คุยกับผู้กำกับ เหอรุ่นตง (Peter Ho) ผู้สร้างละครชีวิตผ่านซีรีส์ Who’s By Your Side
ซีรีส์ Who's By Your Side《誰在你身邊》ออริจินัลซีรีส์เรื่องใหม่จาก HBO Asia โดยผู้กำกับ เหอรุ่นตง หรือ ปีเตอร์ โฮ (Peter Ho) ผู้คร่ำวอดในงานแสดงเบื้องหน้าก่อนผันตัวเป็นผู้กำกับ เจ้าของรางวัล Golden Bell กับผลงานสร้างซีรีส์ดราม่าเข้มเรื่องล่าสุด ที่หยิบความสัมพันธ์คู่รักมาเล่าเรื่องราวอย่างเข้มข้น
Who’s By Your Side เล่าเรื่องราวความสัมพันธ์และความท้าทายในการใช้ชีวิตคู่ เผยให้เห็นถึงความเจ็บปวด ตลอดจนภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออกของตัวละครผ่านมุมมองการใช้ชีวิตประจำวันของพวกเขา นำแสดงโดย ไคเซอร์ จวง (Kaiser Chuang) มารับบท Zhi-Sheng ช่างซ่อมรถยนต์ผู้มีหนี้สินติดตัว และ วิเวียน ซู (Vivian Hsu) รับบท Yong-Jie ภรรยาผู้ใจกว้างและมองโลกในแง่ดีของเขาซึ่งทำงานสองอย่างเพื่อหารายได้มาช่วยสามีชำระหนี้
เมื่อ Zhi-Sheng กล่าวหาอย่างไร้เหตุผลว่าผู้เป็นภรรยานั้นนอกใจ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้ Yong-Qi น้องสาวของ Yong-Jie ที่รับบทโดย จาง จวินหนิง (Ning Chang) รู้สึกประหลาดใจ และสะกิดให้ความคลางแคลงใจในชีวิตแต่งงานที่สมบูรณ์แบบระหว่างเธอกับ Hao-Yuan รับบทโดย เฉิน เอินเฟิง (Ivan Chen) ซึ่งมาจากครอบครัวที่ร่ำรวยและเป็นที่เคารพนับถือเกิดปะทุขึ้น โดยปล่อยให้ได้รับชม 3 ตุลาคมที่ผ่านมา
งานนี้ผู้กำกับ เหอรุ่นตง (Peter Ho) ได้ให้สัมภาษณ์พูดคุยกับสื่อมวลชนไทย พูดถึงเรื่องราวของซีรีส์ความยาว 10 ตอนที่อัดแน่นไปด้วยอารมณ์ความรู้สึกผ่านตัวละครเหล่าคู่รักแบบเข้มข้นเจาะลึก จะเป็นอย่างไรบ้างไปติดตามจากบทสัมภาษณ์นี้ได้เลย
บทสัมภาษณ์ผู้กำกับเหอรุ่นตง (Peter Ho)
ในฐานะที่คว้ารางวัลผู้กำกับยอดเยี่ยมจากเรื่อง Age of Rebellion มาแล้ว การมานั่งแท่นผู้กำกับในเรื่อง Who’s By Your Side มีความคาดหวัง ความยากง่ายแตกต่างจากเรื่องก่อนหน้านี้ยังไงบ้างคะ แล้วอะไรเป็นแรงบันดาลใจที่จุดประกายให้เปลี่ยนแนวจากซีรีส์แนววัยรุ่น การเติบโต มาเป็นแนวที่สะท้อนชีวิตคู่สามีภรรยา รวมไปถึงความสัมพันธ์ของพี่น้องในเรื่องนี้?
Peter Ho: ผมคิดว่าน่าจะมี 2 เหตุผล เหตุผลแรกคือ ผมคาดหวังว่าผลงานแต่ละชิ้นจะไม่เหมือนกัน เพราะผมเป็นผู้กำกับที่ผลิตผลงานในแต่ละปีออกมาไม่เยอะ ผมจึงไม่อยากให้ผลงานที่ผมกำกับออกมาเป็นแนวอุตสาหกรรมแบบโรงงานที่ผลิตสินค้าออกมาในรูปแบบซ้ำๆเดิมๆ เพราะฉะนั้นผมหวังว่าในทุกครั้งที่ผมกำกับ ผมก็จะกลับไปเป็นศูนย์แล้วมีความกระตือรือร้นในการเริ่มต้นไปถ่ายทำใหม่ อย่างในเรื่อง Age of Rebellion จะเป็นเรื่องที่วัยรุ่นหน่อย แต่ว่าเรื่องนี้ด้วยความที่ผมแต่งงานแล้ว ดังนั้นจึงมีมุมมองความเข้าใจต่อการแต่งงานที่ไม่เหมือนเดิม อีกทั้งยังสอดคล้องกับสภาพจิตใจในปัจจุบันของผม เนื้อเรื่องไม่เหมือนกัน การแสดงออกก็จะไม่เหมือนกัน ตัยวอย่างเช่นเรื่อง Age of Rebellion ผมจะแพลนกล้องแบบเร็ว วัยรุ่นก็จะเป็นการถ่ายสลับฉากให้ผ่านไปเร็ว แต่ว่าเรื่อง Who's By Your Side ผมจะใช้ซีนยาว จะไม่ตัดฉากสลับไปมาเยอะ เป็นฉากที่ยาวแล้วก็ค่อนข้างเสถียร ผมอยากจะให้ผู้ชมได้รับรู้และเห็นถึงความรู้สึกของตัวละครแต่ละตัว ไม่อยากจะตัดซีนสลับไปมาตัดอารมณ์ความรู้สึกผู้ชม
ทำไมถึงเลือกเล่าเรื่องความสัมพันธ์คู่ชีวิตผ่านตัวละคร สามีไม่เอาไหน กับ ภรรยาใจกว้าง ซึ่งดูเป็นการจับคู่ต่างขั้ว ที่อาจจะสร้างความอึดอัดใจให้คนดูตั้งแต่เริ่มเรื่อง
Peter Ho: ในชีวิตจริงจะมีคู่สามีภรรยาแบบนี้เยอะมาก ทุกคนจะชินกับหนังหรือซีรีส์ที่นำเสนอเรื่องราวในด้านดีๆของคู่รัก สามีภรรยาเข้ากันได้ดี เหมาะสมกันมาก แต่ในชีวิตจริงแล้ว ผมเจอเยอะมาก ผมมีเพื่อนผู้หญิงคนหนึ่งบอกกับผมว่าสามีของเธอนั้นไม่ดีต่อเธอเลย สามีของเธอก็ไม่ได้หน้าตาดี ส่วนผู้หญิงหน้าตาดีมาก พวกเราก็เลยบอกว่าทำไมเธอไม่เลิกกับเขาล่ะ เธอต้องมีโอกาสเจอคนอื่นที่ดีกว่านั้นแน่นอน แต่ว่าเรื่องของความรู้สึกมันเป็นเรื่องที่พูดยาก เธออาจจะชอบจุดไหนของเขาสักอย่าง ดังนั้น Yung-Jie ชอบ Zhi-Sheng ที่ตรงไหน ไม่ใช่แค่ภายนอกหรือเรื่องของเงินแน่ๆ เพราะว่าถ้าเขาชอบที่ภายนอกและเงินล่ะก็ นั่นไม่ใช่ Yung-Jie แล้ว นั่นถือว่าเป็นคนที่ผิวเผินมาก งั้น Yung-Jie เห็นอะไรในตัวเขาล่ะ เห็นว่าเขาเป็นคนที่เรียบง่าย น่ารัก บริสุทธิ์ มีผู้หญิงบางประเภทที่มีความเป็นแม่สูงมาก พวกเธอมักจะชอบดูแลฝ่ายตรงข้าม ที่จริงแล้วในสังคมมีคนแบบนี้เยอะมาก เวลาคุณดูข่าวก็จะเห็นข่าวเกี่ยวกับการใช้ความรุนแรงภายในครอบครัว แต่ทำไมผู้หญิงถึงไม่จากผู้ชายคนนั้นมาล่ะ เพราะว่าเธอทิ้งเขาไม่ลง มีบางอย่างที่คนนอกอย่างเรายากที่จะเข้าใจ ดังนั้นความซับซ้อนของมนุษย์ก็อยู่ตรงนี้ ความซับซ้อนทางอารมณ์ก็อยู่ตรงนี้ ไม่ใช่ว่าซีรีส์รักที่ดำเนินตามรูปแบบ ABC จะสามารถสรุปความเป็นมนุษย์ ได้ทั้งหมด ความเป็นมนุษย์ ในรูปแบบ A-Z ยังครอบคลุมได้ไม่หมดเลย ดังนั้นผมแค่เลือกนำความเป็นไปได้ 1 ใน 10 ส่วนของความเป็นมนุษย์แสดงออกมาเท่านั้นเอง
นอกจากปัญหาเรื่องความสัมพันธ์ของตัวละครแล้ว จะมีอะไรให้ผู้ชมได้ลุ้นเเละประทับไปกับซีรีส์เรื่องนี้ไหม
Peter Ho: ผมรู้สึกว่าสิ่งที่ผมอยากจะให้จดจำมากที่สุดในเรื่องก็คือ “ตัวละคร” เพราะว่าเรื่องนี้ไม่ได้ใช้เหตุการณ์ใดเหตุการณ์หนึ่งดึงดูดผู้ชม ยกตัวอย่างเช่น หนังต่อสู้เขาใช้ฉาก/เรื่องราวมาดึงดูดคน สิ่งที่ประเทศไทยถนัดที่สุดก็คือหนังน่ากลัว แต่ว่าซีรีส์เรื่องนี้ผมอยากให้ผู้ชมโฟกัสและตามติดชีวิตของตัวละครว่าต่อไปพวกเขาจะตัดสินใจอย่างไร พวกเขามีสิ่งไหนที่เหมือนกันกับชีวิตของพวกเรา ชีวิตพวกเขาหลังจากนี้มีอะไรที่คล้ายกับพวกเราบ้างหรือไม่
ด้วยความที่เรื่องนี้เกี่ยวกับความสัมพันธ์ของสามีภรรยาและครอบครัว ซึ่งตัวคุณเองก็มีครอบครัวที่อบอุ่นและน่ารักมากๆ คุณคิดว่าสิ่งที่สำคัญที่ทำให้ “ครอบครัว” อยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขคืออะไร
Peter Ho: ผมว่าการสื่อสารเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด ผู้หญิงส่วนใหญ่มักจะรู้สึกถึงความไม่ปลอดภัย เพราะว่าไม่ได้สื่อสารกัน ผู้ชายส่วนใหญ่มักจะไม่ได้ใช้คำพูดหรือการกระทำแสดงออกมาให้ฝ่ายหญิงรู้สึกวางใจ คู่สามีภรรยาหลายคู่ที่ทะเลาะกันอย่างรุนแรง ต่างก็มีสาเหตุมาจากปัญหาเล็กๆ ทั้งนี้เป็นเพราะการขาดการสื่อสารจึงทำให้เกิดความเข้าใจผิด การสื่อสารทำให้เรารู้ว่าฝ่ายตรงข้ามต้องการอะไร ฝ่ายตรงข้ามใส่ใจเรื่องอะไร ทุกครั้งที่เราสื่อสารกันแล้วอาจจะมีการทะเลาะกันบ้าง แต่หลังจากที่ทะเลาะกันแล้วก็จะเป็นผลดีต่อทั้งสองฝ่าย อย่ากลัวที่จะทะเลาะกัน อย่ากลัวที่จะสื่อสารกัน
เห็นว่าคุณเขียนบทเองด้วย ได้แรงบันดาลใจในในการเขียนบทมาจากไหน
Peter Ho: เรื่องนี้ดัดแปลงมาจากนิยาย ชื่อว่า Huangwen เป็นนิยายสยองขวัญ เนื้อหาต้นฉบับจะน่ากลัวตลอดทั้งเรื่องเลย ตอนที่ผมเขียนบท ผมยิ่งเขียนก็ยิ่งอยากจะใส่ตัวละครเข้าไป เพื่อลดความน่ากลัวลง จากเดิมที่น่ากลัว100 เปอร์เซ็นต์ลดลงเหลือเพียงแค่ 5 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น อีก 95 เปอร์เซ็นต์ใส่เนื้อหาของตัวละครลงไปเป็นหลัก ผมกำกับเรื่องนี้กับเรื่องที่แล้วมีนักแสดงหลายท่านถามว่า ตอนสมัยเด็กๆ ผมพบเจอเรื่องที่มันเลวร้ายมามากแค่ไหนเหรอ ทำไมถึงมีความคิดแบบนี้ จริงๆผมรู้สึกว่าครอบครัวของผมมีความสุขมากนะ แต่เนื่องจากผมเป็นนักแสดงมานาน ผมชินที่จะซึมซับและสังเกตสิ่งรอบข้างเก็บไว้ในตัวผม พอถึงเวลาหนึ่ง คุณก็อยากจะปลดปล่อยสิ่งที่คุณสังเกตมาตลอด และเสริมสิ่งที่คุณต้องการแสดงออกลงไป ถ้าดูจากข่าวสังคมหรือเพื่อนๆรอบข้าง จะเห็นได้ว่าปัญหาเกิดจากสิ่งเล็กๆ และสั่งสมเกิดเป็นปัญหาใหญ่ จนกระทั่งไม่สามารถแก้ไขได้ คุณไม่รู้เลยว่าสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นได้จากจุดเล็กๆเท่านั้น ผมมักจะเห็นข่าวเพื่อนสนิทที่แทงกันจนตาย สาเหตุก็มาจากปัญหาเล็กๆน้อยๆ เช่นกัน
ถ้าจะให้จำกัดความซีรีส์ที่เป็นคีย์เวิร์ดสัก 1 คำ/ประโยค จะให้จำกัดความซีรีส์เรื่องนี้ว่าอะไร เพราะอะไร
Peter Ho: “ละครอารมณ์ชีวิตจริง” เพราะว่าซีรีส์เรื่องนี้ได้ถ่ายทอดชีวิตและอารมณ์ของคนจริงๆ ซีรีส์ส่วนใหญ่มักจะใส่ความสวยงามให้กับชีวิต ผมว่ามันเป็นเรื่องที่ดีนะ เพราะว่าสังคมต้องการอะไรแบบนี้ เป็นพลังบวก มีความสุขและสดใส โดยทั่วไปแล้วละครมักจะให้พระเอกนางเอกมีรัศมีเปล่งประกาย และใส่อารมณ์ความสวยงามลงไป แต่ว่าเรื่องนี้ตัดความสวยงามทางอารมณ์ความรู้สึก เขียนความสัมพันธ์ของมนุษย์ในด้านที่ค่อนข้างมืดมน แต่ผมไม่อยากจะใส่ด้านมืดหรือความน่ากลัวลงไป สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่ประเด็นหลัก ประเด็นหลักคือการพูดถึงเกี่ยวกับ “คน” สิ่งอื่นๆเป็นเพียงแค่ส่วนประกอบเท่านั้น
คุณสร้างตัวละคร Zhi-Sheng ขึ้นมาอย่างไร มีคนหรือเคสไหนในชีวิตจริงที่ต้องการให้คุณสร้างเขาและบอกเรื่องราวของเขาให้โลกได้รับรู้ไหม
Peter Ho: ผมมีเพื่อนหนึ่งคน เขาอยากจะหาทางลัดของชีวิตเลยไปเล่นการพนัน เล่นจนหมดตัวเลย ซึ่งจริงๆแล้ว ผมคิดว่ามาตรฐานของสังคมควรจะเป็นลักษณะ คุณทำเท่าไหร่คุณก็จะได้รับกลับมาเท่านั้น แต่ว่าทำไมถึงยังมีบ่อนการพนัน เพราะว่าพวกเขาใช้ประโยชน์จากความอ่อนแอของมนุษย์ มนุษย์ชอบเดินทางลัด ชอบอะไรที่ได้มาง่ายๆ แต่ทำไมพวกเรายังต้องขยันทำงานกันอยู่ ก็เพราะว่ามันคือมาตรฐานของสังคม พ่อแม่สั่งสอนเรามาแบบนี้ ผมอยากให้ตัวละคร Zhi-Sheng สะท้อนถึงจุดนี้ และเนื่องจากรอบข้างผมก็ยังมีคนแบบนี้อยู่ ผมหวังว่าทุกคนจะใช้ชีวิตอย่างมีสติ คิดว่าจะควรทำงานอย่างตั้งใจหรือว่าจะใช้ทางลัด คุณสามารถเดินทางลัดได้ แต่คุณก็ต้องยอมรับกับสิ่งที่คุณจะต้องแลกมาให้ได้ด้วย
ช่วยพูดถึงนักแสดงหญิงอีก 2 ท่านหน่อยค่ะว่า ประทับใจอะไรในตัวของวิเวียน ซูกับจางจวินหนิงถึงได้เชิญทั้งคู่กลับมาร่วมงานกันอีกครั้ง รวมไปถึงเฉินเอินเฟิงที่กลับมารวมตัวกันเป็นครั้งที่ 2 หลังเจอกันแล้วในเรื่อง Age of Rebellion
Peter Ho: สำหรับคุณวิเวียนซู (Vivian Hsu) ผมรู้จักกับเธอมา 20 กว่าปีแล้ว แต่ว่าเราไม่เคยทำงานร่วมกัน ผมชอบนิสัยของเธอ เธอเป็นคนที่มีความรับผิดชอบสูงมาก รับผิดชอบต่อครอบครัว ไม่ว่าจะเป็นแม่ พี่สาวหรือว่าน้องชายของเธอ สำหรับโปรดิวเซอร์แล้ว ผมก็ต้องการคนที่มีความรับผิดชอบ ซึ่งในด้านนี้เธอก็ตอบโจทย์ผมมาก ส่วนในด้านการแสดง เธอเป็นนักแสดงที่ดีมาก มีความสามารถ เธอไม่ใช่คนที่ยึดติด ให้ทำอะไรก็สามารถทำได้หมด
สำหรับคุณจวินหนิง (Ning Chang) ผมรู้จักกับเธอมานานมาก เคยได้ร่วมงานกับเธอไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์ ละคร โฆษณา เอ็มวี ร่วมงานด้วยกันมาหมดแล้ว คุ้นเคยกันมาก ผมเลยหวังว่าเธอจะมาร่วมในผลงานชิ้นสำคัญของผมในครั้งนี้ เรื่อง Age of Rebellion เธอได้เข้าแค่ 2-3 ฉาก แต่สำหรับผมแล้วมันยังไม่พอ เพราะมิตรภาพระหว่างผมกับเธอดีมาก ผมจึงทาบทามเธอให้มาแสดงเป็นตัวละครหลักในเรื่อง บวกกับทุกคนมักจะรู้สึกว่าเธอเป็นผู้หญิงที่สวยสง่า อ่อนโยน แต่ว่าจริงๆแล้วเธอก็มีด้านที่แมนเหมือนกัน ดังนั้นในครั้งนี้ผมจึงให้เธอตัดผมสั้น เป็นแบบ Rocker ยอมทำทุกอย่างเพื่อสามีที่เธอรัก มีบุคลิกที่พิเศษไม่เหมือนใคร
สำหรับเฉินเอินเฟิง (Ivan Chen) ผมรู้จักเขามานานมากๆ แล้ว รู้จักมา 20 กว่าปี ตอนแรกเราทั้งสองคนเริ่มจากการเป็นนายแบบมาด้วยกัน งานแฟชั่นโชว์แรกของผมก็เป็นเวทีแรกของเขาเช่นกัน แล้วเราก็โดนด่ามาพร้อมๆ กัน เริ่มต้นจากศูนย์เหมือนกันแล้วก็ค่อยๆเดินมาจนถึงจุดนี้ เราเลยไม่เคยขาดการติดต่อกันเลย เราต่างก็เป็นเพื่อนสนิทที่สุดของกันและกัน เมื่อ 10 ปีที่แล้วเขาเคยเล่นภาพยนตร์เรื่องหนึ่ง เรื่องนั้นเขาไม่ชอบมันเลย ซึ่งผลตอบรับก็ออกมาไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่ เขาจึงไม่รับแสดงภาพยนตร์อีกเลย แต่ในเรื่อง Age of Rebellion ผมรู้สึกว่าบุคลิกของเขาเหมาะกับการเล่นภาพยนตร์ ผมเลยดึงดันให้เขากลับมาแสดงให้ได้ ผลคือเขาได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลนักแสดงสมทบยอดเยี่ยม ผมชื่นชอบการแสดงของเขา เพราะว่าเขาไม่ได้ใช้เทคนิคเหมือนเวลาเรียนการแสดง มันค่อนข้างเรียล ผมเลยเลือกเขามาแสดงในเรื่องนี้ ในเรื่องที่แล้วเขาเล่นเป็นนักฆ่า แต่ในเรื่องนี้ให้เขาแสดงเป็นผู้ชายอบอุ่นและอ่อนโยน
คาแรคเตอร์ต่างๆ ในเรื่องมีความเข้มข้น และยากในการจะนำเสนอออกมายังไงบ้าง
Peter Ho: สำหรับคุณวิเวียนซู Vivian Hsu ความยากก็คือจะทำยังไงให้เธอดูเหมือนคนยากจน เพราะทุกคนรู้สึกว่าเธอเป็นผู้หญิงสวย มีออร่า การที่ให้เธอแสดงเป็นคนธรรมดามันเป็นเรื่องที่ยากที่สุดเลย เธอจะต้องเพิ่มน้ำหนักถึง 7 กิโลเพื่อที่จะมาแสดงในเรื่องนี้ เดิมทีแล้วบทของเธอจะต้องเป็นพนักงานทำความสะอาด แต่มันยากที่จะให้คนดูเห็นว่าเธอเป็นคนทำความสะอาดจริงๆ ดังนั้นผมเลยเปลี่ยนให้เธอเป็นพนักงานที่รับผิดชอบโซนอาหารทะเล เวลาผู้ชมดูก็จะรู้สึกเข้าถึงได้มากกว่า การแต่งตัวก็จะต้องดูเป็นคนธรรมดา แล้วก็ต้องทำให้สายตาของเธอดูไม่มีออร่ามาก เป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ที่ผมรู้สึกว่ามันสำคัญมาก
สำหรับคุณจวินหนิง (Ning Chang) ทักษะการแสดงของเธอดีมาก แต่จะทำยังไงให้ผู้ชมเห็นมุมที่แตกต่างของเธอ ฉากที่เธอจะต้องแสดงอารมณ์ร้ายๆออกมา ด่าด้วยถ้อยคำหยาบคาย จากนั้นก็แสดงให้เห็นถึงความอ่อนแอ ผมอยากให้มันต่างกันสุดขั้ว ผู้หญิงที่แข็งแกร่งคนหนึ่งกับตอนที่เธออ่อนแอหมดหนทาง ให้ผู้ชมรู้สึกเห็นอกเห็นใจเธอ
สำหรับคุณ Kaiser Chuang ก่อนหน้านี้เขาแสดงแต่บทผู้ชายแข็งแกร่ง เขาเป็นแฟนคลับของโจวซิงฉือ เขาก็จะใส่วิธีการพูดแบบโจวซิงฉือเข้าไป แต่ครั้งนี้ผมเพิ่มจุดต่างๆลงไปเพื่อให้ออกมาไม่เหมือนเดิม โดยเพิ่มความสดใสมีชีวิตชีวา โง่เขลา และความน่ารักลงไปในซีรีส์เรื่องนี้ด้วย
สำหรับเฉินเอินเฟิง (Ivan Chen) ก่อนหน้านี้เขารับบทเป็นนักฆ่า แต่ว่าครั้งนี้รับบทเป็นผู้ชายอ่อนโยน ด้วยความที่เขาเป็นคนที่สูงมาก สูงกว่าผมอีก และมีบุคลิกลักษณะท่าทางเหมือนนายแบบอยู่ตลอดเวลา จะต้องปรับทำให้เขาดูอ่อนลงมา ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องน้ำเสียง จังหวะการพูด หรือบุคลิกจะต้องไม่เหมือนกับเรื่องเดิม
การใช้โทนสีภาพเหมือนกำลังดูภาพยนตร์ เป็นเสน่ห์ในการเล่าเรื่องชวนตื่นเต้นลุ้นระทึกมากๆ พูดถึงเทคนิคการถ่ายทำหน่อย
Peter Ho: โดยส่วนตัวผมเป็นคนที่สนใจในเรื่องการถ่ายภาพ/วีดีโอ ผมจะค่อนข้างใส่ใจภาษาที่สื่อออกมาผ่านกล้อง อย่างเวลาดูซีรีส์เกาหลีในหลายๆเรื่อง ส่วนมากมักจะมีมุมกล้องหลายมุม และตัดฉากออกมาเยอะๆ ท่อนหนึ่งมีไม่กี่วินาที นี่เป็นวิธีการหนึ่งที่ทำให้การดำเนินเรื่องเร็ว แต่วิธีการของผมคือเป็นซีนยาว แต่ไม่ได้หยุดนิ่ง คือกล้องจะตามติดตัวนักแสดงไป ภาพที่ออกมาก็จะไม่เหมือนกับกล้องกำลังถ่ายทำอยู่ แต่จะเหมือนกับคุณเข้าไปอยู่ในสถานการณ์นั้นๆ และกำลังดูเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ สำหรับผมแล้วคิดว่าวิธีการถ่ายทำแบบนี้มันจะค่อนข้างเหมาะกับเรื่องนี้ ทำให้ผู้ชมเข้าถึงอารมณ์ความรู้สึกของตัวละครได้มากขึ้น ไม่ถูกตัดอารมณ์โดยการเปลี่ยนฉากบ่อยๆ
เรื่องราวต่อนข้างดาร์กและดราม่ามาก คุณมีปัญหาหรือความยากที่ต้องเผชิญในระหว่างการถ่ายทำบ้างหรือไม่?
Peter Ho: ในระหว่างถ่ายทำซีรีส์เรื่องนี้อยู่ในช่วงที่โควิดระบาดหนัก การยืมใช้สถานที่ถ่ายทำเป็นเรื่องที่ยากมาก ถ้าเกิดว่ามีทีมงานคนใดคนหนึ่งมีปัญหา เราก็ต้องพักกอง ทุกอย่างก็จะต้องหยุด ในระหว่างการถ่ายทำทุกคนต่างก็เครียดมาก อีกทั้งเนื่องจากอยู่ในช่วงโควิด สถานที่ถ่ายทำที่ก่อนหน้านี้ตกลงกันไว้เรียบร้อยแล้ว พอวันถ่ายทำจริงไปถึงที่นั่น อยู่ๆก็บอกว่าถ่ายไม่ได้แล้ว พวกเราก็ต้องรีบหาสถานที่ถ่ายทำใหม่ทันที เพราะเราไม่สามารถเลื่อนวันและเวลาได้ เนื่องจากคิวของนักแสดงแต่ละท่านก็มีเวลาจำกัด พวกเขายังมีซีรีส์เรื่องอื่นที่จะต้องไปแสดงต่อจากนี้อีก เพราะฉะนั้นก็จะต้องแก้บทสดตรงนั้นทันที ต้องตั้งมุมกล้องใหม่ทั้งหมดซึ่งก่อนหน้านี้ผมได้เตรียมการมาหมดแล้วว่าจะใช้มุมกล้องตรงไหนบ้าง เป็นการทำผลงานออกมาโดยผ่านสภาพแวดล้อมความกดดันต่างๆมากมายจริงๆ ครับ
เล่าถึงการทำงานในกองถ่าย รวมถึงการทำงานกับ HBO
Peter Ho: ผมต้องขอบคุณ HBO ที่ซื้อซีรีส์เรื่องนี้ของผม ในตอนแรกผมลงทุนกับนักลงทุนท่านหนึ่ง หลังจากเริ่มถ่ายทำแล้ว HBO ถึงมาซื้อลิขสิทธิ์ซีรีส์ของผม ทาง HBO ไม่ได้ออกทุนให้ผมสร้างเรื่องนี้ สำหรับผมแล้วมันถือว่าเป็นความเสี่ยงมาก ถ้าเกิดไม่มีใครซื้อผมก็คงจะขาดทุน ประจวบกับ HBO ชอบซีรีส์เรื่องนี้ของผมพอดี ก่อนหน้านี้ผมดูซีรีส์เรื่อง Game of thrones ที่ฉายทาง HBO ผมจึงรู้สึกเป็นเกียรติและดีใจมากๆที่ซีรีส์ของผมจะได้เข้าฉายในช่องเดียวกันกับซีรีส์ที่ผมชื่นชอบมากๆ อย่าง Game of thrones
มีอะไร hidden ในเรื่องนี้ที่คุณอยากบอกโลกไหม
Peter Ho: การแสดงความจริงที่เลวร้ายที่สุดให้ผู้ชมเห็น ความสัมพันธ์ของคู่หนึ่งถ้าเกิดว่ามันมีบางอย่างที่ผิดพลาดไป อาจจะส่งผลให้เกิดความเศร้าโศกครั้งยิ่งใหญ่ก็ได้ มันอาจจะเป็นสิ่งเล็กๆ ที่เกิดจากความละเลยในการสื่อสาร อาจจะเกิดจากความขี้ขลาดและขี้อายภายในจิตใจ ตัวอย่างเช่น ในตอนที่ 3 Zhi-Sheng ค้นพบว่าเขาเข้าใจภรรยาผิดมาตลอด เขาคิดว่าภรรยานอกใจไปมีคนอื่น แต่จริงๆแล้วภรรยาของเขาไม่ได้นอกใจ อันที่จริงเขาสามารถถามภรรยาเขาได้ตั้งแต่ 2 ปีที่แล้ว แต่ด้วยความหยิ่งในศักดิ์ศรีและความน้อยเนื้อต่ำใจของเขาเอง เขากลัวว่าพอถามไปแล้วภรรยาเขาจะตอบว่า ใช่ ฉันมีคนอื่น เขาดีกว่าคุณมาก เขากลัวว่าตัวเองจะไม่สามารถที่จะรับฟังคำพูดเหล่านี้ได้ ดังนั้นเขาจึงเก็บไว้ในใจมาตลอด 2 ปี ผลก็คือเขาเข้าใจภรรยาของเขาผิดจริงๆนี่ก็เป็นผลจากความความน้อยเนื้อต่ำใจและจิตใจที่อ่อนแอของเขา ทำให้เกิดโศกนาฏกรรมครั้งนี้ ซึ่งเรื่องพวกนี้เราอาจจะเจอได้ทุกๆวันในชีวิตประจำวัน เราสามารถสื่อสารกับฝ่ายตรงข้ามได้โดยตรง แต่ด้วยความที่เราขี้ขลาด เย่อหยิ่งในศักดิ์ศรี เราเลยเลี่ยงที่จะแก้ไขปัญหาอย่างถูกวิธี ดังนั้นผมจึงอยากจะถ่ายทอดเรื่องนี้ไปถึงผู้ชม
อยากให้ซีรีส์เรื่อง Who’s By Your Side นี้ถูกจดจำในสายตาผู้ชมแบบไหน
Peter Ho: ผมคิดว่าซีรีส์รักเรื่องอื่นอาจจะเป็นเหมือนลูกอมหวานๆ แต่ว่าซีรีส์เรื่องนี้เป็นเหมือนยาขม แต่จะมีรสหวานในตอนท้าย ให้ความรู้สึกว่าสิ่งนี้เป็นสิ่งที่ดีต่อร่างกาย จะเป็นการสะท้อนความสัมพันธ์ของคนที่อยู่รอบข้าง ผมหวังว่าให้ทุกคนยอมที่จะสื่อสารกันมากยิ่งขึ้น
ซีรีส์ Who’s By Your Side สามารถรับชมตอนใหม่ได้ทุกวันอาทิตย์ เวลา 20.00 น. เฉพาะทาง HBO GO เท่านั้น
อัลบั้มภาพ 26 ภาพ