[เปิด Disney+ มารีวิว] Luca มิตรภาพวัยเยาว์ฉบับน่านน้ำอิตาลี โชยกลิ่น LGBTQ แบบจางๆ
ผลงานการกำกับของ เอนริโก้ คาซาโรซา บอกเล่าเรื่องราวของลูก้า สัตว์ประหลาดลักษณะคล้ายเงือก อาศัยอยู่ใต้ผืนน้ำของเมืองชายฝั่งทะเลปอร์โตรอสโซ ในประเทศอิตาลี เขาถูกป้อนความคิดฝังหัวมาโดยตลอดว่ามนุษย์นั้นเป็นสิ่งมีชีวิตที่ป่าเถื่อน และล่าสัตว์น้ำอย่างบ้าคลั่ง ทำให้ลูก้าไม่กล้าที่จะโผล่ขึ้นไปยังพื้นผิวน้ำ แต่ด้วยความอยากรู้อยากเห็นตามประสาวัยรุ่นเขาจึงลองไปยังผืนน้ำและได้พบกับอัลเบอร์โต้ สัตว์ประหลาดแบบเดียวกับเขาที่ใช้ชีวิตอยู่บนบก ในร่างของมนุษย์ ทำให้ลูก้าพบว่า ตนเองก็สามารถกลายร่างเป็นมนุษย์ได้เช่นเดียวกัน เขาจึงอยากจะไปเรียนรู้วิถีชีวิตบนพื้นผิวน้ำ
เมื่อที่บ้านของลูก้าค้นพบความจริงว่าลูกชายของตัวเองแอบหนีขึ้นผิวน้ำ ทำให้เขาจะถูกจับส่งตัวไปอยู่กับลุงในทะเลลึก เมื่อเห็นเช่นนั้นแล้วลูก้าจึงตัดสินใจหนีออกจากบ้านและไปอยู่กับอัลเบอร์โต้เพื่อเรียนรู้วิถีชีวิตแบบเดียวกับเขา จนกระทั่งทั้งสองคนได้พบกับจูเลีย ลูกสาวของชาวประมงที่มีความฝันในการเข้าร่วมแข่งขันไตรกีฬา เพื่อชิงเงินรางวัลก้อนโต มิตรภาพของเด็กทั้งสามคนจึงเริ่มก่อตัวขึ้น
Luca ค่อนข้างเป็นแอนิเมชั่นพิกซาร์ที่จัดอยู่ในหมวดหมู่ดูง่าย ประเด็นไม่หนักหนานัก เมื่อเทียบกับงานยุคหลังอาทิ Soul หรือ Inside Out ซึ่งมีความเป็นผู้ใหญ่และพูดถึงความสูญเสียบางสิ่งบางอย่างในช่วงชีวิตของมนุษย์ไป ในขณะที่ Luca เป็นการเรียนรู้ที่จะเติบโตไปเป็นผู้ใหญ่ (Coming of age) ในเวอร์ชั่นสูตรสำเร็จ พร้อมยังแทรกสอดกลิ่นอายของความเป็น LGBTQ เข้ามาสำหรับความสัมพันธ์ของลูก้าและอัลเบอร์โต้ แม้จะไม่ได้กลิ่นแรงมากนัก แต่เราก็สัมผัสได้ถึงประเด็น การเรียนรู้ที่จะยอมรับในความแตกต่างของตัวเอง และทำตามความฝันโดยปราศจากข้อแม้
น่าเสียดายที่ Luca อาจจะเป็น “งานพักผ่อน”เหมือนกับเราไปนั่งชิวอยู่ที่เมืองชายทะเล บรรยากาศชวนฟุ้งฝันในเรื่อง จึงไม่ได้นำพาประเด็นใดๆ ไปสู่โหมดของความจริงจัง ทุกอย่างไม่ได้รับการเน้นย้ำ ถูกนำเสนอแบบพอผ่านมาและผ่านไป ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจนักที่เราดูแล้วจะรู้สึกกับหนัง “น้อย” กว่างานเก่าๆของพิกซาร์ที่เน้นการโน้มน้าวห้วงอารมณ์ให้ดำดิ่ง ไม่ว่าจะเศร้าหรือสุขก็ไปสุดทาง
Luca จึงเป็นงานที่สอบผ่านเส้นเกณฑ์วัดมาตรฐานของพิกซาร์ ซึ่งปกติขีดเส้นเอาไว้สูงลิ่วอยู่เสมอๆ อย่างฉิวเฉียด