"จอห์นนี เดปป์" ขอสานต่อตัวละครกัปตัน "แจ็ก สแปร์โรว์" แม้ต้องแสดงในงานวันเกิดเด็ก
เป็นที่ทราบกันดีว่าหลังจากคดีความระหว่าง จอห์นนี เดปป์ (Johnny Depp) กับอดีตภรรยาของเขา แอมเบอร์ เฮิร์ด (Amber Heard) ที่มีเรื่องฟ้องร้องคาราคาซังกันยาวนาน ส่งผลกระทบต่อด้านอาชีพการแสดงของเดปป์โดยตรง ทั้งการต้องออกจากบท กรินเดลวาลด์ ในหนังแฟรนไชส์ ‘Fantastic Beasts’
และที่ปวดใจสำหรับเขามากที่สุดคือการไม่สามารถกลับไปรับหนึ่งในบทที่น่าจดจำที่สุดในอาชีพการแสดงของเขาอย่าง กัปตันแจ็ก สแปร์โรว์ ในหนังแฟรนไชส์ ‘Pirates of the Caribbean’ ได้อีก ด้วยทั้งจากปัญหาภาพลักษณ์จากคดีส่วนตัวของเขาเอง และทางดิสนีย์ต้องการรีบูตแฟรนไชส์มากกว่าจะสร้างภาค 6 ของแฟรนไชส์ให้ยิ่งยาวนานซ้ำซากต่อไป หลังจาก ‘Pirates of the Caribbean: Dead Men Tell No Tales’ ในปี 2017
โดยในระหว่างการให้สัมภาษณ์ของเดปป์ในโอกาสที่ได้รับรางวัลจากเทศกาลภาพยนตร์ ซาน เซบาสเตียน (San Sebastian Film Festival) ที่ผ่านมา เดปป์ได้เผยความในใจของเขาออกมาหลังจากถูกถามถึงเรื่องของวัฒนธรรมการตัดจบหรือยกเลิกในอุตสาหกรรมบันเทิง โดยเดปป์ได้อิงถึงตัวละครกัปตันโจรสลัดของเขาด้วยว่า
“ผมจะไม่มีวันทิ้งตัวละครนี้เด็ดขาด” เดปป์บอกว่าเขาพร้อมจะเล่นเป็นกัปตันแจ็ก สแปร์โรว์ในทุกโอกาสที่เป็นไปได้ เขาอยากสร้างรอยยิ้มและเสียงหัวเราะให้กับผู้คน และในทุกโอกาสที่ว่านี้ นั่นหมายถึงแม้แต่การยอมเป็นนักแสดงรับจ้างในวันเกิดของเด็ก ๆ เพื่อให้ได้สวมชุดกัปตันแจ็ก สแปร์โรว์ด้วยก็ตาม
“หนึ่งในเรื่องดีที่เกิดขึ้นจากการที่ผมได้สร้างตัวละครนี้ให้มีชีวิตขึ้นมา (ไม่เพียงแค่มีชีวิตอยู่ในภาพยนตร์-ขยายความเพิ่มโดยผู้แปล) ผมอาจจะไปที่บ้านของใครสักคน ผมจะไปแสดงเป็นกัปตันในงานวันเกิดลูกของคุณก็ได้นะ ณ จุดนี้แล้ว”
“ผมไม่ต้องขอบริษัทใดมาสนับสนุนในเรื่องนี้ ผมทำของผมเองได้และใครก็ไม่สามารถมาห้ามผมได้ มันคือความสุขยิ่งใหญ่ในฐานะกัปตันแจ็ก สแปร์โรว์ เมื่อจังหวะเวลาเหมาะสมผมจะผจญภัยไปกับกัปตันและออกไปเยี่ยมผู้คน สร้างเสียงหัวเราะให้พวกเขา”
นอกจากนี้เดปป์ยังได้พูดเรื่องของวัฒนธรรมการตัดจบหรือยกเลิกในอุตสาหกรรมบันเทิง ที่เห็นได้ชัดเช่นการไม่อนุมัติสร้างซีซั่นต่อของซีรีส์ต่าง ๆ หรือการเปลี่ยนตัวนักแสดงกลางคันที่ผู้ชมน่าจะคุ้นเคยว่า
“วัฒนธรรมที่ว่านี้เป็นเรื่องของการด่วนสรุปด่วนตัดสินจากบรรยากาศไม่ดีที่อยู่รอบ ๆ ไม่มีใครที่จะปลอดภัยจากวัฒนธรรมนี้อีกแล้ว ไม่มีเลย เมื่อคุณถูกตัดสินมันก็ไม่มีพื้นที่ให้คุณอีกต่อไป มันเกิดได้กับทุกคน ทุกเพศ ไม่ใช่แค่เรื่องที่เกิดกับผม น่าเศร้าที่ทุกคนคิดว่ามันก็ปกตินี่ แต่โอ้ ไม่นะ มันไม่ปกติเลยสักนิด คำตัดสินใด ๆ ถ้ามันไม่ยุติธรรม อย่ายอม ลุกขึ้นมาปกป้องคนที่คุณรักเถอะ เพราะพวกเขาต้องการคุณจริง ๆ”