3 หนังวันแม่ใน Netflix มีทั้งไม่ใช่คน เป็นฆาตกร และเป็นบ้า!

ท่ามกลางสถานการณ์บ้านเมืองแบบนี้ จะให้เรามาแนะนำหนังวันแม่แบบปกติ คงจะไม่อินเทรนด์ เพราะทุกวันนี้ข่าวคราวแต่ละอย่างชวนให้คนในสังคมออกแนวเป็นบ้าจนต้องไปพบหมอจิตเวท มิหนำซ้ำรัฐบาลยังปิดจมูกอุดปากประชาชนไม่ให้แสดงความคิดเห็นทางการเมือง หรือแม้กระทั่งพูดในเรื่องที่ควรจะอยู่ในร่องในรอยตามครรลองปกติ จนนำไปสู่คำถามที่ว่าสังคมไทยที่บิดเบี้ยวขนาดนี้ “ใคร” มันอยากจะไปมีลูกกันบนประเทศแบบนี้ (ถ้าหากคุณไม่มีเงิน!)

 

I Am Mother (หุ่นเหล็กโลกเรียกแม่) เป็นหนังเกี่ยวกับแม่เรื่องแรกที่เราอยากจะหยิบมาพูดกัน เมื่อในอนาคตภายภาคหน้ามนุษย์ได้เกิดสงครามฆ่าล้างเผ่าพันธุ์กันจนเหี้ยนโลกนี้ (ก็ใช่สิ โลกใบนี้ใกล้สูญสลายกันเข้าไปทุกวัน ไหนจะไวรัส ไหนจะวิกฤติต่างๆ ที่ทุกประเทศต้องเผชิญ) ส่งผลให้มนุษย์ที่เหลือรอดบางส่วนต้องใช้จักรกลหุ่นยนต์ในการเลี้ยงดูลูกคนทดแทน โดยหุ่นยนต์ที่ชื่อ “มาเธอร์” ถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อเพาะพันธุ์ลูกมนุษย์โดยเฉพาะ

เด็กสาวอย่าง “ดอว์เทอร์” กลายเป็นมนุษย์รุ่นแรกที่ถูกเลี้ยงดูให้เติบโตขึ้นมาในบังเกอร์ศูนย์หลบภัยใต้ดิน เพราะมาเธอร์บอกกับดอว์เทอร์ว่าบนผืนแผ่นดินนั้นเต็มไปด้วยมลภาวะที่ไม่เอื้อให้มนุษย์เติบโตและใช้ชีวิตได้ จนกระทั่งวันหนึ่งมีหญิงสาวตัวโชกเลือดบุกเข้ามาในบังเกอร์ จนนำมาซึ่งคำถามมากมายให้กับดอว์เธอร์ว่าตกลงแล้วโลกภายนอกยังมีมนุษย์หลงเหลืออยู่จริงไหม หุ่นยนต์มาเธอร์หลอกดอว์เธอร์มาโดยตลอดหรือเปล่า

สิ่งสำคัญที่ I Am Mother พยายามส่งสารให้คนดูคือ โลกของเราทุกวันนี้พยายามผลิตคิดค้นปัญญาประดิษฐ์ (A.I.) มาเพื่อทดแทนการทำงานของมนุษย์ แต่จะเกิดอะไรขึ้นถ้าหากอนาคตเราจะให้หุ่นยนต์เหล่านี้มาทำหน้าที่ “แม่” แทนมนุษย์จริงๆ

MA (แม่ ร้าย) ในชีวิตจริงเรามีคุณแม่ผู้ให้กำเนิดกันอยู่ทุกคนกันอยู่แล้ว แต่จะดีแค่ไหนถ้าชีวิตนี้เรายังมีแม่ทูนหัวอีกคน คอยสปอยล์และให้ทำในสิ่งที่เราอยากจะทำ สำหรับ ซู แอนน์ (ออคตาเวีย สเปนเซอร์) สาวรุ่นใหญ่ ไร้สามี ชีวิตของเธอตัวคนเดียว มาโดยตลอดท่ามกลางเมืองบ้านเกิดอันแสนเงียบเหงาในเมืองโอไฮโอ ประเทศอเมริกา จนวันหนึ่งเธอได้รับคำวิงวอนร้องขอจาก แม็กกี้ (ไดอาน่า ซิลเวอร์ส) วัยรุ่นวัยทโมนผู้ยังไม่บรรลุนิติภาวะ ที่อยากจะเมาปลิ้นเต็มแก่ เธอจึงร้องขอให้ซูช่วยไปซื้อเหล้าให้กับเธอและผองเพื่อน แน่นอนว่าเธอเต็มใจทำให้และไม่ปฏิเสธคำขอของแม็กกี้

ซูยังยื่นขอเสนอให้กับกลุ่มเด็กแสบไปกินเหล้ากันแบบลับหูลับตาผู้ปกครอง ในห้องใต้ดินที่บ้านของเธอ เพื่อลดสารพันปัญหาที่จะตามมา พร้อมกับยื่นกฏที่พวกเขาต้องทำตามไม่ว่าจะเป็นจะต้องมีเด็กในกลุ่มหนึ่งคนที่ต้องไม่ดื่มเหล้า ห้ามพูดจาหยาบคาย และห้ามขึ้นไปยังชั้นบนของตัวบ้านอย่างเด็ดขาด และเด็กๆต้องเรียกซูด้วยคำว่า “มา” หรือ “แม่”

การสวมหัวโขนความเป็นคุณแม่ เริ่มกลายเป็นความน่ากลัวขึ้นเรื่อยๆ เมื่อเธอเริ่มก้าวข้ามเส้นความเป็นส่วนตัวของกลุ่มวัยรุ่นทีละเล็กทีละน้อย ไม่ว่าจะเป็นความพยายามตีสนิท โผล่มาที่บริเวณไฮสคูลแบบไม่ได้รับเชิญ ก่อนจะทำตัวเจ้ากี้เจ้าการในชีวิตของพวกเขา แต่เมื่อวัยรุ่นกลุ่มนี้ไม่ตอบรับ เธอเลยใช้วิธีการสุดสยองที่เราคาดไม่ถึง จนทำให้เราไม่อยากจะมีแล้วจ้า แม่ทูนหัว

Mother (มารดา!) หนังเฮี้ยนๆของผู้กำกับดาร์เรน อาร์นอฟสกี้ ว่าด้วยความสัมพันธ์สุดแปลกของของหญิงสาว (เจนนิเฟอร์ ลอว์เรน) และชายวัยกลางคน (ฮาเวียร์ บาร์เดม) ในบ้านหลังหนึ่ง หลังจากนั้นมีแขกที่ไม่ได้รับเชิญ (เอ็ด แฮร์ริส) มาเยือนที่บ้านหลังนี้ ไม่นานนักภรรยา (มิเชลล์ ไฟเฟอร์) ของแขกคนดังกล่าวก็ตามมาเคาะประตูบ้าน ก่อนจะนำพาความวุ่นวายเกินคาดเดา ซึ่งสั่นคลอนชีวิตคู่ของสองสามีภรรยากันอย่างรุนแรง

ด้วยความเป็นหนังเซอร์เรียล (เหนือจริง) ทำให้ผู้ชมต้องตีความและปะติดปะต่อสิ่งที่เกิดขึ้นบนจอกันอยู่ตลอดเวลา ซึ่งเราอยากจะแนะนำว่าถ้าคุณมีพื้นความรู้เกี่ยวกับเรื่องคัมภีร์ไบเบิ้ลของศาสนาคริสต์ หรือมีความเข้าใจในเรื่องการสร้างโลกและการทำลายโลก รวมไปถึงสาเหตุที่พระเจ้าตัดสินใจลงโทษมนุษย์ จะทำให้ดูหนังสนุกขึ้น

อย่างไรก็ตามประเด็นของความเป็น “แม่” ในหนังเรื่องนี้เราอาจจะเทียบเคียงตัวเอกของเรื่องซึ่งนำแสดงโดยเจนนิเฟอร์ ลอว์เรนซ์ เทียบเท่ากับ Mother of Life หรือเทพผู้เป็นมารดาแห่งชีวิตด้วยนั่นเอง ซึ่งถ้าเรามองไปในกรอบนั้นจะพบว่า เมื่อเทียบเคียงตัวละครนี้เท่ากับโลก ยิ่งเธอพยายามเป็น “ผู้ให้” แก่คนอื่นๆ (มนุษย์) มากเท่าไหร่ แต่ดูเหมือนคนอื่นก็ไม่เคยรู้จักพอและยิ่งทำร้ายเธอกลับมามากเท่านั้น จนท้ายที่สุดแม่คนนี้ก็กลายเป็น “บ้า” ไปแบบไม่ทันรู้ตัว

เอาเป็นว่า ใครไม่รู้จะทำอะไรลองเปิดหนัง 3 เรื่องนี้ทาง Netflix ดูต้อนรับวันแม่ก็แล้วกัน