Loki Season 2 มาแน่! แต่ตกลงแล้วตอนจบของ SS1 นำไปสู่อะไรใน MCU

Loki Season 2 มาแน่! แต่ตกลงแล้วตอนจบของ SS1 นำไปสู่อะไรใน MCU

Loki Season 2 มาแน่! แต่ตกลงแล้วตอนจบของ SS1 นำไปสู่อะไรใน MCU
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ข่าวและบทความนี้มีการเปิดเผยตอนจบของซีรีส์ Loki, WandaVision รวมถึงหนังทุกเรื่องของ Marvel Studio หากยังไม่ได้รับชม หรือกลัวว่าจะโดนสปอยล์ กรุณาปิดบทความนี้โดยทันที เราเตือนคุณแล้ว

 

หลังจากที่เอนเครดิตของ Loki จบลง สิ่งที่ปรากฏขึ้นหลังตัวหนังสือชื่อทีมงานที่ละลานตา คือภาพแฟ้มที่เขียนเอาไว้ว่า Loki Season 2 จะกลับมาอย่างแน่นอนดังนั้นแฟนซีรีส์เรื่องนี้ติดตามกันต่อได้เลยว่า “วายร้ายสุดที่รัก” นั้นไม่ได้ตายไปจากจักรวาลนี้อย่างแท้จริง

หากใครได้ชมตอนสุดท้ายของซีรีส์คงจะทราบดีว่า นี่คือตอนจบที่ไม่ใช่ตอนจบเรื่องราว แต่กลายเป็นจุดเริ่มต้นของปฐมบทเขย่าจักรวาลมาร์เวลครั้งใหม่ ซึ่งแน่นอนแล้วว่าประเด็นใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับ Phase ที่ 4 ของจักรวาลนี้จะต้องเกี่ยวพันกับความยุ่งเหยิงของเส้นเวลาในจักรวาลที่แตกหน่อออกเป็นเส้นไทม์ไลน์มหาศาลเกินความคาดเดา

มีการสปอยล์สำคัญ หากยังไม่ได้รับชม กรุณาปิดบทความนี้โดยทันที เราเตือนคุณอีกครั้ง

 

ปริศนามากมายจากตัวซีรีส์ที่ยังไม่ได้รับการอธิบายคำตอบในตัวเองก็มีมากมายอาทิ ตกลงแล้วผู้พิพากษา ราวอนนา เรนสเลเยอร์ (กูกู อึมบาทา-รอว์) เป็นใครและร่างในอดีตที่เป็นครูประจำไฮสคูลนั้นตกลงแล้วเป็นเพียง “ตัวแปร” ตัวหนึ่งหรือมีความเกี่ยวพันอะไรกับ TVA กันแน่, ซิลวี่ (โซเฟีย ดิ มาร์ติโน) ที่ได้สังหาร “ชายผู้คงอยู่” ที่อยู่เบื้องหลังความยุ่งเหยิงวุ่นวายทั้งหมดที่เกิดขึ้นในซีซั่นนี้ เธอจะเดินทางกลับจักรวาลของตัวเองอย่างไร, โลกิข้ามผ่านพอร์ทัลไปยังเส้นไทม์ไลน์แล้วไปโผล่อยู่ในจักรวาลไหนกันแน่ ซึ่งความยุ่งเหยิงทั้งหมดนี้เป็นผลงานการเขียนบทของ “ไมเคิล วัลดรอน” นอกจากนี้เขายังเขียนบทให้กับหนังอย่าง Doctor Strange in the Multiverse of Madness อีกด้วย และเป็นที่ยืนยันแล้วว่าไมเคิลจะกลับมาเขียนบทให้กับ Loki Season 2 อย่างแน่นอน

แน่นอนว่าตัวละครโลกิ (ทอม ฮิดเดิลสตัน) คือวายร้ายสุดที่รักของแฟน MCU มาตั้งแต่ไหนแต่ไร คำถามคือแล้วเส้นทางของตัวละครนี้จะเป็นอย่างไรคงต้องได้แต่คาดเดาไปต่างๆนานาๆ แต่เมื่อตลอดทั้งซีรีส์จนถึงตอนจบของซีรีส์ที่เปิดประตูแห่งความเป็นไปได้แล้วว่า อะไรก็เกิดขึ้นได้เสมอในจักรวาลของมาร์เวลจนกระทั่งตัวละครที่ตายไปแล้วก็ตาม แต่ใช่ว่า “ตัวแปร” จากจักรวาลอื่นจะตายตามไปด้วยนี่นา

เมื่อเราลองวิเคราะห์กันต่อไปว่าบางที การที่มาร์เวลจะปล่อย “ชื่อตอน” ของหนังใหญ่แต่ละเรื่องออกมานั้น พวกเขาย่อมคิดรอบด้านแล้วว่ามันคือการ “บอกใบ้” บางสิ่งบางอย่างที่มีความเกี่ยวข้องกับหนังและซีรีส์เรื่องอื่นๆที่ถูกสร้างและกำลังจะฉายในช่วงเวลาต่อจากนี้ เช่นเดียวกับชื่อหนัง Doctor Strange in the Multiverse of Madness ซึ่งชัดเจนแล้วว่า ความยุ่งเหยิงของจักรวาลและเส้นไทม์ไลน์มากมายนั้นมีอยู่จริง และน่าจะทวีความรุนแรงในหนังภาคต่อไปของดร.สเตรนจ์

จนกระทั่งตอนจบของ WandaVision เองที่เผยแล้วว่าการเปลี่ยนผ่านตัวละครอย่างวันด้า ไปสู่สการ์เลตวิชช์อย่างเต็มตัวนั้น เธอได้สร้างเมืองในจินตนาการผ่านพลังจิตของตัวเอง แถมยังมีอานุภาพร้ายกาจในการสร้าง “มายา” เพื่อหลอกสายตาของคนอื่น แถมตัวละครนี้ยังจะมีบทบาทสำคัญใน Doctor Strange in the Multiverse of Madness นอกจากนี้ข่าวล่าสุดคือตัวละครอย่างโลกิเองยังจะได้กลับมาปรากฏตัวในหนังเรื่องนี้อีกด้วย (เอาเข้าไป!) 

ผู้ชมที่ดู WandaVision มาแล้วคงได้เห็นสิ่งสำคัญที่เกิดขึ้นในซีรีส์อาทิ การกลับมาของน้องชายอย่างปิเอโตร แม็กซิมอฟหรือควิกซิลเวอร์ โดยเขาไม่ได้กลับมาในร่างของนักแสดงดั้งเดิมที่ปรากฏตัวใน Avengers: Age of Ultron ซึ่งในเรื่องนั้นรับบทโดย แอรอน เทย์เลอร์-จอห์นสัน) แต่ในเรื่องนี้ควิกซิลเวอร์มาในร่างของนักแสดงอย่างอีแวนส์ ปีเตอร์ จากแฟรนชายส์ X-Men: Days of Future Past (อธิบายได้เลยว่าตัวละครนี้ข้ามมาจากจักรวาลอื่นที่ไม่ใช่จักรวาลเดิมกับ MCU แต่เป็นตัวละครเดียวกัน) ยังไม่รวมไปถึงลูกๆของวันด้า ที่แม้ว่าในตอนจบของซีรีส์ลูกของเธออาจจะเป็นแค่เพียงมายาจากพลังวิเศษ แต่ไม่ได้หมายความว่าไทม์ไลน์อื่นและจักรวาลอื่นลูกๆของวันด้าจะไม่ได้มีตัวตน!

สิ่งที่สนับสนุนความโกลาหลของไทม์ไลน์ คือข่าวกองถ่ายหนัง Spider-Man: No Way Home ในช่วงปลายปีที่แล้วที่มีข่าวหลุดออกมาทั้งที่ตั้งใจและไม่ได้ตั้งใจว่า อัลเฟรด โมลีน่าและเจมี่ ฟอกซ์จะกลับมารับบทบาทวายร้ายตัวเดิมที่พวกเขาเคยได้แสดงไว้ใน Spider-Man 2 และ The Amazing Spider Man 2 ตามลำดับ ยังไม่รวมไปถึงข่าวลือ (แต่มีมูลความจริง) ว่านักแสดงที่เคยรับบทไอ้แมงมุมทั้งโทบี้ แมคไกวร์และแอนดรูวส์ การ์ฟิลด์ ก็อาจจะเป็นนักแสดงรับเชิญในหนังภาคนี้ด้วย ยิ่งทำให้สมมติฐานนี้ดูหนักแน่นมากขึ้นทุกที

นอกจากนี้การปรากฏตัวของ “ชายผู้คงอยู่” ในตอนสุดท้ายของ Loki ซึ่งรับบทโดยโจนาธาน เมเจอร์คือเบาะแสสำคัญในเวลานี้ เนื่องจากเขายังรับบท แคงผู้พิชิต ใน Ant-Man and the Wasp: Quantumania ซึ่งมีกำหนดออกฉายในปี 2023 โดยวีรกรรมและความสามารถของตัวละครนี้เรียกได้ว่ามีศักยภาพในฐานะมหาวายร้ายระดับเดียวกับธานอสกันเลยทีเดียว

เอาล่ะครับทีนี้ เบาะแสมากมายที่มาจากตอนจบของ Loki เรียกได้ว่ากลายเป็นซีรีส์ตัวเปิดเฟสใหม่ของมาร์เวลได้แบบที่ผู้ชมต้องไม่พลาดกันแล้ว! ดูได้ทาง Disney+ Hotstar

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook