แนนโน๊ะ รับบทนางคัมแบค ฟาดการศึกษาให้แหลก โดย แอดมินเพจกะเทยนิวส์

ค่ะ เทยทราบค่ะ ว่าชั่วโมงนี้ นาทีนี้ ก็คงไม่พูดถึงกระแสที่ร้อนแรงกรุบไม่ได้ กับซีรีส์ที่มาแรง ฟาดทุกอย่างที่ขวางหน้า กับ เด็กใหม่ Girl from Nowhere ซีซั่น 2 ซึ่งการกลับมาคราวนี้ ก็กลายเป็นจุดประเด็นเรื่องราวถกเถียงกันในโลกออนไลน์มากประมาณ งั้นมาค่ะ เรามาเมาท์มอยกันสำหรับเรื่องราวของซีรีส์เรื่องนี้

 

ยัยแนนโน๊ะ

 

เด็กใหม่ หรือ Girl from Nowhere แต่เดิมเป็นโปรเจ็คของทาง GMMTV ที่จับเอาผู้กำกับโฆษณาจากสตูดิโอตั่งต่าง มากำกับซีรีส์เรื่องเดียวกันแบบแยกตอนกัน เป็นแนว Concept Series โดยแต่ละคนจะได้โจทย์เป็น “เด็กใหม่” หนึ่งคน ที่จะเข้าไปท้าทายปัญหาความรุนแรง เรื่องฉาวโฉ่ในโรงเรียนประเด็นต่างๆ แต่ทว่าเด็กใหม่คนนั้นจะเป็นคนเดียวกันในทุกๆตอน เป็นใครมาจากไหนก็ไม่รู้ นางไม่มีความรู้สึก นางไม่เจ็บปวดจากการโดนแกล้ง โดนทำร้าย หรือแม้แต่โดนฆ่า นางมาเพื่อความสนุกเมื่อได้เห็นความผิดปกติของที่ต่างๆโดนลอกคราบ นางชื่อ “แนนโน๊ะ”

จากความสำเร็จจนเป็นที่พูดถึงในซีซั่นแรก กับท่าเต้นหน้าเสาธงในชุดนักเรียนในตำนาน และการเอาคืนอันสาสมต่อคนที่ทำตัวไม่ดีในรั้วโรงเรียน ทำให้แนนโน๊ะ ชีขึ้นตำแหน่งการเป็นสัญลักษณ์บางอย่างของโลกโซเชี่ยล ส่งผลให้ คิทตี้-ชิชา อมาตยกุล พร้อมกับทรงผมหน้าม้าของเธอ กลายเป็นไอคอนิคไปเลยเธอเอ๋ย

และครั้งนี้เธอกลับมาอีกครั้ง พร้อมกับพาตัวซีรีส์ขึ้นแท่นเป็น Netflix Original Series ในซีซั่นสอง พร้อมกับยกทีมโปรดักชั่นดีไซน์ใหม่ งานภาพใหม่ ทีมนักแสดงใหม่ ที่จะมาเอาคืนความไม่ยุติธรรมในแบบสาดเลือดกระจายกันไปข้างนึงเลย

 

“แนนโน๊ะ” ในซีซั่นสอง จะพาคนดูตะลุยไปกับ 8 ตอนที่เคยเป็นข่าวดังครึกโครมในหน้าหนังสือพิมพ์ ที่เกี่ยวกับความรุนแรง เพศ และการศึกษาที่วัยรุ่นจะต้องเผชิญในรั้วโรงเรียน หากแต่ครั้งนี้ แนนโน๊ะไม่ได้มาคนเดียว ดันมีเด็กใหม่อีกคน ที่เหมือนกำลังจะมาท้าทายแนนโน๊ะ เด็กใหม่อีกคนที่ไม่รู้มาจากไหน แต่เธอพยายามที่จะมาแทนที่แนนโน๊ะเข้าเสียแล้วล่ะเธอ

ซึ่งปรากฏการณ์แนนโน๊ะในครั้งนี้ ก็ดันทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์การศึกษากันขึ้นมาอีกครั้ง ประหนึ่งว่าชีแนนโน๊ะ ได้กลายเป็นสัญลักษณ์บางอย่างของการเอาคืนของวัยรุ่น ต่ออำนาจ หรือความไม่เป็นธรรมในรั้วโรงเรียนขึ้นมาซักอย่างนั้น

แนนโน๊ะในซีซั่นนี้ถูกพยายามให้เป็นตัวแทนกับการชำแหละปัญหาสังคมในลักษณะของการตั้งคำถาม หรืออาจจะถึงขั้นเป็นตัวแทนของการล้างระบอบอะไรบางอย่าง แต่มันติดตรงที่ว่า แนนโน๊ะไม่ได้เป็นแบบนั้นมาแต่แรก ซึ่งมันก็เลยทำให้แนนโน๊ะอยู่ในลักษณะของการปรับตัวไปเรื่อยตามตอนต่างๆมาแต่แรก แต่พอจะมารอบนี้จะให้แนนโน๊ะเป็นตัวแทนของการเซ็ตระบบใหม่ในบางประเด็น มันก็เลยทำให้บางอย่าง คนดูเกิดความสงสัยว่าเอ๊ะ มันยังไงนะแม่นะ

 

ในส่วนของเด็กใหม่อย่าง ยูริ ที่ตัวซีรีส์จะพยายามเอามาเป็นตัวแทนของความเลือดร้อนของวัยรุ่น หรืออาจจะหมายถึงฝ่ายซ้าย(?)ในทางการเมือง มีความ Animal Farm ตั่งต่างในตอนที่ 5 แต่พอเอาประกบคู่ให้เห็นการแก้แค้นด้วยวิธีที่ต่าง เลยสร้างความขัดแย้งให้กับคนดูเยอะจริง ซึ่งพอใส่ยูริเข้ามา ก็คือการทำให้ยูริเป็นตัวเตะ ผลักสถานการณ์ให้ไปไวขึ้น จนทำให้บางตอน ระบบสังคมล่ม และกลายเป็นอนาธิปไตยในบางจุด แล้วค่อยให้แนนโน๊ะกลับมาเป็นผู้คืนความสมดุลอีกที ซึ่งตรงนี้ ก็งงอยู่นะแม่นะ เพราะแนนโน๊ะ ไม่ได้เป็นผู้คืนความสมดุลในบางสถานการณ์ อย่างตอนรับน้อง แนนโน๊ะลงโทษเค ซึ่งก็เป็นเหยื่อในเหยื่ออีกที โดยตัวเธอก็ผนวกตัวเองกับปัญหาเพื่อแก้แค้นด้วยเหมือนกัน 

ซึ่งก็คงเป็นคำถามกลับไปหาคนดูว่า การจะฟาดระบบการศึกษา วิธีแบบค่อยๆจัดการไปทีละคนแบบแนนโน๊ะ หรือการเร่งสปีดให้พังกันไปข้างแบบยูริ อันไหนมันเวิร์คกว่ากันน้าาาาา

ก็คงเป็นจุดประสงค์ของซีซั่นนี้ ที่ต้องการให้ตัวซีรีส์ เป็นตัวแทนของการตั้งคำถามใส่สังคม ผ่านประเด็นต่างๆที่เป็นข่าวดัง เพราะคนดู กระแสตั่งต่าง ก็ดันชูให้แนนโน๊ะกลายเป็นตัวแทนบางอย่างของการเอาคืนสังคมที่ป่วยเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ก็เลยเหมือนเอาคำฮิตๆ ซีนฮิตๆ คำพูดเสียดสีระบอบที่ปรากฏในโลกออนไลน์ มาเรียงร้อยอีกที

คือประเทศไทยมันไม่มีวงการมังงะหรืออนิเมะมาก่อน แนนโน๊ะมันก็เลยโป้ง มาเสียบแทนจุดนั้นเลย แทนที่คนที่ต้องการความเบียวเพื่อแก้แค้นสังคมอ่ะเธอ

อย่างไรก็ตาม ก็เป็นซีรีส์ที่เซ็ตบาร์สูงไว้อีกเรื่อง ในแง่ของแฟนตาซีสยองขวัญ เสียดสีสังคม และงานคอนเทนต์ทีมีคุณภาพเรื่องหนึ่งอยู่ดีนะ

เหยี่ยวเทย รายงาน