เทศกาลปูซานปีที่ 26 นี่แหละ Soft Power ของจริง โดย ก้อง ฤทธิ์ดี

เทศกาลปูซานปีที่ 26 นี่แหละ Soft Power ของจริง โดย ก้อง ฤทธิ์ดี

เทศกาลปูซานปีที่ 26 นี่แหละ Soft Power ของจริง โดย ก้อง ฤทธิ์ดี
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เวียนกลับมาอีกครั้งในเดือนหน้า เทศกาลภาพยนตร์นานาชาติปูซาน (Busan International Film Festival หรือ BIFF) จะจัดขึ้นที่เมืองปูซาน เมืองชายฝั่งของเกาหลีใต้ ตั้งแต่วันที่  6 ถึง 15 ตุลาคม ไม่ว่าใครจะพร้อมหรือไม่พร้อม ไม่ว่าโควิด-19 จะยังอยู่หรือหมดไป เกาหลีใต้พร้อมเสมอ และงานเทศกาลหนังที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียแห่งนี้พร้อมจะกลับมาสร้างความตื่นเต้นในวงการหนังเอเชียในช่วงเวลาหัวเลี้ยวหัวต่อนี้

ปีนี้เป็นปีที่ 26 ของเทศกาลปูซาน เช่นเคยมีหนังกว่า 190 เรื่องจากทั่วโลกได้รับเลือกมาฉาย โดยจะเน้นที่หนังเอเชียเป็นหลัก ผนวกด้วยหนังดังจากส่วนอื่น ๆ ของโลก ส่วนผู้กำกับไทยในปีนี้มี 3 ผลงานที่จะไปฉาย นำทีมโดยอภิชาตพงศ์ วีระเศรษฐกุล กับหนัง Memoria (ที่เมืองไทยยังรอโอกาสฉายอยู่) ตามด้วยจักรวาล นิลธำรงค์ กับ “เวลา” หรือ Anatomy of Time ที่เพิ่งเปิดตัวที่เวนิสและจะต่อไปปูซาน ส่วนผลงานสุดท้ายเป็นซีรี่ส์ระทึกขวัญปนไสยศาสตร์ของสองผู้กำกับ อโนชา บุญวัฒนา หรือนุชชี่ ร่วมกับ จอช คิม ผู้กำกับอเมริกัน-เกาหลี เป็นงานที่ผลิตให้ HBO Asia ชื่อเรื่อง Forbidden น่าสนใจว่าปีนี้ปูซาน ขยับมาฉายหนังซีรี่ส์ทำผลิตสำหรับสตรีมมิ่งด้วย โดยจะฉายเพียง  2 ตอนแรกขึ้นจอใหญ่ เป็นการขยายฐานของเทศกาลภาพยนตร์ให้เข้ากับยุคสมัย โดยปีนี้ นอกจาก Forbidden ของไทย จะมีอีกสองซีรีส์เกาหลีร่วมฉาย Hellbound และ My Name ทั้งคู่เป็นงานสำหรับลง Netflix

คำถามที่มักได้ยินคือ ทำไมเทศกาลปูซานถึงสำคัญหรืออยู่ในข่าวเสมอ คำถามนี้แท้จริงแล้วเชื่อมโยงกับคำศัพท์ยอดฮิตในรอบเดือน “soft power” รัฐบาลเกาหลีตั้งแต่ 26 ปีที่แล้ว ริเริ่มเทศกาลภาพยนตร์ปูซาน ก็เพราะต้องการสร้างพลังทางวัฒนธรรมให้เป็นหัวหอกการพัฒนาเศรษฐกิจและขยายอิทธิพลทางความคิดและทางการค้าไปทั่วเอเชีย และทั่วโลก ดังนั้นตั้งแต่แรกเริ่มเลย เทศกาลปูซานเป็นเวทีให้หนังเกาหลีได้เปิดตัว ให้ดาราเดินพรมแดง ให้บริษัทหนังได้ขายหนัง (ปีนี้เพิ่มซีรี่ส์เข้ามาด้วย ก็เพราะซีรี่ส์เกาหลีมาแรงทุกที่) พร้อม ๆ กันนั้น เทศกาลนี้ยังประกาศตัวเป็น “ผู้สนับสนุน” คนทำหนังชาติอื่น ๆ ในเอเชีย ประมาณว่ายุโรปมีคานส์ มีเวนิส เอเชียเราก็มีปูซานให้คนทำหนังได้มาฉายหนังเพื่อความภาคภูมิใจและเพื่อเปิดตลาด ดังนั้นตลอด 26 ปีที่ผ่านมา ปูซานผลักดันคนทำหนังเอเชียหลายร้อยคน ทั้งหน้าเก่าหน้าใหม่ ให้มีโอกาสฉายหนัง ให้ทุนทำหนัง ให้รางวัล และเปิดอะคาเดมี่สอนนักเรียนหนังจากทั่วเอเชีย  คนทำหนังไทยจำนวนมากมายที่ได้รับการช่วยเหลือด้านเงินทุน หรือการสนับสนุนด้านอื่น ๆ จากเทศกาลปูซาน ตั้งแต่ยุค นนทรีย์ นิมิบุตร มาถึง นวพล ธำรงรัตนฤทธิ์ รวมทั้งนักเรียนหนังที่มากมายที่ได้ร่วม Asia Film Academy ที่ปูซานเป็นเจ้าภาพ

สิ่งเหล่านี้ที่เรียกว่านโยบายวัฒนธรรม อันเป็นสิ่งที่เกาหลีวางแผนมานานและชัดเจน จนออกดอกออกผลต่อเนื่องมา 20 กว่าปี เทศกาลปูซานเป็นฐานให้คนทำหนังเกาหลี และยังทำให้คนทำหนังเอเชียชาติอื่น ๆ  รู้สึกผูกพันและมองปูซานว่าเป็นงานใหญ่ งานสำคัญที่มีอิทธิพลต่อการสร้างงานของตน

 

สถานการณ์โควิดทำให้งานปีที่แล้วกร่อยลงไปตามธรรมชาติ เพราะคงไปฝืนอะไรมากไม่ได้ มาปีนี้ คาดว่างานก็คงยังไม่กลับมาคึกคักเต็มพิกัด เพราะแขกต่างชาติจำนวนไม่น้อยที่ยังคงไม่สามารถเดินทางไปร่วมงานได้ แต่ถึงกระนั้น ปูซานก็จัดเต็ม เลือกหนังมาฉายเต็มที่ พร้อมออกโปรแกรมเดินพรมแดง การฉายรอบกาล่า การฉายรอบ “กลางแปลง” และงานเสวนาหรือเวิร์คชอปมากมายเต็มไปหมด โดยหนังเปิดเทศกาลจะเป็นหนังเกาหลีของผู้กำกับอิม ซางซู เรื่อง Heaven: To The Land of Happiness ในคืนวันพุธที่ 6 ตุลาคม

เช่นเคย สายประกวดหลักของปูซานเรียกว่า New Currents เป็นการคัดภาพยนตร์เรื่องที่ 1 หรือ 2 ของผู้กำกับหน้าใหม่จากเอเชียมาประกวด (ทั้งนี้เพื่อเป็นการสนับสนุนคนรุ่นใหม่)  นอกจากนี้ยังมีโปรแกรมอื่น ๆ อีกเพียบ ทั้งโปรแกรมหนังเกาหลีใหม่ ฉายโชว์กันไป 30 กว่าเรื่อง ผสมด้วยหนังดังจากทั่วโลกอื่นๆ ทั้งหนังจากคานส์ เวนิส เบอร์ลิน (หนังของอภิชาติพงศ์ และ จักรวาล ก็อยู่ในสายเหล่านี้) ปีนี้ยังมีโปรแกรมพิเศษเฉพาะสำหรับผู้กำกับจีน และโปรแกรม Wonder Women Movies หรือหนังโดยผู้กำกับหญิงจากทั่วเอเชีย นี่เป็นโปรแกรมที่น่าสนใจ เพราะเป็นการไล่เรียงหนังสำคัญของคนทำหนังผู้หญิงตั้งแต่ มีรา แนร์ ของอินเดีย โดยจะฉาย Salaam Bombay! ซามีร่า มัคมาลบาฟ จากอิหร่านกับ Blackboards มาถึงนาโอมิ คาวาสะ กับ Suzaku รวมทั้งหนังจากผู้กำกับหญิงชาวซาอุ ไฮฟา อัลมันซูร์ เรื่อง Wadjda และอื่น ๆ อีกหลายคน

รอดูกันต่อไปว่าเทศกาลหนังปูซานในเดือนหน้า จะสามารถเรียกความตื่นเต้นกลับมาสู่แวดวงหนังเอเชียได้มากน้อยเพียงใดในสถานการณ์ที่โรคระบาดยังซุ่มโจมตีชาวโลกอยู่เช่นตอนนี้

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook