Too Hot To Handle SS2 การกลับมาของเรียลลิตี้ห้ามจูบ ห้ามนัว ห้ามมีเซ็กส์

Too Hot To Handle SS2 การกลับมาของเรียลลิตี้ห้ามจูบ ห้ามนัว ห้ามมีเซ็กส์

Too Hot To Handle SS2 การกลับมาของเรียลลิตี้ห้ามจูบ ห้ามนัว ห้ามมีเซ็กส์
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

 

แม้รูปแบบรายการจะเหมือนกับซีซั่นแรกทุกประการ สำหรับใครที่ยังไม่รู้ว่ารายการ Too Hot To Handle เป็นเรียลลิตี้ที่ขนหนุ่มสาวหน้าตาดีมาจำนวนหนึ่ง เพื่ออยู่ร่วมกันภายใต้รีสอร์ทติดทะเล บรรยากาศสุดโรแมนติก ท่ามกลางสิ่งแวดล้อมที่ยั่วยวนให้คนเหล่านี้ “มีเซ็กส์” กัน แต่เพื่อชิงเงินรางวัลก้อนโต พวกเขาจะต้องเผชิญกับกติกาสุดหิน (สำหรับพวกเขา) เมื่อ “ลาน่า” เอไออัจฉริยะที่หูตาเป็นสัปปะรด สอดส่องพฤติกรรมทุกอย่างผ่านกล้องที่ติดไว้ทั่วทั้งรีสอร์ท ว่ามีผู้เข้าแข่งขันคู่ไหนละเมิดกฎของรายการ จะส่งผลทันทีต่อเงินรางวัลกองกลางที่ถูกตั้งยอดไว้ ก่อนจะถูกหักเงินออกตามความรุนแรงของพฤติกรรม อาทิ หากมีการจูบกัน เงินรางวัลจะถูกริบไป 3,000 ดอลลาร์ หากมีเพศสัมพันธ์จะถูกตัดเงิน 20,000 ดอลลาร์ เป็นต้น

 เพื่อปกปิดไม่ให้ผู้เข้าร่วมรายการในซีซั่นที่ 2 สมัครเข้ามารู้ว่านี่คือรายการ Too Hot To Handle รายการจึงมีการอำ ผู้เข้าร่วมรายการว่า นี่คือรายการประเภทออกเดทและปาร์ตี้ธรรมดาๆในชื่อ Parties in Paradise จนกระทั่ง เมื่อถึงเวลาที่สมควร “ลาน่า” จึงปรากฏตัวขึ้นและทำให้ผู้เข้าแข่งขันรู้ว่า พวกเขาได้อยู่ในรายการเรียลลิตี้ที่ห้ามให้พวกเขามีเซ็กส์กันไม่ว่าจะเบาหรือหนักก็ตาม โดยความหลากหลายทางอาชีพของผู้เข้าแข่งขันในซีซั่นนี้ประกอบไปด้วย นายแบบ นางแบบ เทรนเนอร์ บาร์เทนเดอร์ นักเต้นรำเปลื้องผ้า รวมไปถึง ทนายความ!

แม้รูปแบบรายการจะเหมือนกับซีซั่นแรกก็ตาม แต่สิ่งที่สนุกคือเหล่าทีมงานและโปรดิวเซอร์รู้ดีว่าจะสร้าง “ดราม่า” อะไรให้ผู้ชมได้สนุกไปกับพฤติกรรมของเหล่าผู้เข้าแข่งขัน ประกอบกับซีซั่นนี้ดูเหมือนผู้เข้าแข่งขันเองแต่ละคนรู้ดีด้วยซ้ำว่าพวกเขาจะเล่นสนุกกับตัวรูปแบบรายการอย่างไร ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจเลยที่ พวกเขาจะละเมิดกฎที่รายการตั้งไว้อย่างเมามัน จนทำให้เงินกองกลางถูกหักทิ้งอย่างรวดเร็ว

นอกจากเงินกองกลางที่ถูกหักไป ได้สร้างความไม่พอใจให้กับผู้เข้าแข่งขันบางส่วน ตัวรายการเองก็ดูไม่ได้นิ่งนอนใจที่จะให้ผู้เข้าแข่งขันได้รับบทเรียนสุดโหด อาทิ ให้ผู้เข้าแข่งขันที่ไม่ได้สร้างความสัมพันธ์ที่ดูซีเรียสจริงจังออกจากรายการไปอย่างรวดเร็ว (ซึ่งในซีซั่นแรก กว่าที่รายการจะกำจัดคนออกจากรายการสักคู่ ต้องผ่านไปแล้วสักระยะใหญ่ๆ แต่สำหรับซีซั่นนี้คือคัดคนออกตั้งแต่ EP ต้นๆ) และเพื่อกระตุ้นความดราม่าและโอกาสที่ผู้เข้าแข่งขันจะละเมิดกฎกันอีก คือการโยนผู้เข้าแข่งขันรายใหม่เข้ามาเพื่อทำให้เกิดเคมีใหม่ๆระหว่างผู้เข้าแข่งขันคนเดิมและผู้เข้าแข่งขันหน้าใหม่นั่นเอง  

 

 

สูตรสำเร็จที่เวิร์คภายใต้สถานการณ์อันน่าหดหู่

ปฏิเสธไม่ได้ว่าความสำเร็จแบบถล่มทลายของซีซั่นแรกนั้นเกิดจาก “ความน่าเบื่อ” ในการกักตัวของผู้คนทั่วโลก ที่ไม่สามารถออกนอกบ้าน ไปมีกิจกรรม เข้าสังคม มีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น หรือแม้กระทั่งการไปมีเซ็กส์กับคนที่เรามีโอกาสจะได้เจอตามผับ บาร์ ปาร์ตี้ รวมไปถึงไปเที่ยวตามชายหาด รีสอร์ท สิ่งที่ปรากฏขึ้นในรายการ Too Hot To Handle คือการสนองแฟนตาซีที่ผู้ชมกำลังโหยหา ต้องการและสิ่งที่ผู้เข้าแข่งขันในรายการนี้ทำ คือการต้องอดทน อดกลั้นกับการหักห้ามใจไปในสิ่งที่เขาปรารถนาที่สุด นั่นคือการสนองความต้องการทางเพศ!

แม้ว่าคำวิจารณ์ของรายการนี้ในซีซั่นแรกจะอยู่ในเกณฑ์ย่ำแย่ และถูกมองว่าเป็นรายการ “ขยะ” ที่ไม่มีคุณค่าก็ตาม แต่ปฏิเสธเลยว่า บางห้วงของสถานการณ์โลก รายการเช่นนี้ เปรียบเสมือน “โอเอซิส” กลางทะเลทรายที่ทำให้ผู้ชมสามารถหลีกเร้นจากสถานการณ์อันแสนน่าหดหู่ มืดบอดต่อหนทางในการใช้ชีวิตได้อย่างน่าอัศจรรย์ใจ

จริงอยู่ที่เมื่อดูไปถึงจุดๆหนึ่งแล้ว เราอาจจะเกิดความรู้สึกว่า ตัวรูปแบบรายการเองมีการวางหมาก เขียนบทให้ผู้เข้าแข่งขันบางคนต้องกลายเป็นตัวป่วน เป็นนางเอก เป็นตัวร้าย ประจำซีซั่นก็ตาม การจัดวางสถานการณ์ที่นำไปสู่ดราม่านั้น คือการทำให้รูปแบบรายการสามารถทำให้ผู้ชมอยากจะติดตามความสัมพันธ์ของผู้เข้าแข่งขันกลุ่มนี้ต่อไป โดยไม่เลิกดู Too Hot To Handle ไปกลางคันเสียก่อน

อย่าลืมว่ารายการประเภทเรียลลิตี้นั้น ถึงแม้จะถ่ายทอดสิ่งที่เกิดขึ้นจริง อารมณ์จริง พฤติกรรมจริง แต่สิ่งที่ปรากฏต่อหน้ากล้องนั้น ล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งที่ผู้เข้าแข่งขัน ทีมงาน คนตัดต่อ โปรดิวเซอร์รายการ “อยากจะให้คนดูเห็น” ดังนั้นทุกสิ่งที่เกิดขึ้นในรายการนี้อาจจะเป็น “เรื่องจริง” แต่ภายใต้ความจริงเหล่านั้นย่อมถูกประดิษฐ์ คัดสรร และนำเสนอภายใต้มุมมองที่รายการนี้อยากจะชักนำคนดูไปสู่ตอนจบของรายการ โดยระหว่างทางนั้น ย่อมมีการพาคนดูแวะเวียนไปสำรวจประเด็นต่างๆ แต่ท้ายที่สุดแล้ว รายการเรียลลิตี้ประเภทออกเดทนั้น เป้าประสงค์หลักของรายการเช่นนี้คือการทำอย่างไรก็ได้ให้ผู้ชม “หลงรัก” ผู้เข้าแข่งขัน ไม่ว่าพวกเขาจะมีคาแรกเตอร์แบบใดก็ตามที แต่อย่างน้อยพวกเขาจะต้องมีเสน่ห์หรือมีบางสิ่งบางอย่างในตัวเอง ที่จะทำให้ผู้ชมอยากจะเฝ้ามองชีวิตของพวกเขานั่นเอง

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook