[เปิด Netflix มารีวิว] Bad Teacher มาเป็นครูเพราะหนูหาเงินไปทำนม!

[เปิด Netflix มารีวิว] Bad Teacher มาเป็นครูเพราะหนูหาเงินไปทำนม!

[เปิด Netflix มารีวิว] Bad Teacher มาเป็นครูเพราะหนูหาเงินไปทำนม!
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

 

Bad Teacher เป็นผลงานการกำกับของเจค แคสแดน (โด่งดังหลังจากที่เขากลับมากำกับแฟรนชายส์ Jumanji: Welcome to the Jungle) บอกเล่าเรื่องราวของอลิซาเบธ ผู้เพิ่งถูกแฟนทิ้งได้ไม่นานจนต้องกลับไปทำงานเป็นคุณครูสอนเด็กม.1 ซึ่งเงินเดือนต่ำเตี้ย ไม่สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของตัวเองที่นิยมความไฮโวแต่โลว์อินคัมสุดๆ ดังนั้นความฝันอันสูงสุดตอนนี้ของเธอคือการไปอัพไซส์หน้าอกตัวเอง เอาไว้ล่อตาล่าใจผู้ชายคนใหม่ เพื่อที่เธอจะได้กลายเป็นหนูตกถังข้าวสารแบบเดิม

อลิซาเบธไม่เคยคิดจะสอนเด็กสักวินาทีเดียว ดังนั้นในชั้นเรียนของเธอมักจะเปิดหนังให้เด็กๆดูจนหมดชั่วโมง จนกระทั่งวันหนึ่งเธอเริ่มได้ไอเดียหารายได้เสริมเพื่อเก็บเงินไปเสริมเต้า ไม่ว่าจะแอบฮุบเงินกิจกรรมล้างรถของเด็กๆ เรี่ยไรเงินผู้ปกครองเพื่อแลกเกรดดีๆให้กับลูกของพวกเขา จนกระทั่งเธอเห็นว่าหนทางเดียวที่เธอจะได้เงินก้อนใหญ่คือการทำให้เด็กในชั้นเรียนของตัวเองทำคะแนนสอบระดับชาติในเกณฑ์ที่ติดท็อปเทน! แต่แทนที่จะใช้สมองสอน (ซึ่งเธอไม่ค่อยมี) เธอเลยใช้วิธีแอบไปขโมยข้อสอบมาติวเด็กๆมันซะเลย

แน่นอนว่าความสนุกสุดฮาของหนังเรื่องนี้ ส่วนหนึ่งต้องยกเครดิตให้กับการบริหารเสน่ห์ของคาเมรอน ดิเอซ ที่ทำให้คนดูเลือกที่จะไม่เกลียดตัวละครนี้ ทั้งที่เธอเป็นตัวละครชั่วร้ายและทำทุกอย่างเพื่อความสุขของตัวเองโดยไม่สนใจกฎหมาย ศีลธรรมอันดี หรือสิ่งที่ถูกที่ควร แต่ขณะเดียวกันเราจะได้เห็นว่านอกจากเธอจะต้องบรรลุในความต้องการของตัวเองแล้ว เธอยังต้องฟาดฟันกับเอมี่ สคอวรอล (ลูซี่ พันช์) เพื่อแย่งครูสุดหล่อบ้านรวยอย่างสก็อตต์ (จัสติน ทิมเบอร์เลค) มาเป็นของตัวเอง

ความน่าสนใจอยู่ตรงที่การฟาดฟันของสองครูสาวทั้งสองคน จากตอนแรกเป็นเพียงแค่ศึกชิงดีชิงเด่นทางหน้าที่การงาน ก่อนที่จะเริ่มกลายเป็นศึกแย่งผู้ชาย ก่อนจะกลายเป็นสงครามประสาทในการใส่ร้ายป้ายสีฝั่งตรงข้ามให้พังพินาศย่อยยับกันไปข้าง โดยวีรกรรมของตัวละครอลิซาเบธนั้นจัดได้ว่าชั่วร้ายแบบเต็มรูปแบบ แต่ความลงตัวของบทคือการเขียนให้ความชั่วร้ายของเอมี่นั้น ก็เป็นความชั่วร้ายในอีกรูปแบบ ซึ่งท้ายที่สุดแล้วผลก็คือศีลเสมอกัน (เลวทั้งคู่)

แน่นอนว่าช่วงเวลาที่ออกฉายในปี 2011 หนังเรื่องนี้โดนโจมตีว่าอาชีพครูนั้นไม่ควรมีภาพลักษณ์แบบตัวละครอลิซาเบธ เพราะหนังเรื่องนี้ไม่ได้ให้ “บทลงโทษ” กับตัวละครในแบบที่สังคมที่ดีควรจะเป็น แต่เราก็ลืมไปว่า ในสังคมทุกวันนี้นั้นคนโกงและใช้อิทธิพลมืดนั้นก็ยังเอาตัวรอดและลอยหน้าลอยตาอยู่ในสังคมแบบไม่มีอะไรเกิดขึ้นได้ก็มีถมไป!

หรือไม่จริง?

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook