"เดอะ ร็อค" จะไม่กลับมาร่วมแสดงใน Fast & Furious ภาค 10 และ 11

F9: The Fast Saga ซึ่งเป็นภาพยนตร์เรื่องล่าสุดในแฟรนไชส์ Fast & Furious ได้เข้าฉายในต่างประเทศแล้วโดยทำรายได้ทั่วโลกไปแล้วกว่า 19,500 ล้านบาท แต่หนึ่งในนักแสดงสมทบที่สร้างสีสันให้แก่แฟรนไชส์นี้มาตั้งแต่ ‘Fast Five’ (2011) อย่าง เดอะ ร็อค หรือ ดเวย์น จอห์นสัน กลับดูเหมือนจะมีบทบาทในแฟรนไชส์นี้น้อยลงไปทุกที

ล่าสุด ดเวย์น จอห์นสัน ที่กำลังโปรโมตภาพยนตร์แอ็กชั่นผจญภัยเรื่องล่าสุดของเขา นั่นคือ Jungle Cruise ของ Disney โดยเขาได้ให้สัมภาษณ์กับ The Hollywood Reporter ว่า

“ผมหวังว่าพวกเขาจะไปได้ดีกับ Fast 9 และขอให้พวกเขาโชคดีกับ Fast 10 และ Fast 11 และภาพยนตร์เรื่องต่อ ๆ ไปใน Fast & Furious ที่จะเดินหน้าต่อไปโดยไม่มีผม”

ก่อนหน้านี้ ดเวย์น จอห์นสัน เคยกล่าวผ่านอินสตาแกรมของเขาระหว่างถ่ายทำ The Fate of the Furious (2017) ว่า “บางคนแสดงตัวเป็นมืออาชีพ ในขณะที่คนอื่นไม่ใช่ และดูเหมือนจะขี้ขลาดเกินกว่าจะจัดการปัญหาได้ เมื่อตอนที่ชมภาพยนตร์ในเดือนเมษายนนี้ จะดูเหมือนว่าผมไม่ได้แสดงในบางฉาก และเลือดในตัวผมเดือดพล่านมากตอนนี้”

คำพูดดังกล่าวเป็นการกล่าวอ้างถึงความไม่เป็นมืออาชีพของนักแสดงหรือทีมงานบางคน ซึ่งเป็นต้นเหตุของปัญหาที่ทำให้ จอห์นสัน ต้องออกไปจากแฟรนไชส์นี้ ก่อนที่จะกลับมาอีกครั้งในภาคแยกอย่าง ‘Fast & Furious Presents: Hobbs & Shaw’ (2019) ที่ประสบความสำเร็จด้านรายได้ในระดับน่าพึงพอใจ

แม้ว่า ดเวย์น จอห์นสัน จะมิได้ปรากฏตัวร่วมกับสมาชิกในครอบครัว Fast & Furious ต่อไปแล้วในภาคที่ 10 และ 11 แต่เขาก็ได้เซ็นสัญญากลับมาแสดงนำในภาคต่อของ Hobbs & Shaw ร่วมกับ เจสัน สเตธัม (Jason Statham) ที่มีเคมีการแสดงในภาคแรกตรงกับเขามาก และผู้ชมก็ชื่นชอบบทบาทของนักแสดงทั้ง 2 คนเสียด้วย

และด้วยความเป็นนักแสดงมืออาชีพ เขาก็ยังคงแสดงความยินดีกับทีมงานและนักแสดงทุกคนใน F9: The Fast Saga และอวยพรให้พวกเขาประสบความสำเร็จต่อไปในภาคที่ 10 และ 11

สำหรับผลงานเรื่องล่าสุดของเขาอย่าง Jungle Cruise นั้น เป็นการดัดแปลงจากเครื่องเล่นใน Disneyland เช่นเดียวกับ Pirates of the Caribbean โดยตัวภาพยนตร์มีกำหนดฉายทาง Disney+ และโรงภาพยนตร์ที่สหรัฐฯ ในวันที่ 30 กรกฎาคม 2021 นี้