[เปิด Netflix มารีวิว] The Guilty เรื่องระทึกที่ปลายสาย

[เปิด Netflix มารีวิว] The Guilty เรื่องระทึกที่ปลายสาย

[เปิด Netflix มารีวิว] The Guilty เรื่องระทึกที่ปลายสาย
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

การเปิดเรื่องมาที่นครลอสแอนเจลิส ประเทศสหรัฐอเมริกา ที่กำลังเผชิญกับสถานการณ์ไฟไหม้ป่าครั้งใหญ่ ส่งผลให้ทั้งเมืองถูกปกคลุมไปด้วยสภาพอากาศอันเลวร้าย ทัศนวิสัยที่ไม่เอื้อต่อการเดินทาง เจ้าหน้าที่ตำรวจโจ เบย์เลอร์ (เจค จิลเลินฮาล) ผู้ปฏิบัติหน้าที่เป็นโอเปอร์เรเตอร์ในการรับแจ้งเหตุด่วนเหตุร้าย ต้องคอยรับสายขอความช่วยเหลือมากมาย ไม่ว่าจะเป็นคนหกล้ม โดยโสเภณีที่ตัวเองซื้อบริการขู่กรรโชกทรัพย์ เป็นต้น แน่นอนว่างานรับโทรศัพท์เช่นนี้ เป็นงานที่ต้องนั่งรองรับอารมณ์จากคนปลายสายที่อยู่ในอาการหวาดกลัว ตกใจ ไปจนถึงโกรธเพราะไม่ได้ความช่วยเหลือทันใจตามต้องการ

ระหว่างที่โจกำลังเคร่งเครียดอยู่กับปัญหาชีวิตครอบครัวของตัวเอง จู่ๆมีโทรศัพท์ปริศนาที่โทรมาขอความช่วยเหลือแบบอ้อมๆจากเอมิลี่ (ไรลีย์ คีโอ) หญิงสาวที่อ้างว่าเธอถูกลักพาตัวจากสามีของตัวเอง และกำลังตกอยู่ในอันตราย มิหนำซ้ำลูกของเธอยังถูกปล่อยทิ้งไว้ที่บ้านเพียงลำพัง ระหว่างการแกะรอยว่าเอมิลี่อยู่ที่ไหนบนท้องถนน คือโจทย์สำคัญที่โจจะต้องประสานกับตำรวจสายตรวจภาคสนามให้ค้นหารถที่จับตัวเอมิลี่ให้เจอ โดยระหว่างทางความระทึกขวัญก็เกิดขึ้นเรื่อยๆ มิหนำซ้ำ “ความผิดบางอย่าง” ที่โจเคยก่อ ก็เหมือนจะเป็นอีกปัจจัยสำคัญที่ทำให้เขาเองไม่สามารถควบคุมอารมณ์และความรู้สึกได้อย่างที่ควร

จุดโดดเด่นประการสำคัญคือหนังเรื่องนี้เลือกที่จะนำเสนอเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมด ผ่านตัวละครโจ เบย์เลอร์เพียงด้านเดียว โดยผู้ชมไม่มีโอกาสได้เห็น “โฉมหน้า” ของคนที่อยู่ปลายสายโทรศัพท์เลยสักคน เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด อยู่ในศูนย์บัญชาการรับเรื่องร้องเรียน เปิดโอกาสให้ผู้ชมต้องจินตนาการตามเรื่องราวที่ตัวละครกำลังบอกเล่า ไม่ว่าจะเป็นเอมิลี่ ลูกสาวของเอมิลี่ นายตำรวจเพื่อนสนิทของโจ ภรรยาของโจที่แยกทางกันเพราะปัญหาบางอย่าง

แน่นอนว่าเมื่อเป็นหนังทริลเลอร์ที่เกิดขึ้นอยู่ในพื้นที่เดียว คนที่จะต้องรับหน้าที่ในการโอบอุ้มหนังทั้งเรื่องคงหนีไม่พ้นพระเอกอย่างเจค จิลเลินฮาลที่ต้องแบกอารมณ์หนักๆตลอดทั้งเรื่อง และส่งผ่านอารมณ์เหล่านั้นให้มาถึงผู้ชม ซึ่งเราจะได้เห็นผู้ชายอารมณ์ร้อนที่กำลังเจอมรสุมชีวิตรอบด้าน ไม่ว่าจะเป็นปัญหาสุขภาพกาย สุขภาพจิต รวมไปถึงการถูกโยกย้ายจากตำแหน่งงานภาคสนามมานั่งรับโทรศัพท์และต้องคอยแบกรับ “อารมณ์” จากคนที่เขาไม่เคยรู้จักแทบทุกไม่กี่นาที

อย่างไรก็ตาม ถ้าคนเคยดูหนังทริลเลอร์มาประมาณหนึ่งคงจะเริ่มจับพิรุธของหนังได้ตั้งแต่ช่วงกลางเรื่อง ซึ่งจุดหักมุมของเรื่องไม่ได้เล่นใหญ่เหนือความคาดหมายนัก และก็ไม่ได้หักหลังคนดูอีกเช่นกัน ถ้าใครกำลังมองหาหนังตื่นเต้นชวนน่าติดตาม The Guilty เป็นหนังสุดสัปดาห์นี้ที่ไม่ควรพลาดสตรีมมิ่ง

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook