[เปิด Netflix มารีวิว] Dynasty Warriors จากเกมสู่หนังสามก๊ก หยิบมาแต่คาแรกเตอร์ไม่ได้เน้นความลุ่มลึก

[เปิด Netflix มารีวิว] Dynasty Warriors จากเกมสู่หนังสามก๊ก หยิบมาแต่คาแรกเตอร์ไม่ได้เน้นความลุ่มลึก

[เปิด Netflix มารีวิว] Dynasty Warriors จากเกมสู่หนังสามก๊ก หยิบมาแต่คาแรกเตอร์ไม่ได้เน้นความลุ่มลึก
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

 

Dynasty Warriors มหาสงครามขุนศึกสามก๊ก ถูกดัดแปลงมาจากเกมชื่อดังของค่าย Koei Tecmo ซึ่งเป็นเกมแนวแอ็คชั่นซึ่งได้รับความนิยมอย่างสูงตลอดกว่าช่วงเวลา 20 ปี ทั้งภาคแรกที่สร้างขึ้นสำหรับเครื่อง PlayStaion 1 จวบจนปัจจุบันที่มีให้เล่นบนโทรศัพท์สมาร์ทโฟนกับ Dynasty Warriors : Unleashed โดยหยิบเอาคาแรกเตอร์จากวรรณกรรมสามก๊ก มาออกแบบเรื่องราวขึ้น

ในเวอร์ชั่นภาพยนตร์บอกเล่าช่วงเวลาของเหล่ากบฏโพกผ้าเหลืองในปลายยุคฮั่น ระหว่างที่ตั๋งโต๊ะ (แลม ซูเอ็ต) แม่ทัพเจ้าเล่ห์ได้ทีฉวยโอกาสจากสถานการณ์เข้าควบคุมวังและยึดอำนาจมาจากฮ่องเต้ที่ไม่มีอำนาจในการสั่งการราชการบ้านเมืองได้ ในขณะที่โจโฉ (หวางข่าย) มีแผนการที่จะลองสังหารตั๋งโต๊ะ เพื่อนำความสงบกลับคืนมาและรวบรวมเหล่าทหารอาสาฝีมือดีอาทิ เล่าปี่ (หยางโย่วหนิง) พร้อมด้วยสองพี่น้องร่วมสาบาน กวนอู (หานเกิง) และ เตียวหุย (จัสติน ชุง) ในการทำภารกิจครั้งนี้ พร้อมกับต้องรับมือกับลิโป้ (กู่ เทียนเล่อ) ทหารเอกของตั๋งโต๊ะที่พยายามหยุดยั้งแผนการทั้งหมดของเหล่ากบฏ

แน่นอนเมื่อหนังดัดแปลงมาจากเกม ดังนั้นหนังจึงไม่เน้นข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์ แผนการยุทธวิธีทางการรบ หรือแนวคิดเชิงการเมืองใดๆ แต่มุ่งเน้นในการนำเสนอ “ภาพจำ” ของเหล่าตัวละครเอกในเกมเป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบเครื่องแต่งกาย ใช้ดนตรีประกอบจากเกม และเมื่อเรามองกลับไปที่รากฐานของตัวเกมแนว Musou (ประจันหน้าฆ่าไม่เลี้ยง) ปล่อยพลังพิเศษจนศัตรูปลิวขึ้นฟ้า ตีลังกา 10 ตลบ ด้วยภาพแบบสโลว์โมชั่น ก่อนจบด้วยท่ายืนเท่ให้แฟนเกมต้องกรี๊ด

ด้วยความซื่อตรงกับตัวเกมมาก จึงส่งผลให้หนังในเวอร์ชั่นคนแสดง มีสภาพออกมาดูโอเวอร์ เล่นใหญ่และไม่ต้องสนใจหลักแรงโน้มถ่วงใดๆ แต่ถึงอย่างนั้นแล้วฉากแอ็คชั่นล็อตใหญ่ที่มาถล่มความโครมครามใส่คนดูในตอนท้าย มีลักษณะของการโจมตีแบบเกมต่อสู้แนวๆ Street Fighter มากกว่าจะเป็นแนวฆ่าฟันตามตัวเกมต้นฉบับ ซึ่งมองได้ 2 มุมมองคือทีมผู้สร้างเลือกจะละทิ้งเอกลักษณ์ของเกมต้นฉบับและนำเสนอ เส้นเรื่องที่ดูน่าจะเป็นเหตุเป็นผลกับตัวหนังโดยรวมมากกว่า จนแฟนเกมอาจจะเสียดายและผิดหวังไปบ้าง

อย่างไรก็ตาม แม้จะขาดความลุ่มลึกในเชิงวรรณกรรม แต่ถ้าดูเอาแก้เบื่อ แก้เซ็ง ต้องการอะไรที่ไม่หนักสมองมากมายนัก Dynasty Warriors สามารถเปิดสตรีมมิ่งแก้เบื่อในวันเสาร์อาทิตย์ ที่เราต้องติดแหงกอยู่ที่บ้านได้ไม่เลวทีเดียว

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook