวเอง ฉางเกอเดินทางมาจนถึงเมือง ‘ซั่วโจ’ ใจหมายจะให้ท่านเจ้าเมืองร่วมภารกิจแก้แค้น แต่ความรักชาติรักแผ่นดินที่มีอยู่ในหัวใจเต็มเปี่ยมของ ฉางเกอ ทำให้ต้องพักเรื่องส่วนตัวเอาไว้ก่อน เพราะข้าศึกมาประชิดชายแดนอยู่ตรงหน้า อาซือเล่อสุ่น นำทัพอิงซือ ทัพที่เกรียงไกรที่สุดในเผ่าอาซือเล่อ มาบุกเมืองซั่วโจ ฉางเกอในขณะนั้น แสดงความสามารถจนเจ้าเมืองเห็นถึงไหวพริบและสมองอันแหลมคมในการพิชัยสงคราม แต่งตั้งให้ฉางเกอเป็น ‘ผู้บัญชาการทัพ’

ในการศึกเมืองซั่วโจครั้งนี้ ทำให้พระ-นางต้องมารบกันเอง พระเอกรู้ว่าคนที่ยืนสั่งการอยู่บนป้อมคือ ฉางเกอ หญิงที่เขาให้ความสนใจ คือเขารู้แต่แรกแล้วว่านางเป็นหญิงที่แต่งกายเป็นชาย แต่นางเอกไม่รู้ และไม่รู้มากขึ้นไปอีกว่าชายบนหลังม้าผู้ซึ่งมีฉายาว่า ‘เทพแห่งสงคราม’ คือ ‘อาจุ่น’ ที่เคยช่วยชีวิตนางไว้ รบไปรบมามีฝ่ายหนึ่งพ่ายแพ้ต้องยอมจำนน ความจริงเปิดเผยว่า อาจุ่น คือใครและสงครามครั้งนี้ก็นำไปสู่เรื่องราวที่เป็นทั้ง มิตรภาพ ความรักและความหมายของการมีชีวิตอยู่ของตัวละครทุกตัวในเรื่อง

บทฟาด ๆ เรียกน้ำตาและความฮึกเหิม

ต้องยอมรับเลยว่าซีรีส์อิงประวัติศาสตร์ของจีนหลาย ๆ เรื่อง การผุดตัวละครที่ไม่มีในประวัติศาตร์ให้เข้าไปมีบทบาทในเรื่อง เป็นที่น่าสนใจและน่าติดตาม ซึ่งเรื่องนี้ ฉางเกอ ฉายแสงมาก เป็นนางเอกที่เก่งแบบเชื่อได้ มีเหตุผลที่มาที่ไปของความเก่ง ไม่ใช่เกิดมาแล้วเก่งเลย ถ้าจะมองว่าเรื่องนี้เป็นซีรีส์รักโรแมนติก ใช่ค่ะมันเป็นแบบนั้น แต่เป็นความโรแมนติกแบบเท่ ๆ ปนน่ารักให้ตะมุตะมิได้หลาย ๆ คู่ ได้โปรดจับตาดูคู่รองไว้เลยค่ะ ‘หย่งอันจวิ้นจู่’ และองครักษ์ ‘ฮ่าวตู’ (หลิวอวี่หนิง) คุณจะต้องลุ้นไปกับความรักของคู่นี้แน่นอน

‘ฮ่าวตู’ (หลิวอวี่หนิง)

ความสัมพันธ์ของตัวละคร สามารถพาคนดูอินไปได้กับทุก ๆ ความรู้สึกของตัวละครแต่ละตัว จัดอยู่ในขั้นลื่นไหลและดึงอารมณ์ให้คล้อยตามอย่างง่ายดาย ความรู้สึกของคนที่ต้องสูญเสียแม่อันเป็นที่รักไปด้วยน้ำมือของอา ที่ก็รักมากมายโดยที่ตัวเองไม่รู้ที่มาที่ไปของเหตุแห่งการปลิดชีวิต มันทั้งเศร้าและแค้นในเวลาเดียวกันซึ่ง ‘ตี๋ลี่เร่อปา’ นางเอกแถวหน้าของจีนรายนี้ก็ถ่ายทอดมันออกมาได้จับใจคนดู เป็นเจ้าฮะที่เท่และมีลุคหลัวแห่งชาติ จนต้องมองแล้วมองอีกกันเลยทีเดียว

หลี่เล่อเยียน – ฮ่าวตู

บทในเรื่องนี้ดราม่าเน้น ๆ เลยนะคะ ทั้งดราม่าเรียกน้ำตาที่จะทำให้เราอินกับเหตุการณ์ในเรื่อง และความฟินจิกหมอน ที่สายจิกหมอนต้องยิ้มกันแก้มแตก บทสามารถดึงดราม่ากันได้ทุกช่วงชีวิตของตัวละคร ที่ไม่ได้เน้นเฉพาะที่ตัวฉางเกอเพียงตัวเดียว ทุกชีวิตที่โลดแล่นอยู่ในเรื่อง มีบทบาทมีสตอรี่ให้ติดตาม มีความคิดความรู้สึกของตัวละครทำให้เห็นถึงการพัฒนาทางอารมณ์ ความคิด วุฒิภาวะ ที่สามารถเป็นฉากจำลองชีวิตให้กับใครหลาย ๆ คนได้สบาย ๆ

ดำเนินเรื่องเลิศ ใช้เทคนิคได้อย่างฉลาด

หรือหากจะมองว่าซีรีส์เรื่องนี้คือซีรีส์สงคราม การสู้รบ ก็ทำได้ในจุดที่ต้องปรบมือให้ จุดไฟในตัวกันสุด ๆ ในฉากสงคราม และในอีกหลาย ๆ ฉากที่ดูจะมีความเสี่ยงสูงกับตัวนักแสดง ความสมจริง หรือความสวยงามที่อยากให้แปลกตาออกไป ซีรีส์ใช้การผสมผสานกราฟิกอนิเมะ 2D เข้าไปด้วย และมีมาอยู่ในฉากที่สมเหตุสมผลตลอดทั้งเรื่อง ไม่มาก ไม่น้อยจนเกินไปและที่สำคัญมันเข้ากันดีกับเนื้อเรื่องซะด้วยสิ โดยเฉพาะฉากสงครามที่มันถึงใจเอามาก ๆ ดูไปกัดฟันไปจ้ะ ลุ้นตัวโก่งประหนึ่งว่าเป็นสหายร่วมรบกับนางเอกเลยทีเดียว ตี๋ลี่เร่อปา ก็ฟาดอีกแล้วในฉากเหล่านี้ เพราะทั้งสวย เก่ง เท่ หาใดเปรียบปาน

สตรีหาญ ฉางเกอ

การดำเนินเรื่องสำหรับซีรีส์เรื่องนี้ แนะนำว่าดูไปถึงตอนที่ 3 แล้วให้ย้อนกลับมาดูตอนที่ 1 และ 2 อีกครั้ง รับรองว่าจะเข้าใจและอินไปกับตอนต่อ ๆ ไปได้ง่ายขึ้น เพราะสองตอนแรกตัวละครจะเรียงหน้ากันมาให้จดจำ บวกกับการเล่าเรื่องที่เป็นจุดกำเนิดจะรวบรัดจนบางครั้งก็พาเอางงอยู่บ้างเหมือนกันค่ะ แต่หลังจากนั้นจะสามารถปล่อยไปยาว ๆ ดูเพลิน ๆ จนมารู้ตัวอีกทีก็อ้าว เฮ้ย จบตอนแล้วเหรอ ดูต่ออีกได้ไหมกันได้ง่าย ๆ

ปมเยอะและเปิดเผยบิ๊กบอสแบบตบเข่าฉาด

ซีรีส์เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ‘อย่าเพิ่งเชื่อในสิ่งที่ตาเห็น’ อย่าตัดสินคนเพียงภายนอกจ้ะ เป็นการเรียนรู้ที่ตัวแสดงในเรื่องได้ประสบพบเจอกับตัวเองและ ที่แน่ ๆ คนดูอย่างเราก็ได้รับความรู้สึกนั้นมาด้วย เป็นการส่งสาส์นสองชั้นที่สนุกสนาน ปมต่าง ๆ ที่ผูกกันไว้อยู่ในเรื่อง กว่าจะคลี่คลายและเปิดตัวบิ๊กบอส ก็นู่นค่ะปาไปตอนที่ 30 กว่า ๆ เข้าไปแล้ว แต่เป็นปมที่ค่อย ๆ แกะมาทีละนิดแบบเพลิน ๆ จริง ๆ บทบอสใหญ่ที่ซีรีส์เสิร์ฟออกมาแบบนี้ เกิดขึ้นมาแล้วในซีรีส์หลาย ๆ เรื่องนะคะ แต่ทั้งตัวแสดงและคนดูก็ยังจะถูกหลอกไปพร้อม ๆ กันได้ ถือว่าคนเขียนบทเก่งมาก ที่ทำให้เราลืมพล็อตที่เคยเกิดขึ้นแบบนี้มาแล้วได้หน้าตาเฉย

อาซือเล่อสุ่น – หลี่ฉางเกอ

แถมยังผุดตัวละครใหม่ ๆ มาให้รู้จักได้อีกเรื่อย ๆ ชนิดที่ว่า ยังไม่หมดอีกเหรอ นี่ใจคอจะขนนักแสดงสมทบงานดีมาเสิร์ฟกันไม่หยุดหย่อนเลยใช่ไหม ณ จุดนี้ดิฉันโดนนักแสดงสมทบตกไปหลายคนเลยจ้ะ แนะนำเลยว่าสำหรับสายอิงประวัติศาสตร์ที่ต้องการความโรแมนติก ฟิน จิกหมอนควบคู่ไปกับ การสู้รบ ฟาดฟัน ชิงไหวชิงพริบลับสมองให้แหลมเปี๊ยบ ซีรีส์เรื่องนี้คือคำตอบที่คุณไม่ควรพลาด

สตรีหาญ ฉางเกอ (The Long March of Princess Changge)

  • ดัดแปลงจากมังงะ : Chang Ge Xing ของ Xia Da
  • กำกับ : Chu Yui Bun
  • เขียนบท : Chang Jiang , Pei Yu Fei
  • แนว : โรแมนติก-ดราม่า อิงประวัติศาสตร์ สงคราม
  • จำนวนตอน : 49 ตอน มีทั้งซับไทยและพากย์ไทย
  • ช่องทางรับชม : Wetv

 

อัลบั้มภาพ 15 ภาพ

อัลบั้มภาพ 15 ภาพ ของ [รีวิว] สตรีหาญ ฉางเกอ: สงคราม ความรักที่ฟินและดุเดือดไปพร้อมๆ กัน

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook