Free Guy 2 เตรียมตัวมีภาคต่อ ส่วนในไทยภาคแรกจะได้ดูกันในโรงภาพยนตร์หรือไม่!

Free Guy 2 เตรียมตัวมีภาคต่อ ส่วนในไทยภาคแรกจะได้ดูกันในโรงภาพยนตร์หรือไม่!

Free Guy 2 เตรียมตัวมีภาคต่อ ส่วนในไทยภาคแรกจะได้ดูกันในโรงภาพยนตร์หรือไม่!
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

Free Guy เป็นหนังที่บรรดาคอเกมเมอร์ดูแล้วคงจะอินและมีความสุขกันอย่างแน่นอน เพราะตัวหนังบอกเล่าเรื่องราวของ กาย (ไรอัน เรย์โนลด์) นายธนาคารที่มีชีวิตอยู่ในโลกของเกม Open World ซึ่งมีวิถีชีวิตแสนซ้ำซากวนลูปไปมา ตามบทบาทที่เขาได้รับประจำเกม แต่แล้ววันดีคืนดีเขามีความคิดที่อยากจะผันตัวมาเป็นฮีโร่ซัดกับเหล่าร้ายในเกมนี้ขึ้นมาบ้าง จนกระทั่งวันหนึ่งกายได้รับแว่น VR ที่จะทำให้เขาสามารถออกนอกบทเดิมและสามารถกำหนดเส้นทางชีวิตของตัวเองในเกมได้ตามใจชอบ ความสนุกและความวุ่นวาย จากการตัดสินใจของกายจึงเริ่มต้นขึ้น

โดยผลงานหนังเรื่อง Free Guy เป็นการกำกับของชอว์น เลวี่ ผู้สร้างสรรค์ซีรีส์ดัง Stranger Things รวมไปถึงนั่งแท่นกำกับไตรภาค Night at the Museum โดยหลังจากที่เปิดตัวสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาหนังสามารถทำรายได้เปิดตัวที่ 10.5 ล้านเหรียญฯ จากการเข้าฉายในโรงภาพยนตร์อเมริกา 4,165 โรง และคาดการณ์กันว่าเมื่อครบสุดสัปดาห์หนังน่าจะทำเงินอยู่ที่ 26 ล้านเหรียญฯ ประกอบกับการที่หนังเรื่องนี้ยึดข้อตกลงในการเข้าฉายในโรงภาพยนตร์อย่างน้อย 45 วันก่อนจะปล่อยลงทางสตรีมมิ่ง ดูเหมือนเป็นนิมิตหมายอันดีที่ทำให้รายได้ของหนังเรื่องนี้ออกมาน่าพอใจ

นอกจากอย่าง Free Guy ที่เข้าฉายในโรงภาพยนตร์สัปดาห์นี้แล้ว ถึงแม้ว่าประชาชนคนอมริกันหลายคนอาจจะยังไม่แน่ใจกับการกลับเข้าโรงภาพยนตร์ แต่ดูเหมือนบรรดาค่ายหนังอีกหลายค่ายก็ดูเหมือนจะโนสนโนแคร์ เพราะมีหนังอีกหลายเรื่องพาเรดเข้าฉายพร้อมๆกันอาทิ หนังภาคต่อของลุงบอดมหาประลัยอย่าง Don't Breathe 2 ซึ่งทำรายได้เปิดตัวอยู่ที่ประมาณ 4.4 ล้านเหรียญฯ คำวิจารณ์ก้ำๆกึ่งทั้งชอบและด่าในปริมาณพอๆกัน หรือหนังชีวประวัติหวังรางวัลเรื่อง Respect ซึ่งได้ดีว่าส์อย่างเจนนิเฟอร์ ฮัดสันมาสวมบทเป็นอารีธา แฟรงคลิน ทำรายได้เปิดตัวอยู่ที่ประมาณ 3.6 ล้านเหรียญฯ

ด้วยวี่แววความรุ่งของ Free Guy ทำให้หนังเรื่องนี้จะได้รับไฟเขียวในการสร้างภาคต่อจากดิสนีย์ แม้ว่าตอนแรกหนังเรื่องนี้จะถูกสร้างสมัยอยู่ภายใต้ชายคาของสตูทเวนตี้ เซนจูรี่ฟอกซ์ก็ตาม แต่หลังจากการควบรวมค่ายหนังทำให้หนังเรื่องนี้มาอยู่ภายใต้การดูแลของดิสนีย์ในเวลาต่อมานั่นเอง

นอกจากความสำเร็จด้านรายได้แล้ว หนังเรื่องนี้ยังมีเรื่องราวที่สดใหม่ น่าสนใจและสามารถขยายประเด็นในหนังเพิ่มเติมได้ พูดง่ายๆมีโอกาสจะขยายจักรวาลได้ในอนาคตและเมื่อมันเป็นเรื่องราวของเกม Free Guy อาจจะสามารถผูกโยงกับเรื่องราวอะไรก็ได้ภายใต้ลิขสิทธิ์ของฟอกซ์หรือดิสนีย์ (แค่คิดก็สนุกแล้ว)

มีการคาดการณ์ไปต่างๆนานาว่าในภาคต่อของ Free Guy จะเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับอะไร จะเกี่ยวข้องกับโลกวิดีโอเกมแบบเดียวกับหนังภาคแรกไหม หรือมีความเป็นไปได้ที่จะดึงหนังแอนิเมชั่นที่ว่าด้วยโลกของเกมอย่าง Wreck-It Ralph มาเชื่อมโยง แต่อะไรก็สามารถเกิดขึ้นได้ทั้งนั้น ขนาดที่สตูดิโออย่างมาร์เวลยังวางแผนจะแตกจักรวาลออกเป็นหลายเส้นไทม์ไลน์ได้ ดิสนีย์จะเชื่อมโยงโลกของเกมก็คงไม่ใช่เรื่องเกินฝัน

นอกจาก Free Guy แล้วขอวกกลับมาพูดถึงหนังสยองขวัญภาคต่ออย่าง Don't Breathe 2 กันสักนิดหลังจากที่ภาคแรกที่ออกฉายในปี 2016 ทำรายได้ทั่วโลกอย่างถล่มทลายถึง 157 ล้านเหรียญฯ จากต้นทุนเพียง 9 ล้านเหรียญฯ แถมทำให้ลุงบอดอย่างสตีเฟ่น แลงกลายเป็นนักแสดงที่มีชื่อเสียงมากขึ้น

เรื่องราวใน Don't Breathe 2 จะเป็นการพลิกบทบาทจากเดิมที่ลุงบอดเป็นตัวร้ายสุดโหดในภาคแรก มาครั้งนี้เขาจะผันตัวกลายเป็นฮีโร่ไปซะงั้น โดยหนังจะเล่าเรื่องราวของกลุ่มโจรที่บุกเข้ามาชิงตัวเด็กสาวที่อาศัยอยู่กับนอร์แมน โดยที่ไม่รู้เลยว่าชายตาบอดที่เป็นผู้ปกครองของเขานั้นมีสกิลในการต่อสู้ชนิดที่ใครก็ไม่ควรจะมาลองดีด้วย

น่าเสียดายที่หนังภาคนี้นักวิจารณ์ค่อนข้างโจมตีว่า ตัวละครในหนังเรื่องนี้ไม่ค่อยมีพัฒนาการ สถานการณ์ที่เกิดขึ้นในเรื่องดูไม่ค่อยน่าเชื่อว่าจะเกิดขึ้นได้จริง โดยที่การแสดงของสตีเฟ่น แลงไม่สามารถโอบอุ้มหนังทั้งเรื่องได้แบบหนังภาคแรก หรือ ความไม่น่าเชื่อของตัวละครเอกที่จู่ๆผันตัวจากผู้ร้ายเลือดเย็นในหนังภาคแรกให้กลายมาเป็นฮีโร่ผู้พิทักษ์เด็กในภาคต่อแบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย

ทั้งหมดทั้งมวลไม่ว่าจะเป็น Free Guy ได้รับคำชมดิบดีแค่ไหน หรือ Don't Breathe 2 จะสู้ภาคแรกไม่ได้อย่างไร แต่แฟนหนังชาวไทยคงต้องรอกันอีกยาวกว่าโรงหนังในเมืองไทยจะกลับมาเปิดบริการอีกครั้ง และดูเหมือนว่าคงจะมีหนังฟอร์มยักษ์อีกหลายเรื่องที่เราคงไม่มีโอกาสได้ชมกันในโรงฯ ในเร็ววันนี้

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook