Passengers การเดินทางครั้งสุดท้ายของคนเหงา ที่เราเปิดดูได้บน Netflix

Passengers การเดินทางครั้งสุดท้ายของคนเหงา ที่เราเปิดดูได้บน Netflix

Passengers การเดินทางครั้งสุดท้ายของคนเหงา ที่เราเปิดดูได้บน Netflix
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ช่วงไม่กี่ปีมานี้ข่าวคราวเกี่ยวกับการเดินทางไปยังอวกาศ ดูจะกลายเป็นเรื่องที่มนุษย์ปุถุชนคนธรรมดาอาจจะเอื้อมถึงได้อย่างไม่ยากเย็นในอนาคตอันใกล้ ภาพความฝันที่เรามักจะได้เห็นจากหลากหลายในหนังไซไฟแฟนตาซีอาจจะกลายเป็นความจริงในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า หลังจากที่อีลอน มัสก์ ซีอีโอและผู้ก่อตั้งบริษัทอย่างสเปซเอ็กซ์ ธุรกิจการขนส่งเดินทางไปยังอวกาศที่มีโครงการจะพามนุษย์เดินทางจากดาวโลกไปยังดาวอังคาร ซึ่งคาดว่าจะเกิดขึ้นจริงในอีกไม่เกิน 6 ปีข้างหน้า

หากโครงการของอีลอน อาจจะดูไกลเกินฝันไป Virgin Galactic ของริชาร์ด แบรนสัน เพิ่งจะมีการทดลองเดินทางไปยังขอบอวกาศเป็นครั้งแรก ด้วยการพาผู้โดยสารเดินทางจากพื้นโลกขึ้นไปยังชั้นบรรยากาศในจุดที่เกิดสภาวะไร้น้ำหนัก โดยใช้เวลาตลอดการเดินทางเพียงไม่เกิน 1 ชั่วโมง เหล่านี้ถือเป็นก้าวแรกที่จะแผ้วถางการเดินทางไปยังดาวดวงอื่นได้เปี่ยมความหวัง

หนังอย่าง Passengers ที่ดูเหมือนจะพูดถึงการเดินทางข้ามจักรวาลในฐานะของมนุษย์ปุถุชนคนธรรมดา ที่ตั้งความหวังว่าจะเดินทางไปยังดาวเคราะห์อาณานิคมดวงใหม่ โดยที่หนังเผยให้คนดูได้รับทราบว่า การโยกย้ายถิ่นฐานครั้งนี้ไม่ได้เป็นการอพยพของชาวโลกทั้งดาวเพราะเกิดเหตุการณ์ภัยพิบัติอันใด คนบนโลกยังอยู่ดีมีสุขมีชีวิตและไลฟ์สไตล์ชิคๆดังเดิม เห็นได้จากภาพวิดีโอบันทึกความทรงจำที่ออโรร่า (เจนนิเฟอร์ ลอว์เรนซ์) ได้ลองเปิดคลังความทรงจำที่ผองเพื่อนเธอได้บันทึกอวยพรการเดินทางครั้งสำคัญในชีวิต

ในยุคก่อนหน้านี้ผู้ชมภาพยนตร์ไซไฟ-อวกาศมักจะรับรู้มาโดยตลอดว่า การโยกย้ายถิ่นฐาน เปลี่ยนอาณานิคมของมนุษย์นั้น มักจะมีสาเหตุมาจากมลภาวะของดาวโลกที่เพิ่มมากขึ้นจนมนุษย์ไม่อาจจะใช้ชีวิตได้อย่างปกติสุข ไม่ว่าจะเป็นหนังเกาหลี Space Sweepers (2021) กับเหล่าตัวเอกที่ต้องพาตัวเองออกจากโลกซึ่งเต็มไปด้วยแก็สพิษ ทำให้เขาต้องหาเลี้ยงชีพด้วยการเก็บขยะอวกาศไปหาเงิน Elysium (2013) พูดถึงโลกอนาคตในปี 2154 เมื่อคนจนต้องใช้ชีวิตอยู่บนโลกที่เต็มไปด้วยความอดอยาก ในขณะที่บรรดาคนรวยสามารถออกไปใช้ชีวิตแบบสุขสบายบนกระสวยอวกาศที่มีสภาพเป็นเมืองลอยฟ้า

ไม่นานมานี้ยังมีหนังไซไฟระทึกขวัญอย่าง Oxygen (2021) ที่ว่าด้วยกระสวยแคปซูลบนยานอวกาศขนาดยักษ์ที่กำลังเดินทางไปยังอาณานิคมแห่งใหม่เกิดความผิดพลาด ส่งผลให้นางเอกของเรื่องตื่นขึ้นก่อนเวลา และความผิดปกติของกระสวยที่เธออยู่นั้นอาจจะทำให้เธอขาดอากาศหายใจตาย เธอต้องหาทางแก้ไขปัญหาให้คลี่คลายและค้นหาความจริงว่าเหตุผลอะไรที่เธอถึงมาอยู่ในกระสวยนี้ด้วย

จะเห็นได้ว่าหนัง “ท่องอวกาศ” ยุคใหม่หลายเรื่อง หยิบเอาภาพการเดินทางสู่อวกาศที่ดูมีความเป็นไปได้ ใกล้ตัวมากยิ่งขึ้น ส่วนตัวละครที่ปรากฏอยู่ในหนังเหล่านี้มักเป็นแค่เพียงบุคคลธรรมดาที่มีจุดมุ่งหมายในการแสวงหาชีวิตใหม่ที่ดีกว่าเดิม เฉกเช่นตัวละครพระเอกของ Passengers อย่างจิม เพรสตัน (คริส แพตต์) นายช่างที่บังเอิญกระสวยแคปซูลจำศีลเกิดผิดพลาด ทำให้เขาตื่นขึ้นก่อนกำหนดเวลาไวถึง 90 ปี มิหนำซ้ำกระบวนการตื่นครั้งนี้ ไม่สามารถทำให้เขากลับไปหลับได้อีก นั่นหมายความว่าเขาอาจจะต้องตายอย่างโดดเดี่ยวอยู่บนยานอวกาศ “สตาร์ชิป อวาลอน” เพียงคนเดียว

แม้คนดูจะได้รับรู้ว่าความหรูหราของยานสตาร์ชิป อวาลอนที่มีลักษณะเฉกเช่นโรงแรมหรูระดับ 5 ดาว ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบที่พัก ร้านอาหาร สระว่ายน้ำ ฟาซิลิตี้ต่างๆมากมาย ซึ่งแม้ว่าช่วงแรกที่จิม เพรสตัน โดดเดี่ยวอยู่ท่ามกลางอุปกรณ์อำนวยความสะดวกมากมาย แต่ลึกๆแล้วเขาก็แค่อยากจะใช้ชีวิตอยู่กับเพื่อนมนุษย์คนอื่นบ้างเท่านั้นเอง

สิ่งที่จิม เพรสตันตัดสินใจทำ (ซึ่งคาดว่าน่าจะผิดกฎหมาย) กับการปลุกออโรร่า นักเขียนสาวที่มีจุดหมายในการเดินทางไปยังดาวอาณานิคมใหม่เป็นเวลาหนึ่งปี เพียงเพราะเธออยากจะไปบันทึกเรื่องราว เรียบเรียงและเดินทางกลับมายังดาวโลก เป็นอีกหนึ่งแนวคิดที่น่าสนใจ เนื่องจากระยะเวลาในการเดินทางไปกลับนั้นกินเวลาถึง 120 ปีด้วยกัน นั่นหมายความว่า ในขาไปออโรร่าจะต้องบอกลาคนรู้จักบนโลก เพราะกว่าเธอจะตื่นขึ้นที่ดาวดวงใหม่ คนที่เธอเคยรู้จักก็คงตายกันหมดแล้ว เฉกเช่นเดียวกันกับทริปขากลับ

สิ่งที่ทำให้ตัวละครอย่างออโรร่ารู้สึกโกรธ ฟูมฟาย และเคียดแค้นสิ่งที่จิมทำ เพียงเพราะอารมณ์ชั่ววูบ และแน่นอนว่ามันเป็นการละเมิดชีวิตของคนอื่นอย่างชัดเจนและไร้ข้อแก้ตัวใดๆ แต่เมื่อมองในอีกมุมหนึ่งเราจะพบว่า แท้ที่จริงแล้วคนอย่างออโรร่าที่น่าจะมีจิตวิญญาณของคนรักอิสรเสรี เธอต้องการที่จะบันทึกความทรงจำครั้งใหม่ ณ อาณานิคมแห่งใหม่ ออกไปเผชิญโลกกว้าง เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ทำให้เมื่อหนังดำเนินไปสู่จุดไคลแม็กซ์ที่ยานสตาร์ชิป อวาลอนกำลังอยู่ในสภาวะวิกฤติและอาจจะระเบิดพังพินาศไปในอวกาศโดยไม่ไปถึงจุดหมาย การตัดสินใจของออโรร่าเพื่อร่วมมือกับจิม ในการกู้ยานจึงกลายเป็นความจำเป็นที่ทำให้ทั้งสองกลับมาประสานรอยร้าวกันอีกครั้ง และเพื่อที่ทั้งสองคนจะได้มีชีวิตต่อไป อย่างน้อยก็บนยานลำนี้ เพื่อได้ “ใช้ชีวิต” ที่พวกเขายังเหลืออยู่

ทั้งหมดทั้งมวลเราจะเห็นได้ว่าการ “ตัดสินใจ” ของตัวละครล้วนแล้วแต่เป็นทางเลือกในการใช้ชีวิต ไม่ว่าจะเป็นการปลุกหญิงแปลกหน้าบนยานอวกาศ หรือการถือโทษโกรธเคืองของออโรร่าต่อจิม กระทั่งบทสรุปที่ตัวละครทั้งสองตัดสินใจแบบในตอนจบของเรื่อง เหล่านี้ทำให้เรามองเห็นว่า “ในการเดินทางครั้งสุดท้าย” ของแต่ละคนนั้น บางครั้งเราอาจจะไม่มีโอกาสเลือกตอนจบได้ดังใจ แต่ระหว่างทางของการมีชีวิตอยู่นั้น เราสร้างเรื่องราวให้กับคนรุ่นหลังจดจำเราอย่างไร น่าจะสลักและสำคัญกว่า

ในทุกการเดินทางมีเรื่องราวเสมอ และถ้าหากไม่มีคนอย่างจิม เพรสตันและออโรร่า บางทียานสตาร์ชิป อวาลอนอาจจะไปไม่ถึงจุดหมายปลายทางก็เป็นได้

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook